กกร. หารือด่วนถกผลกระทบก่อการร้าย ส่งหนังสือถึง “ยิ่งลักษณ์” เร่งผลักดัน กม.ฟอกเงิน-ต่อต้านก่อการร้าย “พยุงศักดิ์” ยอมรับ หากไทยถูกขยับขึ้นไปอยู่อันดับมีความเสี่ยงก่อการร้าย จะกระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยว การทำธุรกิจของบริษัทขนาดใหญ่ในประเทศ และยังจะมีต้นทุนสูงถูกตรวจสอบในหลายด้าน ก่อนจะมีการร่วมทำการค้าการลงทุน และบางประเทศอาจถูกนำไปเป็นข้อกีดกันทางการค้า “สมพล” แนะเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของรัฐบาลให้เวทีระดับโลกได้รับรู้ถึงความตื่นตัวในการป้องกันปัญหา
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) วาระเร่งด่วนวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2555 นี้ หลังจากเกิดเหตุระเบิด 3 จุด บริเวณถนนสุขุมวิท 71 และคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน (FATF) ซึ่งเป็นองค์กระระหว่างประเทศทำหน้าที่กำหนดมาตรฐานพัฒนาและส่งเสริมนโยบายเกี่ยวกับการป้องกันการฟอกเงินและต่อต้านการก่อการร้าย ได้จัดประชุมขึ้นระหว่างวันที่ 13-17 กุมภาพันธ์ 2555 นี้ ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2555 จะเป็นการประกาศผลจัดอันดับของประเทศต่างๆ ซึ่งไทยอยู่ในข่ายของประเทศถูกพิจารณาประกาศผลครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศอยู่ระหว่างกระบวนการพัฒนามาตรฐานเกี่ยวกับการป้องกันก่อการร้ายและฟอกเงิน หรืออยู่ระดับสีเทา 30 ประเทศ เช่น เนปาล ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ ซูดาน ไทย เยเมน เวียดนาม ขณะที่กลุ่มประเทศที่ไม่มีความคืบหน้าในการปรับปรุงป้องกันการฟอกเงินและก่อการร้ายและถูกเฝ้าระวังการทำธุรกรรมการเงินพิเศษ 10 ประเทศ เช่น คิวบา เอธิโอเปีย เคนยา พม่า ไนจีเรีย โดยกลุ่มประเทศนี้อยู่ในกลุ่มประเทศดำอ่อน ส่วนกลุ่มประเทศสีดำที่เสี่ยงต่อการก่อการร้ายและฟอกเงิน คือ อิหร่าน และเกาหลีเหนือ
นายพยุงศักดิ์ กล่าวอีกว่า การประกาศผลวันพรุ่งนี้ไทยอาจถูกขยับขึ้นไปอยู่ในกลุ่มประเทศดำอ่อนที่มีความบกพร่องทางยุทธศาสตร์ เนื่องจากไทยเป็นสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ จึงมีข้อผูกพันข้อ 7 แห่ง กฎบัตรสหประชาชาติที่ต้องปฏิบัติตามคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในเรื่องป้องกันการก่อการร้ายและการฟอกเงิน จึงยอมรับว่าหากไทยถูกขยับขึ้นไปอยู่อันดับมีความเสี่ยงก่อการร้ายจะกระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยว การทำธุรกิจของบริษัทขนาดใหญ่ในประเทศของไทยจะได้รับผลกระทบไปด้วย และยังจะมีต้นทุนสูงถูกตรวจสอบในหลายด้านก่อนจะมีการร่วมทำการค้าการลงทุน และบางประเทศอาจถูกนำไปเป็นข้อกีดกันทางการค้า
นายสมพล เกียรติไพบูลย์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า กกร.เตรียมส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อให้แสดงเจตนารมณ์เกี่ยวกับการผลักดันการออกกฎหมายป้องกันการฟอกเงินและกฎหมายต่อต้านการสนับสนุนการก่อการร้าย เพื่อแสดงเจตนารมณ์ของรัฐบาลให้เวทีระดับโลกได้รับรู้ถึงความตื่นตัวในการป้องกันปัญหาดังกล่าว อีกทั้งตัวแทนประเทศไทยที่อยู่ระหว่างการประชุมจะได้นำเสนอแนวทางของไทยต่อที่ประชุม เพราะอาจมีผลต่อการประกาศผลดังกล่าวและไทยจะได้ไม่ถูกจัดอยู่ในประเทศที่มีความเสี่ยงต่อการก่อการร้าย เนื่องจากขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันการฟอกเงินและร่าง พ.ร.บ.ต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายหรือกฎหมายก่อการร้ายผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) เรียบร้อยแล้ว รอเพียงการผลักดันจากรัฐบาล