ASTVผู้จัดการรายวัน-ตลาดหลักทรัพย์ฯเล็งขอรมว.คลังยกเว้นภาษีแคปปิตอลเกนให้นักลงทุนเทรดหุ้นอาเซียนลิ้งค์เกจ จากจะเข้ามอบนโยบายบอร์ดตลท. 21 มี.ค. นี้ หวัง กระตุ้นความน่าสนใจจากปัจจุบันเก็บเท่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา “จรัมพร” เชื่อ เม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าอีก เตรียมเดินสายโรดโชว์ต่อเนื่อง พร้อมมั่นใจเพิ่มมาร์เกตแคปใหม่ปีนี้ตามเป้า 2แสนล้านบาท
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯเตรียมเสนอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ในการขอยกเว้นภาษีกำไรจากการขายหุ้น(แคปปิตอลเกน)กับนักลงทุนที่มีการลงทุนในกระดานหุ้นอาเซียน หรือ อาเซียนลิงค์เกจที่จะมีการเปิดซื้อขายในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อต้องการสนับสนุนให้นักลงทุนไทยมีการเข้ามาลงทุน เพราะ หากมีการลงทุนในการซื้อขายในต่างประเทศนั้นจะต้องเสียเท่ากับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
"นายกิตติรัตน์ จะเข้ามาร่วมการประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯในวันที่ 21 มีนาคม นี้ เพื่อ มอบนโยบายการดำเนินงานให้กับตลาดหลักทรัพย์ฯซึ่งตลาดหลักทรัพย์เตรียมที่เสนอเรื่องที่จะขอให้ทางคลังและรัฐบาลมีการช่วยให้ตลาดทุนไทยมีการเติบโตที่ดี เช่น จะขอยกเว้นภาษีแคปปิตอลเกนให้กับนักลงทุนที่เทรดหุ้นต่างประเทศที่อยู่ในอาเซียนลิ้งค์เกจ"นายจรัมพร กล่าว
สำหรับนักลงทุนต่างประเทศที่มีการซื้อสุทธิหุ้นไทยกว่า 6 หมื่นล้านบาทแล้ว ซึ่งถือว่าไม่มากเมื่อเทียบกับสภาพคล่องเม็ดเงินลงทุนทั่วโลกที่มีอยู่จำนวนมาก เชื่อว่าเม็ดเงินต่างชาติยังคงไหลเข้ามาลงทุนต่อเนื่องจาก ที่ยังไม่มีปัจจัยลบเข้ามากระทบทำให้นักลงทุนต่างชาติต้องมีการขายหุ้นออกไป และยังมีกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศหลายกลุ่มที่ยังไม่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯจะต้องมีการทำการตลาดมากขึ้น ในการไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์)ต่างประเทศเพราะ นักลงทุนต่างประเทศยังไม่รู้เรื่องปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทย เช่น ปริมาณการซื้อขายต่อวันในตลาดหุ้นไทยสูงถึง 3 หมื่นล้านบาทต่อวันใกล้เคียงกับตลาดหุ้นสิงคโปร์ และตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการสนับสนุนให้บจ.มีการจ่ายหุ้นปันผลมากขึ้นเพื่อที่จะได้เพิ่มสภาพคล่องหุ้นมากขึ้น
นอกจากนี้ กำไรบจ.เติบโตดี ซึ่งการที่บจ.ได้ลดภาษีนิติบุคคลจาก 30% เหลือ 23% นั้นทำให้บจ.มีกำไรเพิ่มขึ้น 6-7% ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมานั้นถือว่ามีปัจจัยพื้นฐานที่รองรับ ซึ่งในปีนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯมีแผนที่จะไปโรดโชว์ต่างประเทศ ประมาณ 7 ครั้ง ซึ่งในช่วงไตรมาส 1/55 ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ไปโรดโชว์แล้ว 4 ครั้ง ที่ประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย ฯลฯและมีการให้ข้อมูลแก่นักลงทุนต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยต่อด้วย เพื่อเป็นการให้ข้อมูลเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง
นายจรัมพร กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯมั่นใจว่าจะสามารถเพิ่มมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เกตแคป)ใหม่ปีนี้ได้ 2 แสนล้านบาท (ณ วันเข้าจดทะเบียน) แบ่งเป็น บริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่จำนวน 1.2 แสนล้านบาท และ บริษัทจดทะเบียนมีการระดมทุนในการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป ( PO) จำนวน 7.5 หมื่นล้านบาท จากที่จะมีไทยแอร์เอเซีย เข้ามาจดทะเบีน กองทุน เทสโก้ โลตัน เข้ามาจดทะเบียนซึ่งมีมาร์เกตแคป 1.8 หมื่นล้านบาทฯลฯ
