บลจ.ทิสโก้ โชว์ผลงานกองทุนส่วนบุคคลโตทั้งลูกค้าและเงินลงทุน หลังนักลงทุนห่วงปัญหาเงินเฟ้อ โยกเงินให้ผู้เชี่ยวชาญดูแลแทน ชูจุดเด่น แนะนำจัดสรรการลงทุนในสินทรัพย์ทุกประเภท ตั้งแต่เสี่ยงต่ำถึงเสี่ยงสูง
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลของ บลจ. ทิสโก้ ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้ (ณ 31 ส.ค. 54) ในส่วนของกลุ่มลูกค้าบุคคลรายใหญ่ (High Net Worth) ที่มีพอร์ตการลงทุนตั้งแต่ 20-40 ล้านบาทขึ้นไป มีการขยายตัวอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยมีจำนวนลูกค้าบุคคลรายใหญ่ร่วม 300 บัญชี เพิ่มขึ้นถึง 16% จากสิ้นปี 53 ขณะที่สินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) ของกลุ่มลูกค้าบุคคลรายใหญ่ ก็มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันอยู่ที่เกือบ 9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่า 10% จากสิ้นปี 53 และคาดว่าในปีนี้ทั้งปี สินทรัพย์กลุ่มลูกค้าบุคคลรายใหญ่ภายใต้การบริหารจะมีการขยายตัวอยู่ที่ประมาณ 20%
ทั้งนี้ สาเหตุการเติบโตของกลุ่มลูกค้าบุคคลรายใหญ่ในกลุ่ม High Net Worth มาจาก ความกังวลด้านอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งส่งผลให้ลูกค้าต้องการทีมผู้เชี่ยวชาญทางด้านการลงทุนที่สามารถให้คำปรึกษาและช่วยบริหารเงินของลูกค้าให้ได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินเฟ้อ ในขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์การเงินก็มีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้นจึงต้องการผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการบังคับใช้ พ.ร.บ. คุ้มครองเงินฝาก ทำให้กลุ่มลูกค้าบุคคลรายใหญ่มีความสนใจในกองทุนส่วนบุคคลมากขึ้น ซึ่งมีทีมลงทุนที่เชี่ยวชาญคอยให้บริการในการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดภายใต้ความเสี่ยงที่ลูกค้ากำหนด
นายสาห์รัชกล่าวว่า กลุ่มลูกค้า High Net Worth นั้น นอกจากการให้บริการด้านการบริหารจัดการกองทุนส่วนบุคคลแล้ว ทิสโก้ยังมีบริการที่ปรึกษาทางการเงินการลงทุนที่ครบวงจร ภายใต้ชื่อ “ทิสโก้ เวลธ์ (TISCO Wealth)” ซึ่งเป็นบริการบริหารความมั่งคั่ง เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านการออมและการลงทุนไว้ในที่เดียว ทั้งบริการธนาคาร, บริหารจัดการกองทุน และบริการซื้อขายหลักทรัพย์ สำหรับลูกค้าบุคคลรายใหญทั้งหมดของกลุ่มทิสโก้ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ การให้บริการคำแนะนำในการจัดสรรการลงทุน (Asset Allocation) ในสินทรัพย์ทุกๆ ประเภทตราสาร ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่นเงินฝาก ตั๋วแลกเงิน พันธบัตร หุ้นกู้ ไปจนถึงความเสี่ยงปานกลางไปถึงความเสี่ยงสูง เช่น กองทุนรวม หุ้น ตลอดจนการลงทุนในต่างประเทศ (Off-shore) และคอมโมดิตี้ เช่น น้ำมัน ทอง ซึ่งเราจะมีผู้เชี่ยวชาญทางการเงินที่เรียกว่า Wealth Manager เป็นผู้ให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับความต้องการในการลงทุนของลูกค้าแต่ละรายอย่างแท้จริง”
ทั้งนี้ ภาพรวมของการแข่งขันของธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล สำหรับกลุ่มลูกค้าบุคคลรายใหญ่ยังถือว่าไม่รุนแรงเท่ากลุ่มลูกค้าสถาบันที่มีการแข่งขันที่รุนแรงกว่า โดยเฉพาะในเรื่องของค่าธรรมเนียม ในขณะที่กลุ่มลูกค้าบุคคลรายใหญ่จะเน้นที่การแข่งขันด้านการให้บริการ และการให้คำแนะนำการลงทุน เนื่องจากปัจจุบันนักลงทุนที่เป็นบุคคลรายใหญ่ให้ความสำคัญต่อการบริหารพอร์ตมากขึ้น และต้องการผู้ที่มีความเชี่ยวชาญมาช่วยบริหารเงิน เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ชนะเงินเฟ้อ
“จุดเด่นของเราคือ การให้บริการด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์สูง มีการให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพ และสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี สะท้อนได้จากรางวัลต่างๆ ที่ บลจ. ทิสโก้ได้รับในปีที่ผ่านมา ได้แก่ รางวัล SET Awards 2010 ประเภทบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนยอดเยี่ยม หรือ Best Asset Management Company Award และได้รับการจัดอันดับให้เป็น บลจ. ที่มีผลงานด้านกองทุนตราสารทุนดีที่สุดของประเทศไทยในรอบระยะเวลา 3 ปี (Best Equity Fund Group over 3 Years ) จาก Lipper Fund Awards 2010 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการบริหารจัดการกองทุนที่มีประสิทธิภาพ”
