ธปท. เกาะติดสถานการณ์ ศก.โลกตึงเครียด ชี้ กรณีสหรัฐฯ และชาติตะวันตก คว่ำบาตรอิหร่าน ลดการสั่งน้ำมัน ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ป่วนแน่ พร้อมระบุ อาจเกิดซัพพลายช็อกในช่วงระยะสั้น
นายทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจมหาภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงกรณีที่สหรัฐอเมริกาและบรรดาชาติตะวันตก อาจมีมติคว่ำบาตรอิหร่านด้วยการลดการนำเข้าน้ำมัน จากอิหร่าน ซึ่งถือเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก เพื่อกดดันให้อิหร่านยุติโครงการนิวเคลียร์ โดยเชื่อว่า สถานการณ์การลดการนำเข้าน้ำมันของสหรัฐ และกลุ่มประเทศในยุโรป จะสร้างผลกระทบต่อราคาน้ำมันโลกผันผวน และปรับตัวสูงขึ้นในระยะสั้น เนื่องจากเกิดซัพพลายช็อกเกิดขึ้นในตลาดน้ำมัน เพราะน้ำมันก็เหมือนสินค้าโภคภัณฑ์อย่างหนึ่งที่มีการค้าขายเชื่อมโยงกันหมด
“การประกาศลดการนำเข้าน้ำมันของ สหรัฐฯ และกลุ่มอียู จะทำให้เกิดปัญหาซัพพลายช็อกเกิดขึ้น ราคาก็จะผันผวนและขยับขึ้นไป แต่ก็มองว่า เรื่องนี้จะเป็นปัญหาระยะสั้นเท่านั้น”
อย่างไรก็ตาม เห็นว่าแรงกดดันด้านความต้องการน้ำมันของโลกในขณะนี้ไม่น่าจะมากนัก เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกยังไม่ดีขึ้น และยังชะลอลง ดังนั้น เชื่อว่าแม้จะไม่มีปัจจัยอะไรเข้ามากระทบ ราคาน้ำมันก็คงเป็นไปตามความต้องการของภาวะเศรษฐกิจที่แท้จริง คือ ทิศทางน้ำมัน หรือสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ก็อยู่ในทิศทางที่ชะลอตัวเหมือนกัน แม้จะไม่มีปัจจัยจากอิหร่านเข้ามา โดยสมมติฐานราคาน้ำมันทั้งปีนี้ คาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ประมาณกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นสมมติฐานที่ต่ำกว่าปีก่อน
