xs
xsm
sm
md
lg

“กิตติรัตน์” ร้อง ธปท.ชะลอขึ้น ดบ. เพื่อให้โอกาส รบ.ปรับ ศก.สู่สมดุล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“กิตติรัตน์” เตรียมร้องขอ ธปท.ชะลอขึ้นดอกเบี้ย เพื่อให้โอกาสรัฐบาลปรับ ศก. สู่สมดุลก่อน พร้อมฝากผู้วิจารณ์นโยบาย รบ. หันมาให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการเดินหน้าทำงาน และเป็นที่ปรึกษาด้านวิชาการให้แก่ภาครัฐในการวางแผนการทำงานร่วมกัน เผยเอกชนพร้อมขึ้นค่าแรง 300 บาท ดีเดย์ 1 ม.ค.ปีหน้า

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า รัฐบาลจะเจรจากับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ช่วยชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้รัฐบาลได้มีโอกาสเดินหน้าทำงานตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภาให้บรรลุตามเป้าหมาย

พร้อมฝากไปถึงบรรดานักการเมือง นักวิชาการ และผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลอยู่ตลอดเวลาเกี่ยวกับนโยบายต่างๆ โดยเฉพาะนโยบายการรับจำนำข้าว, นโยบายค่าแรงขั้นต่ำ, นโยบายภาษีเพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยขอให้บุคคลเหล่านี้หันมาให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการเดินหน้าทำงาน และเป็นที่ปรึกษาด้านวิชาการให้แก่ภาครัฐในการวางแผนการทำงานร่วมกัน เพื่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ และมาช่วยกันเปลี่ยนสมดุลเศรษฐกิจของประเทศ

สำหรับในส่วนของส่วนของค่าแรง 300 บาทนั้น เชื่อว่าในวันที่ 1 มกราคม 2555 ภาคเอกชนจะพร้อมใจกันสนองนโยบายดังกล่าว เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายการปรับลดอัตราภาษีนิติบุคคลเหลือร้อยละ 23 เพื่อเป็นมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ พร้อมขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย ชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อน เพื่อให้รัฐบาลได้ดำเนินนโยบายให้เป็นรูปธรรม

นอกจากนี้ นายกิตติรัตน์ยังฝากไปยังกระทรวงการคลัง ในการขยายฐานภาษีเพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC โดยรัฐบาลจะเปลี่ยนประเทศไทย เข้าสู่สมดุลใหม่ในการทยอยปรับลดอัตราภาษีเงินได้ จากปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 30

นายกิตติรัตน์ยังได้ปาฐกถาในงานสัมมนา "จับทิศท่องเที่ยวไทย 2 ล้านล้านบาท ความท้าทายรัฐบาลใหม่" โดยระบุว่า ในด้านการท่องเที่ยวนั้น รัฐบาลตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยวปี 58 ไว้ที่ 2 ล้านล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่ารายได้จากการท่องเที่ยวจะอยู่ที่ประมาณ 7 แสนล้านบาท เติบโต 27% จากปีก่อน แม้ว่าภาวะน้ำท่วมและเหตุความรุนแรงในภาคใต้ ตลอดจนเศรษฐกิจของยุโรปและสหรัฐฯ จะบั่นทอนบรรยากาศการท่องเที่ยวไปบ้างก็ตาม

ด้าน นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานฝ่ายนโยบาย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวเสริมว่า นักท่องเที่ยวจากยุโรปที่คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 50% ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เดินทางเข้ามาในไทย ซึ่งนักท่องเที่ยวยุโรปกลุ่มนี้อาจได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศตัวเองอยู่บ้าง จึงทำให้ยอดนักท่องเที่ยวยุโรปลดลงไปประมาณ 15% แต่ทั้งนี้ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวของไทยก็มีแผนจะหันไปทำตลาดนักท่องเที่ยวในเอเชียเพื่อเป็นการทดแทนแล้ว

ส่วนผู้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ แต่ได้มีการประสานกับธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs Bank) เพื่อเตรียมให้ความช่วยเหลือทางด้านการเงินแก่ผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่ รายกลาง และรายเล็ก ให้เป็นที่ครอบคลุม
กำลังโหลดความคิดเห็น