ครม.ไฟเขียวเว้นภาษีบ้านหลังแรกเป็นเวลา 5 ปี ตามจำนวนจ่ายจริงแต่รวมกันไม่เกิน 5 แสน ดีเดย์ 22 ก.ย.54-31 ธ.ค.55 กระทบจัดเก็บภาษี 1.7 พันล้าน “ปู” ลั่นช่วยเหลือคนซื้อบ้าน ด้านเอกชนแก้เกม ดันยอดขายหวังเข้าเป้า เหตุ 3ไตรมาสลูกค้าชะลอซื้อ-โอน ส่งผลตลาดรวมหดตัว “แสนสิริ” ส่งโครงการที่อยู่อาศัย ไม่เกิน 5 ล้าน กว่า 8,300 ยูนิต มูลค่า 20,000 ล้านบาท AP เชื่อกระตุ้นบรรยากาศ ด้าน เอ็น.ซี.ฯ ดึงบ้านราคาสูงกว่า 5 ล้านบาท ลดราคาเข้าเกณฑ์บ้านหลังแรกดึงแคมเปญ 0% 6 เดือน จูงใจลูกค้า
วานนี้ (20 ) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติตามข้อเสนอกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับมาตราการภาษีช่วยเหลือประชาชนให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยยกเว้นเงินได้ที่จ่ายเป็นค่าซื้ออสังหาฯ ที่เป็นอาคารพร้อมที่ดิน หรือ ห้องชุดในอาคารชุด เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งมีมูลค่าไม่เกิน 5 ล้านบาท เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามหลักเกณฑ์
นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า จะช่วยให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง และเป็นการลดภาระการลงทุนด้านที่อยู่อาศัยของประชาชน โดยการใช้สิทธิยกเว้นภาษีดังกล่าว จะมีผลกระทบต่อการจัดเก็บภาษีของภาครัฐประมาณ 1,700 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม ผลทางด้านบวกของมาตรการดังกล่าวจะช่วยให้ธุรกิจอสังหาฯมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นในทิศทางที่ดี
ทั้งนี้ ผู้ที่จะได้รับสิทธิลดหย่อนภาษี ต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ ดังนี้ 1.เป็นเงินได้ที่จ่ายเป็นค่าซื้ออสังหาฯที่เป็นอาคารพร้อมที่ดิน หรือห้องชุดในอาคารชุด เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย ตามจำนวนที่จ่ายจริง ในอัตราไม่เกิน 10% ของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ แต่ไม่เกิน 500,000 บาท
2.ผู้มีเงินได้มีสิทธิยกเว้นภาษีเป็นจำนวนเท่าๆ กัน ในแต่ละปีเป็นเวลา 5 ปีภาษีต่อเนื่องกัน ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันแล้วไม่เกิน 500,000 บาท 3.การยกเว้นภาษีจะใช้วิธีการหักค่าลดหย่อน ซึ่งผู้มีเงินได้สามารถเลือกใช้สิทธิ์ครั้งแรกสำหรับเงินได้ในปีที่ได้โอนกรรมสิทธิ์หรือปีถัดไปก็ได้ โดยสามารถหักเป็นค่าลดหย่อนได้ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 5 ปี
4.ผู้มีเงินได้ต้องจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาฯให้แล้วเสร็จ ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย.ถึง วันที่ 31 ธ.ค.55 5.ผู้มีเงินได้ต้องไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาฯเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยมาก่อน และ 6.ผู้มีเงินได้ต้องมีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาฯที่ซื้อเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปีนับแต่วันที่จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาฯและอสังหาฯนั้นต้องไม่เคยผ่านการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์มาก่อนไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
