“บางจาก” แนะ รบ.ตรวจสต๊อกน้ำมันช่วงปลายเดือน ส.ค.นี้ เพื่อจ่ายชดเชย ก่อนปรับลดในเดือน ก.ย.นี้ หวั่นผู้ค้างดสั่งซื้อ เพราะถ้าขายไม่หมดเสี่ยงขาดทุน พร้อมห่วงราคาเบนซิน ขยับใกล้แก๊สโซฮอล์ กระทบแผนพลังงานทดแทน ที่ทำมานานกว่า 10 ปี
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากนโยบายยกเลิกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงชั่วคราว ของน้ำมันเบนซินและดีเซล ในเดือนกันยายน 2554 นี้ จะทำให้ราคาขายปลีกปรับลดลงทันที ราคาน้ำมันเบนซิน 95 ลดลง 8 บาทต่อลิตร เบนซิน 91 ลดลง 7.71 บาทต่อลิตร และดีเซลลดลง 2.99 บาทต่อลิตร
ทั้งนี้ สิ่งที่น่ากังวล ได้แก่ 1 สัปดาห์ก่อนลดราคาน้ำมัน คือ ปลายเดือนสิงหาคม 2554 ปั๊มน้ำมันอาจไม่สั่งน้ำมัน หากจำหน่ายน้ำมันไม่หมดจะเสี่ยงขาดทุน ซึ่งอาจทำให้น้ำมันขาดแคลน ดังนั้น แนวทางที่จะรองรับคือ กระทรวงพลังงานต้องชดเชยราคาน้ำมันคงเหลือในถังเก็บ โดยต้องตรวจวัดปริมาณก่อน-หลังปรับลดราคา
นอกจากนี้ ยังเป็นห่วงเรื่องพลังงานทดแทน หากลดเฉพาะราคาน้ำมันเบนซิน โดยไม่ลดราคาแก๊สโซฮอล์ จะทำให้ราคาใกล้เคียงเบนซิน 95 ส่วนแก๊สโซฮอล์ 91 ราคาจะสูงกว่าเบนซิน 91 ที่ราคาลดลงเหลือ 33.63 บาทต่อลิตร อาจทำให้ผู้ใช้รถหันไปใช้น้ำมันเบนซินแทนแก๊สโซฮอล์ และกระทบนโยบายพลังงานทดแทนที่เริ่มมานานกว่า 10 ปี จึงหวังว่าจะมีแนวทางลดราคาแก๊สโซฮอล์ ด้วยการลดภาษีสรรพสามิตแก๊สโซฮอล์ 1.05-130 บาทต่อลิตร หรือหาเงินอุดหนุนช่วยลดแก๊สโซฮอล์ เช่นเดียวกับที่รัฐบาลจะกู้เงินไปอุดหนุนราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) และก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี)
ส่วนทิศทางราคาน้ำมันดีเซล ช่วงปลายปีนี้น่าเป็นห่วง เนื่องจากคาดว่า จะมีการขยับราคาสูงขึ้น เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งในเอเชีย ปิดซ่อมบำรุง ขณะที่จีนมีความต้องการสูงขึ้น ส่วนญี่ปุ่นมีความต้องการน้ำมันดีเซลใช้ผลิตไฟฟ้าแทนพลังงานนิวเคลียร์ หากดีเซลขยับขึ้น 10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จะทำให้ราคาขายปลีกในประเทศ ขยับขึ้น 2 บาทต่อลิตร
ตอนนี้ ทุกฝ่ายจับตานโยบายอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลของรัฐว่า จะต่ออายุมาตรการดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ที่จะสิ้นสุดเดือนกันยายน 2554 หรือไม่ ปัจจุบันรัฐบาลอุดหนุนดีเซล ทั้งลดภาษีสรรพสามิต 5.83 บาทต่อลิตร และเตรียมลดเงินกองทุนน้ำมันฯ 2.80 บาทต่อลิตร