กลุ่มเอชเอสบีซีแจ้งผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 54 มูลค่า 7.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเฉพาะภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก(รวมฮ่องกง)มีผลกำไรเติบโต 17%
กลุ่มเอชเอสบีซี ประกาศผลกำไรก่อนหักภาษีประจำไตรมาส 3 ปี 54 มีมูลค่า 7.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.6 พันล้านเหรียญสหรัฐจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และผลกำไรงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2554 มีมูลค่า 18.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กลุ่มเอชเอสบีซี ยังคงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนเงินทุนขั้นที่ 1 อยู่ที่ร้อยละ 10.6 ณ วันที่ 30กันยายน 2554
สำหรับผลกำไรก่อนหักภาษีของภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก (รวมฮ่องกง) เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 เป็นผลจากรายได้ที่โตขึ้นร้อยละ 13 ส่วนผลกำไรก่อนหักภาษีของภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก (ยกเว้นฮ่องกง) โตขึ้นร้อยละ 31 นับจากต้นปี เนื่องจากมีการเติบโตรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีการขยายตัวของสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นทั้งของฝ่ายพาณิชย์ธนกิจ และฝ่ายสินเชื่อธุรกิจและกลุ่มบริหารเงินและตลาดทุน รวมทั้งรายได้ค่าธรรมเนียมที่เติบโตเพิ่มขึ้น และการตั้งสำรองหนี้สูญที่ลดลง
นายปีเตอร์ วอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารเอชเอสบีซี ประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก กล่าวว่า ผลการดำเนินงานครั้งนี้สะท้อนว่าเอชเอสบีซียังคงทำกำไรอย่างแข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชียแม้ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอนเพิ่มมากขึ้น ธนาคารเชื่อว่าเครือข่ายสาขาที่โดดเด่น และการวางแผนเชิงกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นด้านการค้าระหว่างประเทศ การบริหารความมั่งคั่ง และการหมุนเวียนเงินทุนจะช่วยให้เราพร้อมอย่างเต็มที่ในการประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเราช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจแก่ลูกค้าในเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วของโลก
กลุ่มเอชเอสบีซี ประกาศผลกำไรก่อนหักภาษีประจำไตรมาส 3 ปี 54 มีมูลค่า 7.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.6 พันล้านเหรียญสหรัฐจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และผลกำไรงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2554 มีมูลค่า 18.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กลุ่มเอชเอสบีซี ยังคงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนเงินทุนขั้นที่ 1 อยู่ที่ร้อยละ 10.6 ณ วันที่ 30กันยายน 2554
สำหรับผลกำไรก่อนหักภาษีของภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก (รวมฮ่องกง) เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 เป็นผลจากรายได้ที่โตขึ้นร้อยละ 13 ส่วนผลกำไรก่อนหักภาษีของภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก (ยกเว้นฮ่องกง) โตขึ้นร้อยละ 31 นับจากต้นปี เนื่องจากมีการเติบโตรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีการขยายตัวของสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นทั้งของฝ่ายพาณิชย์ธนกิจ และฝ่ายสินเชื่อธุรกิจและกลุ่มบริหารเงินและตลาดทุน รวมทั้งรายได้ค่าธรรมเนียมที่เติบโตเพิ่มขึ้น และการตั้งสำรองหนี้สูญที่ลดลง
นายปีเตอร์ วอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารเอชเอสบีซี ประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก กล่าวว่า ผลการดำเนินงานครั้งนี้สะท้อนว่าเอชเอสบีซียังคงทำกำไรอย่างแข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชียแม้ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอนเพิ่มมากขึ้น ธนาคารเชื่อว่าเครือข่ายสาขาที่โดดเด่น และการวางแผนเชิงกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นด้านการค้าระหว่างประเทศ การบริหารความมั่งคั่ง และการหมุนเวียนเงินทุนจะช่วยให้เราพร้อมอย่างเต็มที่ในการประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเราช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจแก่ลูกค้าในเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วของโลก
