xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยสูงสุดรอบ16ปี ต่างชาติซื้อสุทธิ3.4พันล้านดันดัชนีดีดขึ้น14จุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน - ต่างชาติซื้อสุทธิ 3.4 พันล้าน ดันดัชนีหุ้นไทยดีดขึ้น 14 จุด แตะ 1,160.90 จุด สูงสุดในรอบเกือบ16ปี ภาพรวมกุมภาพันธ์ Fund Flow ทะลักเข้าทั้งภูมิภาค เดือนเดียวนักลงทุนต่างประเทศซื้อ4.6 หมื่นล้านบาท หนุนตั้งแต่1ม.ค.จ่อทะลุ 5 หมื่นล้าน ด้านมาร์เก็ตแคปสร้างสถิติใหม่9.523 ล้านล้านบาท เหตุนักลงทุนคาดหวังธนาคารกลางยุโรป จะออกมาตรการอัดฉีดสภาพคล่อง ดันเงินลงทุนไหลเข้าสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น

ตลาดหุ้นไทยวานนี้(29ก.พ.) ปรับตัวในแดนบวกซึ่งเป็นที่ทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค รับกระแสเงินทุนต่างชาติที่ยังไหลเข้ามาต่อเนื่อง อีกทั้งนักลงทุนเกิดความคาดหวังเชิงบวกต่อกรณีที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะมีมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเติมให้กับสถาบันการเงินในยุโรป ซึ่งจะทำให้สภาพคล่องในระบบมีมาก และเป็นผลทำให้เงินทุนไหลเข้า สินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น โดยปิดที่ระดับ 1,160.90 จุด เพิ่มขึ้น 14.64 จุด หรือ 1.28% นับเป็นสถิติสูงสุดที่ใกล้เคียงกับเมื่อวันที่ 23ก.ค.2539 ซึ่งอยู่ที่ 1,164.81 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อมูลค่าการซื้อขายวานนี้ 36,104.53 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุด 1,160.90 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,149.65 จุด

ขณะเดียวกัน พบว่าจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนีอย่างต่อเนื่อง จึงมีผลทำให้ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด(มาร์เกตแคป) สร้างสถิติใหม่ขึ้นมาอยู่ที่ 9,523,337.41 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,451.63 ล้านบาท เช่น้เดียวกัยบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ที่ซื้อสุทธิ 2,007.77 ล้านบาท ด้านสถาบันขายสุทธิ 1,793.89 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 3,665.51 ล้านบาท

ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่าภายในเดือนกุมพาพันธ์(1-29ก.พ.) นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิสูงถึง 46,434.05 ล้านบาท บัญชีบล.ซื้อสุทธิ 1,153.76 ล้านบาท สถาบันขายสุทธิ 15,344.94 ล้านบาท ที่เหลือเป็นการขายสุทธิของนักลงทุนทั่วไป ส่วนตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 29 ก.พ. พบว่านักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิสะสม 49,408.49 ล้านบาท บัญชีบล.ซื้อสุทธิสะสม 4,386.92 ล้านบาท สถาบันขายสุทธิสะสม 13,826.30 ล้านบาท ที่เหลือเป็นการขายสุทธิของนักลงทุนทั่วไป

หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 306 หลักทรัพย์ ลดลง 184 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 151 หลักทรัพย์ ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ IVL มูลค่าการซื้อขาย 2,574.77 ล้านบาท ปิดที่ 40.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 1,865.46 ล้านบาท ปิดที่ 52.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,807.57 ล้านบาท ปิดที่ 363.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,354.75 ล้านบาท ปิดที่ 66.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท และ ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,235.79 ล้านบาท ปิดที่ 160.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาค ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันบวก 162.10 จุด หรือ 2.04% ปิดที่ 8,121.44 จุด , ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียว บวก 0.72 จุด หรือ 0.01% แตะที่ 9,723.24 จุด , ดัชนีคอมโพสติ ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ปรับตัวขึ้น 26.56 จุด แตะ 2,030.25 จุด , ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง บวก 111.35 จุด หรือ 0.52% ปิดที่ 21,680.08 จุด

นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากกระแสเงินทุนต่างชาติที่ยังไหลเข้ามาต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนคาดหวังว่าการประกาศอัดฉีดเม็ดเงินเข้ามาในระบบของธนาคารกลางยุโรปจะทำให้มีเงินไหลเข้ามาในตลาดหุ้นเอเซียและไทย

ทำให้แนวโน้มในวันนี้(01มี.ค.) คาดว่าดัชนียังมีทิศทางเป็นบวก แต่อาจผันผวนระหว่างวัน โดยให้แนวต้านแรกที่ระดับ 1,158-1,162 จุด หากผ่านได้จะขึ้นทดสอบระดับ 1,166 จุด ส่วนแนวรับแรกอยู่ที่ 1,155 จุด หากหลุดมีแนวรับถัดไปที่ 1,150 จุด กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้เลือกซื้อเป็นรายตัวหรือซื้อเก็งกำไรในกลุ่มสื่อสารและอาหาร
กำลังโหลดความคิดเห็น