ASTV ผู้จัดการรายวัน - “วายแอลจี” ประเมินราคาทองคำยังมีการเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway ซึ่งยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านต่อไปที่ 1,713 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 1,720 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยความผันผวนของราคาและการแกว่งตัวของราคาอาจลดลงจากช่วงที่ผ่านมา
บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน กล่าวว่า สภาวะตลาดวันที่ 24 พฤศจิกายน 2554 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,687.29-1,697.38 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ11 อยู่ที่ 25,420 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 20 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 25,440 บาท ขณะที่ ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVZ11 อยู่ที่ 1,015 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 13 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 1,002 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.55 น.ของวันที่ 24/11/11)
สำหรับ แนวโน้มวันที่ 25 พฤศจิกายน 2554 เยอรมนีซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในยูโรโซน ได้ตกเป็นกระแสข่าวว่าอาจเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เกิดปัญหา เพราะเยอรมนีไม่สามารถระดมทุนได้ตามเป้าหมายในการเปิดประมูลขายพันธบัตรอายุ 10 ปี ทำให้ความกังวล และ ความตึงเครียดเริ่มแผ่ขยายออกไป โดยก่อนหน้านี้ อิตาลี สเปน ฝรั่งเศส ได้ตกเป็นข่าวทำนองนี้มาแล้วทั้งสิ้น
อีกทั้ง ฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ออกมาเตือนฝรั่งเศส ว่า มีความเสี่ยงที่จะถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือหากวิกฤตหนี้ยูโรโซนลุกลาม ซึ่ง มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ได้แสดงความเห็นในลักษณะเดียวกันนี้มาก่อนหน้าแล้ว สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นกดดันให้นักลงทุนไม่ไว้ใจที่จะถือสินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไร ในขณะที่ราคาทองคำเองก็มีการเหวี่ยงตัวค่อนข้างมากในแต่ละวัน ทำให้นักลงทุนเทขายทองคำออกมาออกมาเพื่อรอดูความชัดเจน โดยจะสังเกตได้ว่า ทองคำในขณะนี้นักลงทุนต่างมองในฐานะของสินทรัพย์โภคภัณฑ์มากกว่าสินทรัพย์ปลอดภัย ทำให้การอ่อนตัวของราคาทองคำเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะมีแรงซื้อกลับมาโดยตลอดเมื่อราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างหนัก
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจี มีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีการเคลื่อนไหวในกรอบ และราคาทองคำ คาดว่า จะเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway ซึ่งยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านต่อไปที่ 1,713 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 1,720 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยความผันผวนของราคาและการแกว่งตัวของราคาอาจลดลงจากช่วงที่ผ่านมา ซึ่งหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมา ไม่หลุดแนวรับแนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไร โดยให้เน้นไปที่การเข้าซื้อ ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,675 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,665 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเมื่อราคามีการปรับตัวสูงขึ้นนักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้างเพื่อลดความเสี่ยง แต่สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อเพื่อทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไป
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,675 (24,790 บาท) 1,665 (24,640 บาท) 1,654 (24,480 บาท)
แนวต้าน 1,713 (25,360 บาท) 1,720 (25,460 บาท) 1,734 (25,670 บาท)
GOLD FUTURES (GFZ11)
แนวรับ 1,675 (25,110 บาท) 1,665 (24,960 บาท) 1,654 (24,800 บาท)
แนวต้าน 1,713 (25,677 บาท) 1,720 (25,780 บาท) 1,734 (25,980 บาท)
SILVER FUTURES (SVZ11)
แนวรับ 31.18 (990 บาท) 30.00 (953 บาท) 29.20 (928 บาท)
แนวต้าน 32.63 (1,035 บาท) 33.00 (1,047 บาท) 33.50 (1,062 บาท)
บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน กล่าวว่า สภาวะตลาดวันที่ 24 พฤศจิกายน 2554 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,687.29-1,697.38 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ11 อยู่ที่ 25,420 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 20 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 25,440 บาท ขณะที่ ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVZ11 อยู่ที่ 1,015 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 13 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 1,002 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.55 น.ของวันที่ 24/11/11)
สำหรับ แนวโน้มวันที่ 25 พฤศจิกายน 2554 เยอรมนีซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในยูโรโซน ได้ตกเป็นกระแสข่าวว่าอาจเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เกิดปัญหา เพราะเยอรมนีไม่สามารถระดมทุนได้ตามเป้าหมายในการเปิดประมูลขายพันธบัตรอายุ 10 ปี ทำให้ความกังวล และ ความตึงเครียดเริ่มแผ่ขยายออกไป โดยก่อนหน้านี้ อิตาลี สเปน ฝรั่งเศส ได้ตกเป็นข่าวทำนองนี้มาแล้วทั้งสิ้น
อีกทั้ง ฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ออกมาเตือนฝรั่งเศส ว่า มีความเสี่ยงที่จะถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือหากวิกฤตหนี้ยูโรโซนลุกลาม ซึ่ง มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ได้แสดงความเห็นในลักษณะเดียวกันนี้มาก่อนหน้าแล้ว สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นกดดันให้นักลงทุนไม่ไว้ใจที่จะถือสินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไร ในขณะที่ราคาทองคำเองก็มีการเหวี่ยงตัวค่อนข้างมากในแต่ละวัน ทำให้นักลงทุนเทขายทองคำออกมาออกมาเพื่อรอดูความชัดเจน โดยจะสังเกตได้ว่า ทองคำในขณะนี้นักลงทุนต่างมองในฐานะของสินทรัพย์โภคภัณฑ์มากกว่าสินทรัพย์ปลอดภัย ทำให้การอ่อนตัวของราคาทองคำเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะมีแรงซื้อกลับมาโดยตลอดเมื่อราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างหนัก
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจี มีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีการเคลื่อนไหวในกรอบ และราคาทองคำ คาดว่า จะเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway ซึ่งยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านต่อไปที่ 1,713 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 1,720 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยความผันผวนของราคาและการแกว่งตัวของราคาอาจลดลงจากช่วงที่ผ่านมา ซึ่งหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมา ไม่หลุดแนวรับแนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไร โดยให้เน้นไปที่การเข้าซื้อ ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,675 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,665 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเมื่อราคามีการปรับตัวสูงขึ้นนักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้างเพื่อลดความเสี่ยง แต่สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อเพื่อทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไป
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,675 (24,790 บาท) 1,665 (24,640 บาท) 1,654 (24,480 บาท)
แนวต้าน 1,713 (25,360 บาท) 1,720 (25,460 บาท) 1,734 (25,670 บาท)
GOLD FUTURES (GFZ11)
แนวรับ 1,675 (25,110 บาท) 1,665 (24,960 บาท) 1,654 (24,800 บาท)
แนวต้าน 1,713 (25,677 บาท) 1,720 (25,780 บาท) 1,734 (25,980 บาท)
SILVER FUTURES (SVZ11)
แนวรับ 31.18 (990 บาท) 30.00 (953 บาท) 29.20 (928 บาท)
แนวต้าน 32.63 (1,035 บาท) 33.00 (1,047 บาท) 33.50 (1,062 บาท)