“ปู” ลั่นช่วยเหลือคนมีบ้าน
วานนี้ (20 ก.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงนโบายบ้านหลังแรกที่มีการวิจารณ์ว่าไม่สามารถช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ไม่เสียภาษี ว่า นโยบายนี้รวมถึงบ้านในราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ซึ่งราคาบ้านที่มีราคาตั้งแต่ 3-5 ล้านบ้าน ตนอยากให้ครอบคลุมทั้งหมด แต่บ้านหลังแรกส่วนใหญ่จะเป็นราคาที่ไม่แพงมากนัก นโยบายนี้เราจะส่งเสริมผู้ที่ไม่เคยมีบ้านมาก่อน
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สำหรับคนที่ไม่ได้เสียภาษีจะได้รับประโยชน์อะไร ในการลดหย่อนภาษี 10% น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า วันนี้เราอยากจะใช้นโยบายนี้ในการส่งเสริมผู้ที่เข้าร่วมโครงการนั้นต้องร่วมกันเสียภาษีด้วย เพราะ 1 ปีแรกนั้น อาจจะไม่ได้ใช้สิทธิหักภาษี ต้องสมัครร่วมรายการเสียภาษีก่อน ซึ่งบ้านนั้นมีระยะเวลาในการใช้สิทธิถึง 5 ปี เชื่อว่าน่าจะมีการออกได้
เมื่อถามต่อว่า ทำไมถึงมีการเปลี่ยนวงเงินในนโยบายจากเดิมหลังละไม่เกิน 3 ล้านบาท เป็น 5 ล้านบาท น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ไม่ได้เปลี่ยน ส่วนของนโยบายเรามองครอบคลุม ส่วนของเม็ดเงินด้วย เพราะนโยบายที่เราหารือกันมี 2 ส่วน ตั้งแต่ 3-5 แสนบาท เป็นในส่วนของบ้านหลังละ 5 ล้านบาท
เมื่อถามว่า กระทรวงการคลัง มีการประเมินหรือไม่ว่าประชาชนผู้ได้รับประโยชน์ในนโยบายนี้ มีจำนวนเท่าใด น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของกระทรวงการคลังชี้แจงจะดีกว่า เพราะมีตัวเลขทั้งหมด จากจำนวนสถิติบ้านที่ซื้อใหม่นั้น ก็ไม่ใช่ผู้ที่มีบ้านหลังแรกทั้งหมด ก็จะมีการประเมินไว้
“แสนสิริ” ร่วมวงบ้านหลังแรก
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI กล่าวว่า มาตรการข้างต้นจะส่งผลดีต่อผู้ซื้อที่อยู่อาศัย ส่งผลให้ตลาดที่อยู่อาศัยระดับกลางล่างมีการอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นในปีนี้
ทั้งนี้ ปัจจุบันกลุ่มบริษัทแสนสิริ มีจำนวนโครงการที่อยู่อาศัยที่สามารถรองรับบ้านหลังแรกได้จำนวน 8,300 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นจำนวนที่อยู่อาศัยรอโอนภายในปี 55 จำนวน 3,500 ยูนิต มูลค่า 8,000 ล้านบาท และที่อยู่อาศัยใหม่สำหรับการขายภายใต้ราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท จำนวน 4,800 ยูนิต มูลค่า 12,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2.5 ล้านบาท
