“กิตติรัตน์” สร้างความเชื่อมั่น กู้วิกฤตศรัทธานักลงทุน การันตีปีหน้าน้ำไม่ท่วมพื้นที่ ศก.แน่นอน พร้อมแจงแผนสร้าง “ฟลัดเวย์” สองฝั่งเจ้าพระยา และปรับโครงสร้างประตูระบายน้ำทั้งระบบ พ้อถูกโจมตีว่าขี้โม้ ขี้แง และใจเสาะ ลั่นไม่ได้เป็นคนประเภทนั้น เพราะหากเป็นคนเช่นนั้นจริง ก็คงไม่อยู่เป็นผู้จัดการตลาดหุ้น และผู้จัดการทีมชาติฟุตบอล ส่วนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 จะไม่มีปรับภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในการปาฐกถาพิเศษ ก่อนการปิดงานสัมมนารวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน วันนี้ โดยระบุว่า ขณะนี้รัฐบาลได้จัดทำแผนแม่บทการบริหารจัดการน้ำใกล้เสร็จแล้ว และจะช่วยการันตีให้ภาคธุรกิจและประชาชนมั่นใจต่อไปข้างหน้า ถึงแม้ปริมาณน้ำฝนจะมีเยอะเท่ากับปีนี้ หรือมากกว่าเดิม จะไม่เกิดผลกระทบเสียหายรุนแรงเท่าปีนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเศรษฐกิจ นิคมอุตสาหกรรม รวมทั้งเมืองใหญ่จะไม่ได้รับความเสียหายแน่นอน แต่อาจจะมีน้ำท่วมในพื้นที่การเกษตรกรบางส่วน ซึ่งเป็นส่วนน้อย แต่รัฐจะช่วยดูแลเยียวยาอย่างเหมาะสม
ทั้งนี้ แผนของรัฐบาลจะจัดทำโครงการระยะยาวเพื่อบริหารน้ำอย่างเป็นระบบทั้ง 25 ลุ่มน้ำ ในส่วนลุ่มน้ำเจ้าพระยาขณะนี้ได้ให้ผู้เชี่ยวชาญจากไทยและต่างประเทศบินสำรวจเส้นทางระบายน้ำ (ฟลัดเวย์) ทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงพื้นที่ทำแก้มลิงอยู่ อาจมีผลกระทบต่อบางชุมนุมให้ย้ายออกไป แต่รัฐบาลจะช่วยดูแลหาที่อยู่ใหม่มอบให้ รวมถึงมีแนวทางพัฒนาพื้นที่ฟลัดเวย์ แก้มลิงให้เป็นแหล่งประมง และแหล่งท่องเที่ยว
ส่วนสิ่งที่ต้องแก้ไขเร่งด่วนใน 3-5 เดือน จะต้องเร่งแก้ประตูน้ำที่ชำรุดเสียหายตั้งแต่ก่อนน้ำท่วมให้กลับมาใช้งานได้ปกติ เพราะที่ผ่านมาบางประตูไม่เคยถูกปิดเปิดมานาน บางประตูมีระบบสูบน้ำ แต่ไม่มีเครื่องสูบ และบางประตูมีเจ้าหน้าที้ดูแลเพียงคนเดียว รวมถึงการขุดลอกคูคลอง การดูแลการลุกล้ำพื้นที่ทางน้ำ สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นอีก นอกจากนี้จะบูรณาการองค์กรที่รับผิดชอบบริหารจัดการน้ำที่มี 31 องค์กร ให้ทำงานอย่างมีเอกภาพ และมีหน่วยงานหลักเป็นเจ้าภาพมีอำนาจบริหารจัดการอย่างเบ็ดเสร็จ
สำหรับกรณีภาคเอกชนเป็นห่วงอาจเกิดการฉ้อราษฎร์บังหลวงในงบประมาณฟื้นฟูน้ำท่วม เรื่องนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และตนเองจะร่วมมือกับหอการค้าไทย และประชาชนในการตรวจสอบดูแลการใช้งบประมาณโครงการให้เกิดความโปร่งใส และขอยืนยันว่า การตั้งโครงการแปลกๆ เพื่อรอขออนุมัติงบทุจริตจะไม่เกิดขึ้นในงบประมาณก่อนนี้แน่ จึงขอให้เชื่อมั่นว่ารัฐบาลแสดงความจริงจังในการป้องกันทุจริต เพราะมีบุคคลน่าเชื่อถือย่างนายวีรพงษ์ รามางกูร เข้ามาร่วมทำงานด้วย
“แม้จะเกิดอุกภัยครั้งใหญ่ แต่รัฐบาลก็พร้อมเดินหน้าปรับสมดุลประเทศไทย ทั้งการเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร เช่น โครงการจำนำข้าว ซึ่งสอดคล้องกับโครงการของหอการค้าไทย 1 ไร่ 1 แสน และขอให้เอกชนเชื่อว่าสิ่งที่รัฐบาลทำไม่ได้เป็นการตั้งใจบิดเบือนกลไกตลาด แต่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตร”
นายกิตติรัตน์ ยังกล่าวถึงการปรับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ที่จะปรับในเดือนเมษายน 2555 นี้ โดยระบุว่า หากสามารถทำได้สำเร็จ ก็จะช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศให้ขยายตัวขึ้น และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาการส่งออกเพียงอย่างเดียว ขณะที่การลงทุนภาคเอกชน รัฐบาลก็พร้อมสนับสนุนให้เกิดการลงทุนมากขึ้น
ส่วนการการลงทุนจากภาครัฐ รัฐบาลก็เดินหน้าอย่างเต็มที่โดยใช้งบประมาณขาดดุล ที่ผ่านมา ตนถูกว่าเป็นคนขี้โม้ ขี้แง และใจเสาะ แต่ขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนประเภทนั้น และเป็นเช่นนั้นจริงก็คงไม่อยู่เป็นผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ (ตลท.) และผู้จัดการทีมชาติฟุตบอลไม่ได้ เพราะหน้าที่เหล่านี้จะต้องรับผิดชอบเต็มที่ เมื่อมีโอกาสดูแลกระทรวงเศรษฐกิจ ก็จะพยายามดูแลเต็มความสามารถในการทำงานเพื่อประเทศชาติ