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯเตรียมเสนอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ในการขอยกเว้นภาษีกำไรจากการขายหุ้น(แคปปิตอลเกน)กับนักลงทุนที่มีการลงทุนในกระดานหุ้นอาเซียน หรือ อาเซียนลิงค์เกจที่จะมีการเปิดซื้อขายในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อต้องการสนับสนุนให้นักลงทุนไทยมีการเข้ามาลงทุน เพราะ หากมีการลงทุนในการซื้อขายในต่างประเทศนั้นจะต้องเสียเท่ากับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
"นายกิตติรัตน์ จะเข้ามาร่วมการประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯในวันที่ 21 มีนาคม นี้ เพื่อ มอบนโยบายการดำเนินงานให้กับตลาดหลักทรัพย์ฯซึ่งตลาดหลักทรัพย์เตรียมที่เสนอเรื่องที่จะขอให้ทางคลังและรัฐบาลมีการช่วยให้ตลาดทุนไทยมีการเติบโตที่ดี เช่น จะขอยกเว้นภาษีแคปปิตอลเกนให้กับนักลงทุนที่เทรดหุ้นต่างประเทศที่อยู่ในอาเซียนลิ้งค์เกจ"นายจรัมพร กล่าว
สำหรับนักลงทุนต่างประเทศที่มีการซื้อสุทธิหุ้นไทยกว่า 6 หมื่นล้านบาทแล้ว ซึ่งถือว่าไม่มากเมื่อเทียบกับสภาพคล่องเม็ดเงินลงทุนทั่วโลกที่มีอยู่จำนวนมาก เชื่อว่าเม็ดเงินต่างชาติยังคงไหลเข้ามาลงทุนต่อเนื่องจาก ที่ยังไม่มีปัจจัยลบเข้ามากระทบทำให้นักลงทุนต่างชาติต้องมีการขายหุ้นออกไป และยังมีกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศหลายกลุ่มที่ยังไม่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯจะต้องมีการทำการตลาดมากขึ้น ในการไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์)ต่างประเทศเพราะ นักลงทุนต่างประเทศยังไม่รู้เรื่องปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทย เช่น ปริมาณการซื้อขายต่อวันในตลาดหุ้นไทยสูงถึง 3 หมื่นล้านบาทต่อวันใกล้เคียงกับตลาดหุ้นสิงคโปร์ และตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการสนับสนุนให้บจ.มีการจ่ายหุ้นปันผลมากขึ้นเพื่อที่จะได้เพิ่มสภาพคล่องหุ้นมากขึ้น
นอกจากนี้ กำไรบจ.เติบโตดี ซึ่งการที่บจ.ได้ลดภาษีนิติบุคคลจาก 30% เหลือ 23% นั้นทำให้บจ.มีกำไรเพิ่มขึ้น 6-7% ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมานั้นถือว่ามีปัจจัยพื้นฐานที่รองรับ ซึ่งในปีนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯมีแผนที่จะไปโรดโชว์ต่างประเทศ ประมาณ 7 ครั้ง ซึ่งในช่วงไตรมาส 1/55 ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ไปโรดโชว์แล้ว 4 ครั้ง ที่ประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย ฯลฯและมีการให้ข้อมูลแก่นักลงทุนต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยต่อด้วย เพื่อเป็นการให้ข้อมูลเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง
นายจรัมพร กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯมั่นใจว่าจะสามารถเพิ่มมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เกตแคป)ใหม่ปีนี้ได้ 2 แสนล้านบาท (ณ วันเข้าจดทะเบียน) แบ่งเป็น บริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่จำนวน 1.2 แสนล้านบาท และ บริษัทจดทะเบียนมีการระดมทุนในการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป ( PO) จำนวน 7.5 หมื่นล้านบาท จากที่จะมีไทยแอร์เอเซีย เข้ามาจดทะเบีน กองทุน เทสโก้ โลตัน เข้ามาจดทะเบียนซึ่งมีมาร์เกตแคป 1.8 หมื่นล้านบาทฯลฯ