ทั้งนี้ เพื่อให้ส่งมอบบ้านให้ลูกค้าได้เร็วขึ้น บริษัทฯได้ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีการพัฒนาที่อยู่อาศัยแบบพรีคาส โดยโรงงานพรีคาสแห่งใหม่ ซึ่งเป็นระบบ Fully Automatic Robot ที่จะเริ่มการผลิตในไตรมาสที่ 1 ของปี 2555 นั้น ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมจะเป็นโครงการที่มีการเปิดขาย และขายหมดตั้งแต่ 1-2 ปีที่ผ่านมา และก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามสัญญา ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าบริษัทจะสามารถส่งมอบที่อยู่อาศัยได้ทันภายในระยะเวลาที่กำหนดของมาตรการบ้านหลังแรกอย่างแน่นอน พร้อมทั้งยังเร่งกำลังการผลิตเพื่อให้ทันมาตรการบ้านหลังแรกผ่านระบบพรีคาสเพิ่มอีกเป็นมูลค่า 5,000 ล้านบาท
AP ชี้ช่วย “กระตุ้นบรรยากาศ” อสังหาฯ
นายภูมิพัฒน์ สินาเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการเงินและบัญชี บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ AP เชื่อว่า มาตรการที่ประกาศออกมาช่วยกระตุ้นภาพรวมตลาดอสังหาฯให้คึกคักได้ แต่ไม่ถึงกับเป็นตัวสำคัญที่ช่วยผลักดันให้เกิดกำลังซื้อใหม่ๆ ขึ้น เพราะลูกค้าจะพิจารณาในหลายๆ ปัจจัย เช่น สภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อความมั่นใจของผู้บริโภคในระยะยาว
สำหรับบริษัท ณ ปัจจุบันมีสินค้าที่รับกับมาตรการบ้านหลังแรก ที่พร้อมขายและโอนภายใน 31 ธ.ค.55 คิดเป็นมูลค่า 40% ของสินค้าทั้งหมด โดยเป็นสินค้าแนวราบและคอนโดฯส่วนหนึ่ง
“เชื่อว่า มาตรการนี้จะช่วยกระตุ้นบรรยากาศให้ลูกค้าที่กำลังลังเลตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น รวมทั้งลูกค้าที่ชะลอการโอนกรรมสิทธิ์ มีข้อสรุปที่ชัดเจนหลังจากที่เฝ้ารอความชัดเจนมาระยะเวลาหนึ่ง”
NCH แก้เกมเร่งยอด-ระบายสต๊อก
ลดราคาบ้านให้เข้าเกณฑ์
นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH กล่าวว่า เดิมมีมาตรการช่วยเหลือผู้บริโภคอยู่แล้ว คือ ให้นำค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยบ้านว ไม่เกิน 100,000 บาท มาหักลดหน่อยภาษีได้ แต่เมื่อมีมาตรการใหม่เข้ามาเสริม ซึ่งหักได้ไม่เกิน 500,000 บาทในระยะ 5 ปี ก็เท่ากับว่าผู้บริโภคได้รับ 2เด้ง ซึ่งช่วยลดภาระลูกค้าได้ค่อนข้างมาก
ภาพรวมของตลาดช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อและโอนที่อยู่อาศัย พอรอมาตรการ ทำให้ยอดขายหดตัวลง ดังนั้น ในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ เชื่อว่า ผู้ประกอบการจะมีการทำตลาดร่วมกับมาตรการนี้ไปด้วย เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงปลายปีให้ได้ตามเป้าประมาณของแต่ละบริษัท
โดยในส่วนของบริษัท มีสต๊อกบ้านสร้างก่อนขายและบ้านพร้อมอยู่ ในกลุ่มราคาบ้าน 5 ล้านบาท และ 2-3 ล้านบาท ในพอร์ตกว่า 300 ล้านบาท และมีแผนนำมาลดราคาและจัดทำราคาพิเศษรองรับความต้องการลูกค้าในมาตรการดังกล่าวในช่วง 3 เดือนที่เหลือนี้ ในส่วนของบ้านระดับราคาเกินกว่า 5 ล้านบาทในโครงการโฮมออนกรีนธัญบุรี ที่มีประมาณ 10-15 ยูนิต จะนำมาลดราคาขายเพื่อให้เข้าเกณฑ์กำหนดของมาตรการด้วย
ในขณะที่กลุ่มบ้านระดับราคา 2-3 ล้านบาท ที่มีอยู่ในสต๊อก จะจัดแคมเปญราคาพิเศษ ให้ส่วนลดและของแถม ซึ่งจะออกเป็นแคมเปญพิเศษในช่วงวันที่ 22 ก.ย.-สิ้นเดือน ธ.ค.54 นี้ อย่างไรก็ตาม ในมาตรการดังกล่าวไม่ได้รวมเอาเรื่อง ดอกเบี้ย 0% เข้ามาไว้ในโครงการด้วย ดังนั้น ทางบริษัทจะนำแคมเปญพิเศษทางการเงิน ที่ปัจจุบันร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ และ ธนาคารกสิกรไทย คือ ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือนเข่าร่วมแคมเปญดังกล่าวด้วย โดยตั้งเป้ายอดขายประมาณ 300 ล้านบาท
