ก.ล.ต.ยันมูดีส์ หั่นเครดิต “โปรตุเกส” ไม่กระทบไทย เผย มี 2 บลจ.ที่เข้าไปลงทุน ตั้งกองทุนรวมลงทุนโปรตุเกสไม่มาก “ฟินันซ่า” ยันการลดเครดิต ไม่ใช่การผิดชำระหนี้ สามารถจ่าย ดบ.ได้ตามปกติ “แอสเซทพลัส” มั่นใจมีเงินคืนหนี้ เผยกองทุนใกล้ครบอายุ ต.ค.นี้
นางจารุพรรณ อินทรรุ่ง ผู้อำนวยการฝ่ายกำกับธุรกิจจัดการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า การปรับลดความน่าเชื่อถือของโปรตุเกสลงสู่ระดับขยะของสถาบันจัดอันดับมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ไม่ได้กระทบกองทุนรวมทั้งระบบมากนัก เนื่องจากมีกองทุนที่ไปลงทุนโปรตุเกสไม่มาก และส่วนใหญ่จะครบอายุการลงทุนในเดือนตุลาคม 2554 นี้
ทั้งนี้ พบว่ามี บลจ.ของไทยที่ตั้งกองทุน เพื่อไปลงทุนโปรตุเกส 2 แห่ง ได้แก่ บลจ.ฟินันซ่า และ บลจ.แอสเซท พลัส เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม การปรับลดเครดิตอาจทำให้กองทุนจะต้องลดสัดส่วนการลงทุน เพราะเกณฑ์กำหนดให้ลงทุนในตราสารหนี้ประเภทจังค์หรือขยะได้ไม่เกิน 15% ของพอร์ตลงทุน ซึ่งกองทุนที่ออกไปลงทุนจะเป็นกองทุนเทอมฟันด์ที่ลงทุนเต็มพอร์ต โดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ต้องขอมติผู้ถือหน่วยลงทุนว่าจะถือลงทุนจนครบอายุหรือขายออก
นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ฟินันซ่า กล่าวว่า บริษัทมีกองทุนที่ไปลงทุนในพันธบัตรโปรตุเกสที่จะครบอายุกองสุดท้ายในเดือนมกราคม 2555 ซึ่งไม่น่าจะมีผลกระทบต่อกองทุน เนื่องจากมองว่าการถูกลดเครดิตของโปรตุเกส ยังไม่ได้ถือว่าเป็นการผิดนัดชำระหนี้ ยังสามารถจ่ายดอกเบี้ยได้ตามปกติ
“บริษัทมั่นใจว่า โปรตุเกสมีความสามารถชำระหนี้ได้ถึงปี 2559 เพราะเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่ให้วงเงินกู้ 7.8 หมื่นล้านยูโรยังไม่ได้นำไปใช้”
ด้าน นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ บลจ.แอสเซท พลัส กล่าวว่า บริษัทมีกองทุนตราสารหนี้โปรตุเกส 3 กอง ประมาณพันล้านบาท ซึ่งจะทยอยครบอายุในเดือนกรกฎาคม 2554 นี้ และกองสุดท้ายเดือนตุลาคม 2554 ซึ่งมั่นใจว่า จะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากการปรับลดเครดิตเป็นความกังวลของมูดี้ส์ เพราะมองว่าจะเป็นเหมือนกรีซ แต่ในความเป็นจริงแล้ว โปรตุเกสยังมีความสามารถคืนหนี้จากวงเงินที่ได้รับความช่วยเหลือซึ่งคืนหนี้ได้ถึงปี 2556
