ASTV ผู้จัดการรายวัน - หุ้นไทยปิด พลิกเป็นบวก 0.46 จุด หลังช่วงเช้าอยู่ในแดนลบ โบรกฯแนะจับตาปัจจัยต่างประเทศ หากตลาดหุ้นต่างแดนปิดลบ หุ้นไทยมีโอกาสลงไปทดสอบ950 จุด
หุ้นไทยวานนี้(10พ.ย.) ปิดที่ระดับ 968.30 จุด เพิ่มขึ้น 0.46 จุด หรือ 0.05%มูลค่าการซื้อขาย 25,443.47 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุด 968.30 จุด และต่ำสุด 951.98 จุด โดยการซื้อขายในช่วงเช้าดัชนีปรับตัวอยู่ในแดนลบ ก่อนมีแรงซื้อกลับมาในช่วงบ่าย ภาพรวมตลาดฯยังถูกกดดันจากวิกฤตหนี้ยุโรปที่ขณะนี้กำลังลุกลามไปยังอิตาลี รวมทั้งสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศ
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 1ฅ3498.07 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ขายมสุทธิ 474.87 ล้านบาท และ สถาบันขายสุทธิ 258.36 ล้านบาท
หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 222 หลักทรัพย์ ลดลง 219 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 142 หลักทรัพย์ ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 3,996.19 ล้านบาท ปิดที่ 65.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,299.87 ล้านบาท ปิดที่ 301.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,733.48 ล้านบาท ปิดที่ 1.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,373.52 ล้านบาท ปิดที่ 322.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง และ IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,227.24 ล้านบาท ปิดที่ 32.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ในภาคเช้าปรับตัวลงแรง แต่ภาคบ่ายเริ่มดีดตัวกลับขึ้นมาจนปิดในแดนบวกตามดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่กลับมาบวกหลังจากดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลงแรงไปกว่า 3% เมื่อคืนนี้ ภาพรวมตลาดฯยังคงถูกกกดดันจากปัญหาหนี้สินยุโรปที่ขณะนี้กำลังลุกลามไปยังอิตาลี หลังผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีพุ่งขึ้นสู่ระดับ 7.5% รวมทั้งปัจจัยลบจากสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศ ทำให้แนวโน้มการลงทุนในวันนี้(11 พ.ย.) ดัชนีน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 950 จุด แนวต้าน 975 จุด ซึ่งต้องรอติดตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ
"ถ้าตลาดต่างประเทศรีบาวด์ ตลาดหุ้นไทยก็น่าจะมีแรงขายดักออกมา เพราะตลาดฯยังอยู่ในข่ายของการขายออก อย่างช่วงครึ่งเช้าวานนี้ต่างชาติก็ยังขายเยอะอยู่ ทั้งวันนี้ก็น่าจะขายต่อ แต่ถ้าต่างประเทศปิดลบ บ้านเราก็คงลงไปเทสต์ 950 จุด" นายเกียรติก้อง กล่าว
หุ้นไทยวานนี้(10พ.ย.) ปิดที่ระดับ 968.30 จุด เพิ่มขึ้น 0.46 จุด หรือ 0.05%มูลค่าการซื้อขาย 25,443.47 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุด 968.30 จุด และต่ำสุด 951.98 จุด โดยการซื้อขายในช่วงเช้าดัชนีปรับตัวอยู่ในแดนลบ ก่อนมีแรงซื้อกลับมาในช่วงบ่าย ภาพรวมตลาดฯยังถูกกดดันจากวิกฤตหนี้ยุโรปที่ขณะนี้กำลังลุกลามไปยังอิตาลี รวมทั้งสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศ
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 1ฅ3498.07 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ขายมสุทธิ 474.87 ล้านบาท และ สถาบันขายสุทธิ 258.36 ล้านบาท
หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 222 หลักทรัพย์ ลดลง 219 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 142 หลักทรัพย์ ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 3,996.19 ล้านบาท ปิดที่ 65.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,299.87 ล้านบาท ปิดที่ 301.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,733.48 ล้านบาท ปิดที่ 1.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,373.52 ล้านบาท ปิดที่ 322.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง และ IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,227.24 ล้านบาท ปิดที่ 32.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ในภาคเช้าปรับตัวลงแรง แต่ภาคบ่ายเริ่มดีดตัวกลับขึ้นมาจนปิดในแดนบวกตามดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่กลับมาบวกหลังจากดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลงแรงไปกว่า 3% เมื่อคืนนี้ ภาพรวมตลาดฯยังคงถูกกกดดันจากปัญหาหนี้สินยุโรปที่ขณะนี้กำลังลุกลามไปยังอิตาลี หลังผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีพุ่งขึ้นสู่ระดับ 7.5% รวมทั้งปัจจัยลบจากสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศ ทำให้แนวโน้มการลงทุนในวันนี้(11 พ.ย.) ดัชนีน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 950 จุด แนวต้าน 975 จุด ซึ่งต้องรอติดตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ
"ถ้าตลาดต่างประเทศรีบาวด์ ตลาดหุ้นไทยก็น่าจะมีแรงขายดักออกมา เพราะตลาดฯยังอยู่ในข่ายของการขายออก อย่างช่วงครึ่งเช้าวานนี้ต่างชาติก็ยังขายเยอะอยู่ ทั้งวันนี้ก็น่าจะขายต่อ แต่ถ้าต่างประเทศปิดลบ บ้านเราก็คงลงไปเทสต์ 950 จุด" นายเกียรติก้อง กล่าว
