ASTV ผู้จัดการรายวัน - “วายแอลจี” มองราคาทองคำในลักษณะ Sideway โดยราคาน่าจะพยายามขึ้นทดสอบบริเวณแนวต้าน 1,720 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัว ประเมินแนวรับที่ 1,690 และ 1,680 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้นยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง แต่ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยนฯ รายงานสภาวะตลาดวันที่ 28 พฤศจิกายน 2554 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,679.15-1,707.76 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ11 อยู่ที่ 25,620 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 360 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 25,260 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVZ11 อยู่ที่ 1,011 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ่น 20 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 991 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.13 น.ของวันที่ 28/11/11)ออกมา คือ ออกมา คือ
แนวโน้มวันที่ 29 พฤศจิกายน 2554
ความกังวลของปัญหายุโรปยังคงแผ่วงกว้างออกไปสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำอย่าง มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นของฝรั่งเศสอาจจะส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ อีกทั้งยังได้ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรของรัฐบาลฮังการีลง 1 ขั้น สู่ระดับ Ba1 จากระดับ Baa3 นอกจากนี้ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของโปรตุเกสลง 1 ขั้น สู่ระดับ BB+ หรือ “ระดับขยะ” และ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ได้ปิดท้ายสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยการประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของพันธบัตรรัฐบาลเบลเยียม ลง 1 ขั้น สู่ระดับ AA จากระดับ AA+ โดยให้แนวโน้มเป็น “เชิงลบ”
อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวว่าไอเอ็มเอฟอาจกำลังเตรียมเงินกู้วงเงินถึง 6 แสนล้านยูโร (7.98 แสนล้านดอลลาร์) เพื่อสนับสนุนความพยายามของอิตาลีในการฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทองตัวขยับตัวขึ้นมาได้บ้าง ซึ่งล่าสุด IMF ออกแถลงการณ์ยืนยันว่ายังไม่มีการเจรจาให้เงินช่วยเหลืออิตาลี โดยทางไอเอ็มเอฟไม่ได้หารือกับทางการอิตาลีเรื่องโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแต่อย่างใด ทั้งนี้ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของอิตาลีพุ่งขึ้นสูงกว่าระดับ 7% ในเดือนนี้ ขณะที่ยังคงมีความไม่มั่นใจว่า อิตาลีจะสามารถควบคุมวิกฤตหนี้ได้หรือไม่ จากปัจจัยต่างๆ ข้างต้นส่งผลให้นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรปและยังคงขายทองคำออกมาเพื่อรอดูสถานการณ์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่าโดยราคาทองคำในลักษณะ Sideway โดยราคาน่าจะพยายามขึ้นทดสอบบริเวณแนวต้าน 1,720 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านไปได้จะมีแนวต้านสำคัญถัดไปที่ 1,733 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัว โดยประเมินแนวรับที่ 1,690 และ 1,680 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,690 (25,060 บาท) 1,680 (24,910 บาท) 1,671 (24,780 บาท)
แนวต้าน 1,720 (25,510 บาท) 1,733 (25,700 บาท) 1,745 (25,880 บาท)
GOLD FUTURES (GFZ11)
แนวรับ 1,690 (25,380 บาท) 1,680 (25,230 บาท) 1,671 (25,090 บาท)
แนวต้าน 1,720 (25,820 บาท) 1,733 (26,020 บาท) 1,745 (26,200 บาท)
SILVER FUTURES (SVZ11)
แนวรับ 30.71 (976 บาท) 30.00 (954 บาท) 29.20 (929 บาท)
แนวต้าน 32.23 (1,024 บาท) 32.60 (1,036 บาท) 33.00 (1,048 บาท)
บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยนฯ รายงานสภาวะตลาดวันที่ 28 พฤศจิกายน 2554 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,679.15-1,707.76 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ11 อยู่ที่ 25,620 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 360 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 25,260 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVZ11 อยู่ที่ 1,011 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ่น 20 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 991 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.13 น.ของวันที่ 28/11/11)ออกมา คือ ออกมา คือ
แนวโน้มวันที่ 29 พฤศจิกายน 2554
ความกังวลของปัญหายุโรปยังคงแผ่วงกว้างออกไปสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำอย่าง มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นของฝรั่งเศสอาจจะส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ อีกทั้งยังได้ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรของรัฐบาลฮังการีลง 1 ขั้น สู่ระดับ Ba1 จากระดับ Baa3 นอกจากนี้ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของโปรตุเกสลง 1 ขั้น สู่ระดับ BB+ หรือ “ระดับขยะ” และ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ได้ปิดท้ายสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยการประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของพันธบัตรรัฐบาลเบลเยียม ลง 1 ขั้น สู่ระดับ AA จากระดับ AA+ โดยให้แนวโน้มเป็น “เชิงลบ”
อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวว่าไอเอ็มเอฟอาจกำลังเตรียมเงินกู้วงเงินถึง 6 แสนล้านยูโร (7.98 แสนล้านดอลลาร์) เพื่อสนับสนุนความพยายามของอิตาลีในการฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทองตัวขยับตัวขึ้นมาได้บ้าง ซึ่งล่าสุด IMF ออกแถลงการณ์ยืนยันว่ายังไม่มีการเจรจาให้เงินช่วยเหลืออิตาลี โดยทางไอเอ็มเอฟไม่ได้หารือกับทางการอิตาลีเรื่องโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแต่อย่างใด ทั้งนี้ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของอิตาลีพุ่งขึ้นสูงกว่าระดับ 7% ในเดือนนี้ ขณะที่ยังคงมีความไม่มั่นใจว่า อิตาลีจะสามารถควบคุมวิกฤตหนี้ได้หรือไม่ จากปัจจัยต่างๆ ข้างต้นส่งผลให้นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรปและยังคงขายทองคำออกมาเพื่อรอดูสถานการณ์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่าโดยราคาทองคำในลักษณะ Sideway โดยราคาน่าจะพยายามขึ้นทดสอบบริเวณแนวต้าน 1,720 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านไปได้จะมีแนวต้านสำคัญถัดไปที่ 1,733 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัว โดยประเมินแนวรับที่ 1,690 และ 1,680 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,690 (25,060 บาท) 1,680 (24,910 บาท) 1,671 (24,780 บาท)
แนวต้าน 1,720 (25,510 บาท) 1,733 (25,700 บาท) 1,745 (25,880 บาท)
GOLD FUTURES (GFZ11)
แนวรับ 1,690 (25,380 บาท) 1,680 (25,230 บาท) 1,671 (25,090 บาท)
แนวต้าน 1,720 (25,820 บาท) 1,733 (26,020 บาท) 1,745 (26,200 บาท)
SILVER FUTURES (SVZ11)
แนวรับ 30.71 (976 บาท) 30.00 (954 บาท) 29.20 (929 บาท)
แนวต้าน 32.23 (1,024 บาท) 32.60 (1,036 บาท) 33.00 (1,048 บาท)