วานนี้ (20 ) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติตามข้อเสนอกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับมาตราการภาษีช่วยเหลือประชาชนให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยยกเว้นเงินได้ที่จ่ายเป็นค่าซื้ออสังหาฯ ที่เป็นอาคารพร้อมที่ดิน หรือ ห้องชุดในอาคารชุด เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งมีมูลค่าไม่เกิน 5 ล้านบาท เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามหลักเกณฑ์
นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า จะช่วยให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง และเป็นการลดภาระการลงทุนด้านที่อยู่อาศัยของประชาชน โดยการใช้สิทธิยกเว้นภาษีดังกล่าว จะมีผลกระทบต่อการจัดเก็บภาษีของภาครัฐประมาณ 1,700 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม ผลทางด้านบวกของมาตรการดังกล่าวจะช่วยให้ธุรกิจอสังหาฯมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นในทิศทางที่ดี
ทั้งนี้ ผู้ที่จะได้รับสิทธิลดหย่อนภาษี ต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ ดังนี้ 1.เป็นเงินได้ที่จ่ายเป็นค่าซื้ออสังหาฯที่เป็นอาคารพร้อมที่ดิน หรือห้องชุดในอาคารชุด เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย ตามจำนวนที่จ่ายจริง ในอัตราไม่เกิน 10% ของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ แต่ไม่เกิน 500,000 บาท
2.ผู้มีเงินได้มีสิทธิยกเว้นภาษีเป็นจำนวนเท่าๆ กัน ในแต่ละปีเป็นเวลา 5 ปีภาษีต่อเนื่องกัน ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันแล้วไม่เกิน 500,000 บาท 3.การยกเว้นภาษีจะใช้วิธีการหักค่าลดหย่อน ซึ่งผู้มีเงินได้สามารถเลือกใช้สิทธิ์ครั้งแรกสำหรับเงินได้ในปีที่ได้โอนกรรมสิทธิ์หรือปีถัดไปก็ได้ โดยสามารถหักเป็นค่าลดหย่อนได้ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 5 ปี
4.ผู้มีเงินได้ต้องจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาฯให้แล้วเสร็จ ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย.ถึง วันที่ 31 ธ.ค.55 5.ผู้มีเงินได้ต้องไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาฯเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยมาก่อน และ 6.ผู้มีเงินได้ต้องมีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาฯที่ซื้อเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปีนับแต่วันที่จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาฯและอสังหาฯนั้นต้องไม่เคยผ่านการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์มาก่อนไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
“ปู” ลั่นช่วยเหลือคนมีบ้าน
