xs
xsm
sm
md
lg

ตลท.กำไรฟี "หุ้น-อนุพันธ์" อานิสงส์วอลุ่มเทรดพุ่ง-คาดปี 55 โตต่อเนื่อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตลาดหลักทรัพย์ฯ โชว์กำไรปี54 กว่า 1,000 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน เหตุไม่มีกำไรพิเศษ แต่หากเทียบกำไรจากการดำเนินงานปกติปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลเงินกองทุนเพิ่มเป็น 1.8 หมื่นล้านบาท “จรัมพร”ตั้งเป้ารายได้ค่าธรรมเนียมเทรดอนุพันธ์ปี 55 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเท่ากับค่าธรรมเนียมเทรดหุ้น จากวอลุ่มเทรดอนุพันธ์ที่เพิ่มขึ้น มั่นใจรายได้ปี55 กำไรเติบโตต่อเนื่องจากแผนการดำเนินงานเพิ่มสินค้า-วอลุ่ม-ลดต้นทุนดำเนินงาน

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปี 2554 ตลาดหลักทรัพย์ฯมีกำไรสุทธิ 1,000 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยหากเทียบกับปี 2553 ที่มีกำไรสุทธิ 1,128 ล้านบาท เนื่องจาก ตลาดหลักทรัพย์ฯไม่มีกำไรพิเศษ เหมือนกับปี 2553 ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯมีกำไรจากการขายที่ดินจำนวน 422 ล้านบาท และกำไรจากพอร์ตการลงทุนไม่มากนัก จากที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลดลง ขณะที่ปี 2553 ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 40%

ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบทางด้านรายได้จากการดำเนินงานนั้นในปี 2553 ปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากรายได้ธุรกิจหลักทรัพย์ (หุ้น) และ ธุรกิจตราสารอนุพันธ์ เพิ่มขึ้นจากค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น จากมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น2.9 หมื่นล้านบาท และมูลค่าการซื้อขายอนุพันธ์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 4.1 สัญญาต่อวัน จาก1.8 หมื่นสัญญาต่อวัน โดยปีที่ผ่านมามีรายได้จากค่าธรรมเนียมซื้อขายหุ้นและอนุพันธ์อยู่ที่ 1,475 ล้านบาท และ รายได้จากธุรกิจบริหารข้อมูล ธุรกิจบริการสมาชิก ธุรกิจงานบริการรับฝาก และงานธุรกิจงานบริการผู้ออกหลักทรัพย์และ รายได้อื่นๆมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น

สำหรับผลการดำเนินงานในปี2555 คาดว่าจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2554 เนื่องจาก ตลาดหลักทรัพย์ฯคาดว่ามูลค่าการซื้อขายหุ้นเฉลี่ยต่อวันจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 3.1-3.2 หมื่นล้านบาท จากปี 2554 อยู่ที่ 2.9 หมื่นล้านบาทต่อวัน และมูลค่าการซื้อขายอนุพันธ์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 5.5 -5.7หมื่นสัญญาต่อวัน จาก 4.1 สัญญาต่อวัน และคาว่ารายได้ธุรกิจอื่นๆจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน และตลาดหลักทรัพย์ฯมีแผนที่จะลดต้นทุนในการดำเนินงานลดลง

นายจรัมพร กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯคาดว่าสัดส่วนรายได้จากค่าธรรมเนียมการซื้อขายอนุพันธ์ ในปี 2555 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 50% เท่ากับรายได้จากค่าธรรมเนียมการซื้อขายหุ้น จากในปี 2554 ที่มีสัดส่วน40% เนื่องจาก มองว่าการที่มูลค่าการซื้อขายหุ้นจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจะต้องมีหุ้นขนาดใหญ่เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น ซึ่งถือว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การซื้อขายอนุพันธ์มูลค่าการซื้อขายจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น เพราะ สามารถออกตราสารอนุพันธ์ได้จำนวนมากเพียงอ้างอิงหุ้นสามัญเพียง 1 หลักทรัพย์ เท่านั้น และนักลงทุนมีความรู้ความเข้าใจในการลงทุนในอนุพันธ์มากขึ้น และตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการเพิ่มสภาพคล่องสินค้าในตลาดอนุพันธ์มากขึ้น เช่น สัญญาซื้อขายล่วงหน้าอ้างอิงน้ำมัน (ออยล์ฟิวเจอร์ส) ฯลฯ

“ปี54รายได้จากค่าธรรมเนียมซื้อขายอนุพันธ์ปรับตัวเพิ่มขึ้น115%จากปี53 จากปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น ทำให้สัดส่วนค่าธรรมเนียมการซื้อขายอนุพันธ์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 40% จากปี 53 อยู่ที่25% ทำให้สัดส่วนค่าธรรมเนียมการซื้อขายหุ้นอยู่ที่ 60% จากปี 53 อยู่ที่ 75% และในปี 55 คาดว่าสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมซื้อขายหุ้น และอนุพันธ์ จะเท่ากัน โดยที่จะไม่รวมรายได้จากธุรกิจบริการข้อมูล บริการหลักทรัพย์ฯลฯ ”นายจรัมพร กล่าว

อย่างไรก็ตามจากการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯมีกำไรเพิ่มขึ้น1,000 ล้านบาท จะทำให้เงินกองทุนของตลาดหลักทรัพย์ปี54เพิ่มอีก 1,000 ล้านบาทเช่นกัน จากปี 2553 อยู่ที่17,119 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น