ปัจจุบัน ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลของ บลจ.ทิสโก้ มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมกว่า 40,000 ล้านบาท โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับที่ 2 ของอุตสาหกรรม และมีการเติบโตของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารอย่างต่อเนื่อง โตขึ้นกว่า 90% ในรอบ 6 ปีที่ผ่านมา โดยได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ทั้งกลุ่มลูกค้าบุคคลรายใหญ่ และกลุ่มลูกค้าสถาบัน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ, องค์กรอิสระ, มูลนิธิ, สหกรณ์, บริษัทเอกชนทั้งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลของ บลจ. ทิสโก้ ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้ (ณ 31 ส.ค. 54) ในส่วนของกลุ่มลูกค้าบุคคลรายใหญ่ (High Net Worth) ที่มีพอร์ตการลงทุนตั้งแต่ 20-40 ล้านบาทขึ้นไป มีการขยายตัวอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยมีจำนวนลูกค้าบุคคลรายใหญ่ร่วม 300 บัญชี เพิ่มขึ้นถึง 16% จากสิ้นปี 53 ขณะที่สินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) ของกลุ่มลูกค้าบุคคลรายใหญ่ ก็มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันอยู่ที่เกือบ 9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่า 10% จากสิ้นปี 53 และคาดว่าในปีนี้ทั้งปี สินทรัพย์กลุ่มลูกค้าบุคคลรายใหญ่ภายใต้การบริหารจะมีการขยายตัวอยู่ที่ประมาณ 20%
ทั้งนี้ สาเหตุการเติบโตของกลุ่มลูกค้าบุคคลรายใหญ่ในกลุ่ม High Net Worth มาจาก ความกังวลด้านอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งส่งผลให้ลูกค้าต้องการทีมผู้เชี่ยวชาญทางด้านการลงทุนที่สามารถให้คำปรึกษาและช่วยบริหารเงินของลูกค้าให้ได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินเฟ้อ ในขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์การเงินก็มีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้นจึงต้องการผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการบังคับใช้ พ.ร.บ. คุ้มครองเงินฝาก ทำให้กลุ่มลูกค้าบุคคลรายใหญ่มีความสนใจในกองทุนส่วนบุคคลมากขึ้น ซึ่งมีทีมลงทุนที่เชี่ยวชาญคอยให้บริการในการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดภายใต้ความเสี่ยงที่ลูกค้ากำหนด
นายสาห์รัชกล่าวว่า กลุ่มลูกค้า High Net Worth นั้น นอกจากการให้บริการด้านการบริหารจัดการกองทุนส่วนบุคคลแล้ว ทิสโก้ยังมีบริการที่ปรึกษาทางการเงินการลงทุนที่ครบวงจร ภายใต้ชื่อ “ทิสโก้ เวลธ์ (TISCO Wealth)” ซึ่งเป็นบริการบริหารความมั่งคั่ง เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านการออมและการลงทุนไว้ในที่เดียว ทั้งบริการธนาคาร, บริหารจัดการกองทุน และบริการซื้อขายหลักทรัพย์ สำหรับลูกค้าบุคคลรายใหญทั้งหมดของกลุ่มทิสโก้ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ การให้บริการคำแนะนำในการจัดสรรการลงทุน (Asset Allocation) ในสินทรัพย์ทุกๆ ประเภทตราสาร ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่นเงินฝาก ตั๋วแลกเงิน พันธบัตร หุ้นกู้ ไปจนถึงความเสี่ยงปานกลางไปถึงความเสี่ยงสูง เช่น กองทุนรวม หุ้น ตลอดจนการลงทุนในต่างประเทศ (Off-shore) และคอมโมดิตี้ เช่น น้ำมัน ทอง ซึ่งเราจะมีผู้เชี่ยวชาญทางการเงินที่เรียกว่า Wealth Manager เป็นผู้ให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับความต้องการในการลงทุนของลูกค้าแต่ละรายอย่างแท้จริง”
ทั้งนี้ ภาพรวมของการแข่งขันของธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล สำหรับกลุ่มลูกค้าบุคคลรายใหญ่ยังถือว่าไม่รุนแรงเท่ากลุ่มลูกค้าสถาบันที่มีการแข่งขันที่รุนแรงกว่า โดยเฉพาะในเรื่องของค่าธรรมเนียม ในขณะที่กลุ่มลูกค้าบุคคลรายใหญ่จะเน้นที่การแข่งขันด้านการให้บริการ และการให้คำแนะนำการลงทุน เนื่องจากปัจจุบันนักลงทุนที่เป็นบุคคลรายใหญ่ให้ความสำคัญต่อการบริหารพอร์ตมากขึ้น และต้องการผู้ที่มีความเชี่ยวชาญมาช่วยบริหารเงิน เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ชนะเงินเฟ้อ
“จุดเด่นของเราคือ การให้บริการด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์สูง มีการให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพ และสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี สะท้อนได้จากรางวัลต่างๆ ที่ บลจ. ทิสโก้ได้รับในปีที่ผ่านมา ได้แก่ รางวัล SET Awards 2010 ประเภทบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนยอดเยี่ยม หรือ Best Asset Management Company Award และได้รับการจัดอันดับให้เป็น บลจ. ที่มีผลงานด้านกองทุนตราสารทุนดีที่สุดของประเทศไทยในรอบระยะเวลา 3 ปี (Best Equity Fund Group over 3 Years ) จาก Lipper Fund Awards 2010 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการบริหารจัดการกองทุนที่มีประสิทธิภาพ”
ปัจจุบัน ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลของ บลจ.ทิสโก้ มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมกว่า 40,000 ล้านบาท โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับที่ 2 ของอุตสาหกรรม และมีการเติบโตของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารอย่างต่อเนื่อง โตขึ้นกว่า 90% ในรอบ 6 ปีที่ผ่านมา โดยได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ทั้งกลุ่มลูกค้าบุคคลรายใหญ่ และกลุ่มลูกค้าสถาบัน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ, องค์กรอิสระ, มูลนิธิ, สหกรณ์, บริษัทเอกชนทั้งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น