วานนี้ (20 ก.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงนโบายบ้านหลังแรกที่มีการวิจารณ์ว่าไม่สามารถช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ไม่เสียภาษี ว่า นโยบายนี้รวมถึงบ้านในราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ซึ่งราคาบ้านที่มีราคาตั้งแต่ 3-5 ล้านบ้าน ตนอยากให้ครอบคลุมทั้งหมด แต่บ้านหลังแรกส่วนใหญ่จะเป็นราคาที่ไม่แพงมากนัก นโยบายนี้เราจะส่งเสริมผู้ที่ไม่เคยมีบ้านมาก่อน
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สำหรับคนที่ไม่ได้เสียภาษีจะได้รับประโยชน์อะไร ในการลดหย่อนภาษี 10% น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า วันนี้เราอยากจะใช้นโยบายนี้ในการส่งเสริมผู้ที่เข้าร่วมโครงการนั้นต้องร่วมกันเสียภาษีด้วย เพราะ 1 ปีแรกนั้น อาจจะไม่ได้ใช้สิทธิหักภาษี ต้องสมัครร่วมรายการเสียภาษีก่อน ซึ่งบ้านนั้นมีระยะเวลาในการใช้สิทธิถึง 5 ปี เชื่อว่าน่าจะมีการออกได้
เมื่อถามต่อว่า ทำไมถึงมีการเปลี่ยนวงเงินในนโยบายจากเดิมหลังละไม่เกิน 3 ล้านบาท เป็น 5 ล้านบาท น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ไม่ได้เปลี่ยน ส่วนของนโยบายเรามองครอบคลุม ส่วนของเม็ดเงินด้วย เพราะนโยบายที่เราหารือกันมี 2 ส่วน ตั้งแต่ 3-5 แสนบาท เป็นในส่วนของบ้านหลังละ 5 ล้านบาท
เมื่อถามว่า กระทรวงการคลัง มีการประเมินหรือไม่ว่าประชาชนผู้ได้รับประโยชน์ในนโยบายนี้ มีจำนวนเท่าใด น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของกระทรวงการคลังชี้แจงจะดีกว่า เพราะมีตัวเลขทั้งหมด จากจำนวนสถิติบ้านที่ซื้อใหม่นั้น ก็ไม่ใช่ผู้ที่มีบ้านหลังแรกทั้งหมด ก็จะมีการประเมินไว้
“แสนสิริ” ร่วมวงบ้านหลังแรก
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI กล่าวว่า มาตรการข้างต้นจะส่งผลดีต่อผู้ซื้อที่อยู่อาศัย ส่งผลให้ตลาดที่อยู่อาศัยระดับกลางล่างมีการอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นในปีนี้
ทั้งนี้ ปัจจุบันกลุ่มบริษัทแสนสิริ มีจำนวนโครงการที่อยู่อาศัยที่สามารถรองรับบ้านหลังแรกได้จำนวน 8,300 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นจำนวนที่อยู่อาศัยรอโอนภายในปี 55 จำนวน 3,500 ยูนิต มูลค่า 8,000 ล้านบาท และที่อยู่อาศัยใหม่สำหรับการขายภายใต้ราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท จำนวน 4,800 ยูนิต มูลค่า 12,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2.5 ล้านบาท
ทั้งนี้ เพื่อให้ส่งมอบบ้านให้ลูกค้าได้เร็วขึ้น บริษัทฯได้ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีการพัฒนาที่อยู่อาศัยแบบพรีคาส โดยโรงงานพรีคาสแห่งใหม่ ซึ่งเป็นระบบ Fully Automatic Robot ที่จะเริ่มการผลิตในไตรมาสที่ 1 ของปี 2555 นั้น ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมจะเป็นโครงการที่มีการเปิดขาย และขายหมดตั้งแต่ 1-2 ปีที่ผ่านมา และก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามสัญญา ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าบริษัทจะสามารถส่งมอบที่อยู่อาศัยได้ทันภายในระยะเวลาที่กำหนดของมาตรการบ้านหลังแรกอย่างแน่นอน พร้อมทั้งยังเร่งกำลังการผลิตเพื่อให้ทันมาตรการบ้านหลังแรกผ่านระบบพรีคาสเพิ่มอีกเป็นมูลค่า 5,000 ล้านบาท
