ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เครือข่ายประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) เตรียมรวมตัวขึ้นเหนือ บุกพบ “นายกฯปู”ระหว่างประชุม ครม.สัญจร ที่เชียงใหม่เสาร์-อาทิตย์นี้ หลังรัฐบาลเพื่อไทยเมินแก้ปัญหาตามข้อเรียกร้อง ทั้งที่เคยส่งผู้ใหญ่ในพรรคร่วมทำสัญญาประชาคมกันมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) เป็นเครือข่ายของเกษตรกรรายย่อยและคนจนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาประเทศที่ผิดพลาดในอดีต ประกอบด้วย เครือข่ายสลัม 4 ภาค สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ(สกน.) เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคเหนือ(คปน.) เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน(คปอ.) สมัชชาคนจน (สคจ.) เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง (คปสม.) เครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าชีวมวล และคัดค้านโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จังหวัดอุบลราชธานี ได้ออกแถลงการณ์
ทั้งนี้ ในแถลงการณ์ มีเนื้อหาระบุว่า ในช่วงก่อนการเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมา ขปส. ได้ร่วมกับองค์กรภาคประชาชนจำนวน 40 องค์กร จัดเวทีสัญญาประชาคมประชาชนพบพรรคการเมืองขึ้นเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.54 ณ มหาวิทยาลัยรังสิต กรุงเทพมหานคร เพื่อยื่นข้อเสนอและแนวทางการแก้ไขปัญหาให้พรรคการเมืองนำไปบรรจุไว้เป็นนโยบายของรัฐบาลหากชนะการเลือกตั้ง โดยพรรคเพื่อไทยได้มอบหมายให้นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเดินทางไปร่วมเวทีและได้ลงนามในสัญญาประชาคม พร้อมให้คำมั่นว่าหากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง และได้จัดตั้งรัฐบาลจะนำข้อเสนอของภาคประชาชนไปบรรจุไว้เป็นนโยบายรัฐบาล
หลังการเลือกตั้ง ขปส. ได้ใช้ความพยายามทุกวิถีทางในการประสานงานขอเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อติดตามทวงถามสัญญาประชาคมที่พรรคเพื่อไทยให้คำมั่นไว้ โดยการส่งไปรษณียบัตร การยื่นจดหมายผ่าน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทย และผู้ว่าราชการจังหวัด รวมทั้งการรณรงค์โดยใช้ขบวนมอเตอร์ไซค์เดินทางไปขอเข้าพบ ในระหว่างวันที่ 6-8 ส.ค.54 ซึ่งได้มีการมอบหมายให้นายปลอดประสพ สุรัสวดี นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ มารับข้อเรียกร้องและสัญญาว่าจะนำข้อเรียกร้องทั้งหมด
โดยเฉพาะเรื่องการกระจายการถือครองที่ดิน การแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัย ปัญหาความเหลื่อมล้ำและการสร้างความเป็นธรรม บรรจุไว้ในนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งการแต่งตั้งกลไกร่วมระหว่างรัฐบาลกับภาคประชาชน เพื่อสานต่อการแก้ไขปัญหาให้เป็นรูปธรรม โดยเร็ว
ต่อมาวันที่ 3 ต.ค.54 ขปส. ได้มาติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้ น.ส.กฤษณา สีหลักษณ์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ มาเจรจา จนบรรลุมีข้อตกลงหลายเรื่อง โดยเฉพาะการแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการร่วม ระหว่างรัฐบาลกับพวกเราเพื่อเป็นกลไกหลักในการแก้ไขปัญหาจากนั้นเป็นต้นมา
แต่จนถึงขณะนี้ เวลาผ่านมาหลายเดือน กลับไม่มีความคืบหน้าใด ๆ เลย ขณะที่หลายพื้นที่ ก็มีการจับกุมดำเนินคดีกับชาวบ้านมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาของพวกเรา อันหมายถึงความไม่จริงใจของรัฐบาล
ดังนั้น ขปส.ขอเรียกร้องให้รัฐบาล เร่งดำเนินการ ดังนี้
1.ยุติการจับกุมดำเนินคดี ในพื้นที่นำร่องโฉนดชุมชน และชาวบ้านในเขตวัฒนธรรมพิเศษชาวเล
2.เร่งแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการเพื่อแก้ไขปัญหาของ ขปส. ตามผลการเจรจวันที่ 3 ต.ค.54 พร้อมกำหนดวันประชุมโดยเร็ว
3.ให้เร่งดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน โดยมีตัวแทน ขปส. ร่วมเป็นกรรมการ
4.ให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณ สำหรับดำเนินการจัดซื้อที่ดินเพื่อแก้ไขปัญหาของคนไร้บ้าน
5.ให้รัฐบาลเร่งดำเนินการกำหนดพื้นที่ (ชุมชน,พิธีกรรม,พื้นที่ทำกินในทะเล) เขตวัฒนธรรมพิเศษชาวเล และสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินการ
6.เร่งผลักดันนโยบายที่รัฐบาลแถลงไว้ต่อรัฐสภา ทั้งจัดทำโฉนดชุมชน เร่งปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และการแก้ไขปัญหาคดีโลกร้อน เร่งกระจายการถือครองที่ดิน ด้วยมาตรการด้านการจัดเก็บภาษีที่ดินในอัตราก้าวหน้า เร่งผลักดัน พ.ร.บ.สิทธิชุมชน ในการจัดการทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า โดยชุมชนมีส่วนร่วม
