xs
xsm
sm
md
lg

“กรณ์” ตีกัน “ปู” ถลุงงบ จี้รักษาวินัยการคลัง-วงเงินขาดดุลต้องไม่เกิน 3.5 แสนล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“กรณ์” เผย แนวโน้มรายได้ปีงบ 55 เพิ่มจาก 1.9 ล้านล้าน เป็น 2 ล้านล้านบาท ส่งผลให้รัฐบาลใหม่มีเงินให้ถลุงมากขึ้น จี้รักษาวินัยการคลัง ยันวงเงินขาดดุลต้องไม่เกิน 3.5 แสนล้าน หวั่นกระทบเงินเฟ้อและมุ่งเข้าสูงกรอบงบประมาณสมดุลให้สำเร็จภายในปี 58 ห่วงนโยบายพักหนี้ครัวเรือน-รับจำนำข้าวถลุงเงินมหาศาล พร้อมตั้ง Policy Watch จับตาการทุจริตของรัฐบาล

นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศจะต้องดำเนินนโยบายการคลังและนโยบายการเงินให้มีความสอดคล้องกัน โดยเฉพาะการใช้เงินงบประมาณแม้จะเป็นสิทธิที่สามารถรื้องบประมาณปี 2555 ใหม่ได้ แต่ต้องระมัดระวังการใช้เงินโดยไม่กดดันอัตราเงินเฟ้อให้เร่งตัว ซึ่งการกำหนดกรอบขาดดุลไว้ที่ 3.5 แสนล้านบาท โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มองว่า เป็นระดับที่เหมาะสมและไม่กระทบภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งสอดคล้องกับที่กระทรวงการคลังต้องการลดการขาดดุลลงเพื่อเดินไปสู่งบสมดุลตามกรอบ 5 ปีหรือภายในปี 2558

“แม้ขณะนี้แนวโน้มรายได้ในปีงบ 55 จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากเดิม 1.9 ล้านล้านบาท เป็น 2 ล้านล้านบาท ทำให้รัฐมีวงเงินเพื่อใช้จ่ายตามนโยบายที่ประกาศไว้อีก 1 แสนล้านบาท ก็ควรจะยึดกรอบการขาดดุลงบประมาณเท่าเดิมที่ 3.5 แสนล้านบาท และต้องคำนึงถึงมาตรการที่จะตามมาทั้งการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล การลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่จะมีการทบทวนใหม่หรือไม่ รวมไปถึงการลดหย่อนภาษีการซื้อรถยนต์คัดแรกที่จะนำมาสู่รายได้ที่ลดลงในอนาคตด้วย โดยหวังว่า รัฐบาลจะไม่กู้เงินตามที่ประกาศไว้และรักษาวินัยทางคลังไว้ได้ต่อเนื่อง” นายกรณ์ กล่าว

นอกจากนั้น ยังเป็นห่วงบางมาตรการที่จะนำมาสู่ผลในทางลบมากกว่าผลในทางบวก โดยเฉพาะการพักหนี้ครัวเรือนไม่เกิน 5 แสนบาท ซึ่งไม่ชัดเจนว่าจะให้กลุ่มใดหากให้ประชาชนทุกคนก็จะหมายถึงหนี้ของประชาชนที่มีกับสถาบันการเงินทุกแห่งซึ่งจะเป็นวงเงินมหาศาล เฉพาะหนี้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แห่งเดียวก็คิดเป็น 70% ของลูกค้าทั้งหมดหากรัฐต้องชดเชยดอกเบี้ยให้ที่ 8% ต่อปี ก็จะคิดเป็นเงินประมาณ 3.2 หมื่นล้านบาท และยังมีผลต่อวินัยในการชำระหนี้ของลูกค้าและการตอบคำถามของสังคมในการนำเงินภาษีมาใช้จ่ายด้วย

รวมถึงนโยบายจำนำข้าวที่จะนำมาใช้แทนการประกันรายได้นั้น เห็นว่าขณะนี้เริ่มมีผลกระทบแล้วทั้งการกักตุนสินค้าและราคาข้าวที่ปรับสูงขึ้น ซึ่งนอกจากผลประโยชน์จะตกกับพ่อค้าคนกลางและโรงสีแล้ว ยังเป็นการใช้งบมากถึง 4 แสนล้านบาทต่อปี ในการรับซื้อข้าวในราคาสูงกว่าตลาด 60-70% และจะส่งผลให้ข้าวสารในตลาดปรับราคาตามไปด้วย จึงฝากให้รัฐบาลดูอุดช่องโหว่และป้องกันการทำกำไรของพ่อค้าคนกลางด้วย

ส่วนนโยบายการปรับขึ้นค่าแรง 300 บาทต่อวันนั้น ตนเห็นด้วยแต่ต้องดูแลผู้ประกอบการรายเล็กที่จะได้รับผลกระทบด้านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นด้วย รวมถึงการปรับฐานเงินเดือนปริญญาตรี 1.5 หมื่นบาทก็จะมีผลให้องค์กรหรือหน่วยงานมีภาระเพิ่มขึ้น รัฐบาลต้องดูแลผลกระทบที่จะตามมาด้วย

นายกรณ์ กล่าวถึง รมว.คลังคนใหม่ ว่า ต้องมีความรู้ความสามารถด้านการเงินการคลังเป็นอย่างดี ประชาชนต้องมีความมั่นใจว่าสามารถพึ่งพาได้ และต้องมีความสุจริต พูดความจริง พร้อมจะปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ กล้าคัดค้านสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ขณะเดียวกันจะจัดตั้งกลุ่ม Policy Watch ของพรรคประชาธิปัตย์เพื่อติดตามการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจ การเมืองรวมทั้งจับตาการทุจริตของรัฐบาลด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น