AP ชี้ช่วย “กระตุ้นบรรยากาศ” อสังหาฯ
นายภูมิพัฒน์ สินาเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการเงินและบัญชี บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ AP เชื่อว่า มาตรการที่ประกาศออกมาช่วยกระตุ้นภาพรวมตลาดอสังหาฯให้คึกคักได้ แต่ไม่ถึงกับเป็นตัวสำคัญที่ช่วยผลักดันให้เกิดกำลังซื้อใหม่ๆ ขึ้น เพราะลูกค้าจะพิจารณาในหลายๆ ปัจจัย เช่น สภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อความมั่นใจของผู้บริโภคในระยะยาว
สำหรับบริษัท ณ ปัจจุบันมีสินค้าที่รับกับมาตรการบ้านหลังแรก ที่พร้อมขายและโอนภายใน 31 ธ.ค.55 คิดเป็นมูลค่า 40% ของสินค้าทั้งหมด โดยเป็นสินค้าแนวราบและคอนโดฯส่วนหนึ่ง
“เชื่อว่า มาตรการนี้จะช่วยกระตุ้นบรรยากาศให้ลูกค้าที่กำลังลังเลตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น รวมทั้งลูกค้าที่ชะลอการโอนกรรมสิทธิ์ มีข้อสรุปที่ชัดเจนหลังจากที่เฝ้ารอความชัดเจนมาระยะเวลาหนึ่ง”
NCH แก้เกมเร่งยอด-ระบายสต๊อก
ลดราคาบ้านให้เข้าเกณฑ์
นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH กล่าวว่า เดิมมีมาตรการช่วยเหลือผู้บริโภคอยู่แล้ว คือ ให้นำค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยบ้านว ไม่เกิน 100,000 บาท มาหักลดหน่อยภาษีได้ แต่เมื่อมีมาตรการใหม่เข้ามาเสริม ซึ่งหักได้ไม่เกิน 500,000 บาทในระยะ 5 ปี ก็เท่ากับว่าผู้บริโภคได้รับ 2เด้ง ซึ่งช่วยลดภาระลูกค้าได้ค่อนข้างมาก
ภาพรวมของตลาดช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อและโอนที่อยู่อาศัย พอรอมาตรการ ทำให้ยอดขายหดตัวลง ดังนั้น ในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ เชื่อว่า ผู้ประกอบการจะมีการทำตลาดร่วมกับมาตรการนี้ไปด้วย เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงปลายปีให้ได้ตามเป้าประมาณของแต่ละบริษัท
โดยในส่วนของบริษัท มีสต๊อกบ้านสร้างก่อนขายและบ้านพร้อมอยู่ ในกลุ่มราคาบ้าน 5 ล้านบาท และ 2-3 ล้านบาท ในพอร์ตกว่า 300 ล้านบาท และมีแผนนำมาลดราคาและจัดทำราคาพิเศษรองรับความต้องการลูกค้าในมาตรการดังกล่าวในช่วง 3 เดือนที่เหลือนี้ ในส่วนของบ้านระดับราคาเกินกว่า 5 ล้านบาทในโครงการโฮมออนกรีนธัญบุรี ที่มีประมาณ 10-15 ยูนิต จะนำมาลดราคาขายเพื่อให้เข้าเกณฑ์กำหนดของมาตรการด้วย
ในขณะที่กลุ่มบ้านระดับราคา 2-3 ล้านบาท ที่มีอยู่ในสต๊อก จะจัดแคมเปญราคาพิเศษ ให้ส่วนลดและของแถม ซึ่งจะออกเป็นแคมเปญพิเศษในช่วงวันที่ 22 ก.ย.-สิ้นเดือน ธ.ค.54 นี้ อย่างไรก็ตาม ในมาตรการดังกล่าวไม่ได้รวมเอาเรื่อง ดอกเบี้ย 0% เข้ามาไว้ในโครงการด้วย ดังนั้น ทางบริษัทจะนำแคมเปญพิเศษทางการเงิน ที่ปัจจุบันร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ และ ธนาคารกสิกรไทย คือ ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือนเข่าร่วมแคมเปญดังกล่าวด้วย โดยตั้งเป้ายอดขายประมาณ 300 ล้านบาท