นักวิชาการคาด บอร์ด กนง.ประชุมนัดแรก 25 ม.ค.นี้ มีแนวโน้มลด ดบ.ลงอีก 0.25% ชี้ ศก.โลกยังเสี่ยง จากหนี้ยุโรป และราคาพลังงาน ส่วนเงินเฟ้อ และการปรับ ครม. ยังไม่น่าห่วง ด้าน ธปท.ห่วง ศก.ยังซมพิษน้ำท่วม ความเชื่อมั่นนักลงทุนยังไม่กลับ ขณะที่โบรกฯ ฟันธง ดบ.ขาลง
นายพรายพล คุ้มทรัพย์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอดีตกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า การประชุม กนง.นัดแรกในเดือนมกราคม 2555 นี้ คาดว่า น่าจะมีการลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% และมองว่า ทั้งปีน่าจะลดอกเบี้ยนโยบาย 0.50%
นายพลายพล กล่าวให้เหตุผลว่า ขณะนี้เศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงอยู่ในช่วงขาลงค่อนข้างมาก และผลจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ดี โดยเฉพาะเศรษฐกิจยุโรปที่ยังน่าเป็นห่วง ประกอบกับ ปัญหาระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ ซึ่งหากมีความรุนแรง ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานให้ปรับตัวสูงขึ้น
สำหรับทิศทางภาวะเงินเฟ้อ นายพลายพล มองว่า ขณะนี้ไม่ได้สร้างแรงกดดัน เห็นได้ว่า ในช่วงเดือนธันวาคม 2554 เงินเฟ้อได้ปรับลดลง สะท้อนว่า แรงกดดันเงินเฟ้อต่อเศรษฐกิจลดลง และอาจมีทิศทางการปรับขึ้นไม่มาก ส่วนปัจจัยภายในประเทศด้านอื่น ไม่มีเรื่องน่าเป็นห่วง แม้การเมืองที่มีกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) มองว่า ไม่น่าจะมีผลกระทบ เพราะหากจะปรับให้ดีขึ้น
“เศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะซบเซา เพราะเศรษฐกิจโลกไม่ดี ยุโรปยังเป็นเรื่องที่น่าห่วง และยังมีเรื่องราคาน้ำมัน ซึ่งอาจจะสูงขึ้นจากปัญหาของอิหร่านกันสหรัฐฯ ดังนั้น เศรษฐกิจเป็น downside risk ค่อนข้างมาก มองทั้งปีน่าจะลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% ภายในครึ่งปีแรก ยกเว้นเรื่องนอกเหนือความคาดหมาย กนง.ก็อาจจะลดดอกเบี้ยได้อีก ซึ่งทั้งหมด เป็นประเด็นที่ กนง.ต้องรับไปพิจารณา”
นายทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการ สำนักเศรษฐกิจมหภาค สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้ มีความเสี่ยงเพิ่มมากกว่าเดิม โดยเฉพาะความเสี่ยงจากเศรษฐกิจยุโรป ซึ่งอาจจะมีผลต่อเศรษฐกิจไทยในทางตรง คือ การส่งออก และผลกระทบทางอ้อมคือผ่านเศรษฐกิจประเทศทั่วโลกได้ แม้ ธปท.จะคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ร้อยละ 4.8 แต่มองว่ายังไม่ใช่เรื่องที่น่าดีใจนัก
“เศรษฐกิจไทยยังมีปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกเศรษฐกิจในยุโรป และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยจากปัญหาน้ำท่วม และความเชื่อมั่นในระยะยาวของนักลงทุน ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้มีโอกาสสูงที่เศรษฐกิจจะขยายตัวต่ำกว่า อย่างไรก็ตาม คงจะต้องรอการประเมินการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้อีกครั้งในการประชุมบอดร์ด กนง.นัดแรก ปลายเดือนนี้”
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า ดอกเบี้ยในปี 2555 มีแนวโน้มเข้าสู่ช่วงขาลง โดยคาดว่า กนง.จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 3.0% ในการประชุมวันที่ 25 มกราคม 2555 นี้