พร้อมกันนั้น ขปส. ยังมีมติเคลื่อนไหวติดตามการแก้ไขปัญหาดังกล่าวข้างต้น โดยจะรวมตัวกันไปพบกับนายกฯในการประชุม ครม.สัญจร ที่เชียงใหม่ เพื่อผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ตั้งแต่ 14 ม.ค.55 ก่อนที่ ครม.จะประชุมในวันที่ 15 ม.ค.55
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) เป็นเครือข่ายของเกษตรกรรายย่อยและคนจนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาประเทศที่ผิดพลาดในอดีต ประกอบด้วย เครือข่ายสลัม 4 ภาค สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ(สกน.) เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคเหนือ(คปน.) เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน(คปอ.) สมัชชาคนจน (สคจ.) เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง (คปสม.) เครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าชีวมวล และคัดค้านโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จังหวัดอุบลราชธานี ได้ออกแถลงการณ์
ทั้งนี้ ในแถลงการณ์ มีเนื้อหาระบุว่า ในช่วงก่อนการเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมา ขปส. ได้ร่วมกับองค์กรภาคประชาชนจำนวน 40 องค์กร จัดเวทีสัญญาประชาคมประชาชนพบพรรคการเมืองขึ้นเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.54 ณ มหาวิทยาลัยรังสิต กรุงเทพมหานคร เพื่อยื่นข้อเสนอและแนวทางการแก้ไขปัญหาให้พรรคการเมืองนำไปบรรจุไว้เป็นนโยบายของรัฐบาลหากชนะการเลือกตั้ง โดยพรรคเพื่อไทยได้มอบหมายให้นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเดินทางไปร่วมเวทีและได้ลงนามในสัญญาประชาคม พร้อมให้คำมั่นว่าหากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง และได้จัดตั้งรัฐบาลจะนำข้อเสนอของภาคประชาชนไปบรรจุไว้เป็นนโยบายรัฐบาล
หลังการเลือกตั้ง ขปส. ได้ใช้ความพยายามทุกวิถีทางในการประสานงานขอเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อติดตามทวงถามสัญญาประชาคมที่พรรคเพื่อไทยให้คำมั่นไว้ โดยการส่งไปรษณียบัตร การยื่นจดหมายผ่าน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทย และผู้ว่าราชการจังหวัด รวมทั้งการรณรงค์โดยใช้ขบวนมอเตอร์ไซค์เดินทางไปขอเข้าพบ ในระหว่างวันที่ 6-8 ส.ค.54 ซึ่งได้มีการมอบหมายให้นายปลอดประสพ สุรัสวดี นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ มารับข้อเรียกร้องและสัญญาว่าจะนำข้อเรียกร้องทั้งหมด
โดยเฉพาะเรื่องการกระจายการถือครองที่ดิน การแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัย ปัญหาความเหลื่อมล้ำและการสร้างความเป็นธรรม บรรจุไว้ในนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งการแต่งตั้งกลไกร่วมระหว่างรัฐบาลกับภาคประชาชน เพื่อสานต่อการแก้ไขปัญหาให้เป็นรูปธรรม โดยเร็ว
ต่อมาวันที่ 3 ต.ค.54 ขปส. ได้มาติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้ น.ส.กฤษณา สีหลักษณ์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ มาเจรจา จนบรรลุมีข้อตกลงหลายเรื่อง โดยเฉพาะการแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการร่วม ระหว่างรัฐบาลกับพวกเราเพื่อเป็นกลไกหลักในการแก้ไขปัญหาจากนั้นเป็นต้นมา
แต่จนถึงขณะนี้ เวลาผ่านมาหลายเดือน กลับไม่มีความคืบหน้าใด ๆ เลย ขณะที่หลายพื้นที่ ก็มีการจับกุมดำเนินคดีกับชาวบ้านมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาของพวกเรา อันหมายถึงความไม่จริงใจของรัฐบาล
ดังนั้น ขปส.ขอเรียกร้องให้รัฐบาล เร่งดำเนินการ ดังนี้
1.ยุติการจับกุมดำเนินคดี ในพื้นที่นำร่องโฉนดชุมชน และชาวบ้านในเขตวัฒนธรรมพิเศษชาวเล
2.เร่งแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการเพื่อแก้ไขปัญหาของ ขปส. ตามผลการเจรจวันที่ 3 ต.ค.54 พร้อมกำหนดวันประชุมโดยเร็ว
3.ให้เร่งดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน โดยมีตัวแทน ขปส. ร่วมเป็นกรรมการ
4.ให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณ สำหรับดำเนินการจัดซื้อที่ดินเพื่อแก้ไขปัญหาของคนไร้บ้าน
5.ให้รัฐบาลเร่งดำเนินการกำหนดพื้นที่ (ชุมชน,พิธีกรรม,พื้นที่ทำกินในทะเล) เขตวัฒนธรรมพิเศษชาวเล และสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินการ
6.เร่งผลักดันนโยบายที่รัฐบาลแถลงไว้ต่อรัฐสภา ทั้งจัดทำโฉนดชุมชน เร่งปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และการแก้ไขปัญหาคดีโลกร้อน เร่งกระจายการถือครองที่ดิน ด้วยมาตรการด้านการจัดเก็บภาษีที่ดินในอัตราก้าวหน้า เร่งผลักดัน พ.ร.บ.สิทธิชุมชน ในการจัดการทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า โดยชุมชนมีส่วนร่วม
พร้อมกันนั้น ขปส. ยังมีมติเคลื่อนไหวติดตามการแก้ไขปัญหาดังกล่าวข้างต้น โดยจะรวมตัวกันไปพบกับนายกฯในการประชุม ครม.สัญจร ที่เชียงใหม่ เพื่อผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ตั้งแต่ 14 ม.ค.55 ก่อนที่ ครม.จะประชุมในวันที่ 15 ม.ค.55