รมว.คลัง เผยที่ประชุม คกก.ติดตามภาวะ ศก.มีมติมอบหมาย สภาหอการค้าฯ ศึกษาระบบตะกร้าเงิน 10 ปีข้างหน้า เพื่อเป็นฐานข้อมูลเชิงวิชาการ ประกอบการพิจารณาคำนวณเรื่องนโยบายทาง ศก.และอัตราแลกเปลี่ยนในอนาคต ยันไม่ได้เข้าแทรกแซงการทำงานของ ธปท.เพราะไม่ต้องการทะเลาะเรื่องค่าเงินผ่านสื่อ
นายธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการติดตามภาวะเศรษฐกิจ ได้มอบหมายให้สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ไปทำการศึกษาระบบตะกร้าเงินที่เหมาะสมในช่วง 10 ปีข้างหน้า เนื่องจากระบบสัดส่วนการค้าของตลาดโลกในอนาคต อาจมีการเปลี่ยนแปลงไปจากปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่า ระบบตะกร้าเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ใช้อยู่ในปัจจุบันไม่มีความเหมาะสม เพียงแต่ต้องการให้ไปศึกษาข้อมูลทางวิชาการที่จะนำมาใช้ประกอบการพิจารณาคำนวณเรื่องนโยบายทางเศรษฐกิจ และอัตราแลกเปลี่ยนในอนาคต
“คณะกรรมการชุดนี้ไม่ได้เข้าไปแทรกแซงการทำงานของธนาคารแห่งประเทศไทย แต่สิ่งที่คณะกรรมการชุดนี้ให้ทำ เพื่อนำมาเปรียบเทียบเป็นข้อมูลในเชิงวิชาการ เพราะไม่อยากให้ถกเถียงเรื่องค่าเงินกันทางสื่อ เพราะเรื่องตะกร้าเงินในอนาคตจะเป็นข้อมูลเชิงวิชาการ และจะได้นำมาใช้ประกอบการพิจารณาร่วมกัน”
ที่ประชุมฯ ยังตั้งเป้าหมายในการทำงาน 5 ประการ ได้แก่ 1.เน้นกระบวนการสร้างอุปสงค์ในประเทศให้สามารถเกิดขึ้นได้และเป็นไปอย่างต่อเนื่อง 2.เร่งให้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการผลิตของภาคเอกชนเพื่อรองรับการปรับขึ้นค่าจ้างและเงินเดือน 3.เร่งสร้างตลาดส่งออกใหม่ๆ เพื่อทดแทนตลาดหลัก
4.เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง โดยเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วม และ 5.การส่งเสริมให้ภาคเอกชนไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในรูปของหลักทรัพย์ หรือการตั้งโรงงาน โดยมอบหมายให้นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รับไปศึกษาและพิจารณาแนวทางการดำเนินงานแล้วนำกลับมาเสนอที่ประชุมในครั้งหน้า
รมว.คลัง กล่าวว่า ที่ประชุมจะศึกษาความเป็นไปได้ที่จะส่งเสริมให้ปี 2555 เป็นปีส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชน และปีแห่งการพัฒนาทักษะแรงงาน โดยจะส่งเสริมให้ภาคเอกชนปรับตัวเพื่อรองรับการแข่งขันในการปรับเปลี่ยนเครื่องจักร การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพื่อลดแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ รวมทั้งการฝึกอบรมเพื่อยกระดับฝีมือแรงงาน ซึ่งภาครัฐจะมีมาตรการช่วยเหลือเรื่องสินเชื่อผ่านธนาคารของรัฐ ตลอดจนขอความร่วมมือจากธนาคารพาณิชย์ด้วย
