เอเจนซี - ราคาน้ำมันขยับขึ้นต่อเนื่องในวันอังคาร (15) จากข้อมูลทางเศรษฐกิจอันสดใสของชาติมหาอำนาจตะวันตก อย่างไรก็ตาม วอลล์สตรีท กลับปิดบวกได้เพียงเล็กน้อย หลังถูกฉุดด้วยความกังวลต่อวิกฤตหนี้ในยุโรปซึ่งมีท่าทีลุกลามแผ่ขยายออกไปเรื่อยๆ
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 1.23 ดอลลาร์ ปิดที่ 99.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 50 เซนตฺ์ ปิดที่ 112.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่ผลักให้ราคาน้ำมันขยับขึ้นมาจากข้อมูลทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชาติผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดของโลก หลังพบว่ายอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นและราคาขายส่งที่ลดลงในเดือนตุลาคม ขณะเดียวกันด้วยตัวเลขการผลิตอันแข็งแกร่งในเดือนพฤศจิกายนของมลรัฐนิวยอร์ก ก็เพิ่มความหวังต่อการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของเศรษฐกิจอเมริกาในช่วงไตรมาส 4
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากข้อมูลของเยอรมนีและฝรั่งเศส ที่เผยว่าเศรษฐกิจของประเทศในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา มีการขยายตัวอย่างมีนัย
ปัจจัยข้างต้นช่วยผลักให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้ (15) ปิดในแดนบวกท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนภายใต้การนำของหุ้นกลุุ่มเทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม ความร้อนแรงของวอลล์สตรีทก็ยังถูกฉุดรั้งไว้โดยความกังวลต่อวิกฤตหนี้ยุโรปที่อาจลุกลามสู่ชาติหัวแถวอื่นๆ ตามหลังอิตาลี
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 17.41 จุด (0.14 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,096.39 แนสแดก เพิ่มขึ้น 28.98 จุด (1.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,686.20 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 6.02 จุด (0.48 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,257.80
