กลุ่ม "วิชัย-พิมล" ยันสนใจหุ้น PICNI แต่ที่ยังไม่ใส่เงินเพิ่มทุน 1.7 พันล้าน เพราะยังไม่มีการปรับ "บอร์ด" ตามเงื่อนไข ยันในทางปฎิบัติ คงไม่มีใครกล้าวใส่เงินเข้าไป ถ้าไม่สามารถเข้าไปควบคุมกิจการได้ ลั่นพร้อมใส่เงินทันที หากโละบอร์ดชุดเก่า ยันไม่มีการล้มดีล พร้อมเสนอส่งคนของตัวเองเข้าไป 5 คน แต่ไม่ต้องเปลี่ยน "พัชรวาท" พอใจให้นั่ง ปธ.บอร์ด ต่อได้
ม.ร.ว.ศศิพฤนท์ จันทรทัต กรรมการผู้จัดการบริษัท เพลินจิต แคปปิตอล จำกัด ในฐานะตัวแทนกลุ่มนายวิชัย ทองแตง ที่จะเข้ามาฟื้นฟูกิจการบริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNI เปิดเผยว่า ทางกลุ่มนายวิชัยยังให้ความสนใจเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน PICNI ตามแผนฟื้นฟูกิจการฯ ตามที่ได้ประกาศเจตนารมย์เอาไว้ แต่สาเหตุที่ขณะนี้ทางกลุ่มยังไม่ใส่เงินเพิ่มทุน 1,700 ล้านบาท ตามเวลาที่กำหนด 1 กันยายน 2554 นี้ เนื่องจากยังติดปัญหาที่ PICNI ยังไม่เปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขของการเข้าลงทุน
"กระบวนการยังไปไม่ถึงจุดที่จะใส่เงินซื้อได้ ยังติดปัญหาเรื่องการ control (เข้าไปควบคุม) ไม่สามารถ control บริษัทได้เพราะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงบอร์ด ซึ่งอยู่ในเงื่อนไข และในทางปฏิบัติ คงไม่มีใครใส่เงินเข้าไปได้ หากไม่สามารถเข้าไป control บริษัทได้"
ทั้งนี้ ทางกลุ่มได้มีการทำหนังสือแจ้งไปยังคณะกรรมการเจ้าหนี้ตั้งแต่ วันที่ 1 กันยายน 2554 (วานนี้) เกี่ยวกับเงื่อนไขของการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนยังไม่ได้ดำเนินการ เพราะบริษัทไม่มีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการ ซึ่งหลังการส่งหนังสือไปแล้วทางกลุ่มยังไม่ได้รับการติดต่อกลับ ดังนั้น ขณะนี้คงต้องรอว่าคณะกรรมการเจ้าหนี้จะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร
"ยืนยันว่าเราพร้อมใส่เงิน ไม่มีการล้มดีล แต่จะให้เราใส่เงินโดยไม่เข้าไปควบคุมคงเป็นไปไม่ได้ เราเสนอของส่งคนเข้าไปเป็นบอร์ด 5 คน แต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงประธานบริษัท ซึ่ง พ.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เรายังพร้อมให้ท่านเป็นประธานกรรมการต่อไป"
ด้านนายพิมล ศรีวิกรม์ หนึ่งในกลุ่มผู้ร่วมทุนใหม่ กล่าวว่า ทางกลุ่มพร้อมที่จะซื้อหุ้นเพิ่มทุน แต่ยังติดปัญหาที่คณะกรรมการบริษัทยังไม่ยินยอมลาออกตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงไว้
ขณะที่บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทฯ ได้แจ้งความคืบหน้าตามหนังสือเลขที่ PICNI 06-08/11 ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2554 นั้น จากการตรวจสอบบัญชีธนาคารธนาคารกรุงไทยเพื่อรองรับการเพิ่มทุนเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2554 พบว่านักลงทุนกลุ่มนายพิมล ศรีวิกรม์ ที่เสนอชื่อไว้ยังไม่ได้โอนเงินชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนเป็นจำนวนเงิน 1,700,000,000 บาท (1.7 พันล้านบาท) เข้ามาที่บริษัทฯแต่อย่างใด
ดังนั้น จึงเป็นผลทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถชำระเงินให้แก่เจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการได้ ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ ในฐานะผู้บริหารแผนอยู่ระหว่างดำเนินการปรึกษาหารือกับคณะกรรมการเจ้าหนี้ในทางปฏิบัติที่ถูกต้องและแก้ไข