คลังเปิดตัวกองทุน กอช.เป็นทางการ หวังดึงประชาชนที่อยู่นอกระบบบำนาญ 25 ล้านคนร่วมออมเงิน "กรณ์" เผยรัฐอัดฉีดปีละ 2.5 หมื่นล้านบาท จ่ายสมทบให้
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังร่วมเป็นสักขีพยานในการเปิดตัวกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2554 ซึ่งมีนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ว่า กองทุน กอช.จะเปิดโอกาสให้ประชาชนที่อยู่นอกระบบบำนาญกว่า 25 ล้านคน ได้มีโอกาสออมเงินในบัญชีของตนเอง โดยรัฐบาลจะสมทบไม่เกิน 100 บาท ซึ่งเมื่อสะสมเงินจนครบอายุ 60 ปี ผู้ออมจะได้รับเงินบำนาญทุกเดือน
เบื้องต้นรัฐบาลได้สำรองงบประมาณปี 2555 ไว้สำหรับจ่ายสมทบ ซึ่งประเมินว่าจะใช้งบเฉลี่ยปีละ 2 หมื่นล้านบาท ในกรณีที่สมาชิกเข้าระบบทั้ง 25 ล้านคน แต่สำหรับปีแรกที่จะรับสมาชิก ตั้งเป้าผู้เข้าร่วมประมาณ 10% หรือ 2.5 ล้านคน
นายนริศกล่าวว่า กองทุนจะเริ่มเปิดรับสมาชิก ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.2555 เป็นต้นไป โดยผู้มีสิทธิ์จะต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย อายุ 15-60 ปี ไม่เป็นสมาชิกกองทุนอื่นใดที่ได้รับเงินสมทบจากรัฐหรือนายจ้าง และไม่ได้อยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญภาครัฐหรือเอกชน ซึ่งสมาชิกต้องเปิดบัญชีฝากเงินกับธนาคารของรัฐ หรือช่องทางอื่นที่อาจขยายเพิ่มเติม โดยสะสมเงินเข้ากองทุนไม่ต่ำกว่าครั้งละ 50 บาท แต่ไม่เกิน 13,200 บาท ต่อปี และรัฐบาลจะให้เงินสมทบตามช่วงอายุของสมาชิกและเป็นอัตราส่วนกับจำนวนเงินที่สมาชิกสะสมเข้ากองทุน ตั้งแต่ 50% ถึง 100% โดยไม่เกินเงินสมทบสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด
สำหรับประโยชน์ตอบแทน สมาชิกจะได้รับบำนาญรายเดือนจนตลอดชีวิตเมื่อสมาชิกอายุครบ 60 ปีเป็นต้นไป และมีเงินออมที่มากพอ ซึ่งสมาชิกที่ออมมากจะได้รับบำนาญมากตามไปด้วย และในกรณีที่สมาชิกทุพพลภาพก่อนอายุครบ 60 ปี จะมีสิทธิ์นำเงินออมออกมาใช้ก่อนได้ นอกจากนี้ หากสมาชิกมีความจำเป็นต้องลาออกจากกองทุนฯ จะได้รับคืนเฉพาะเงินที่ได้ออมไว้ โดยไม่รวมเงินสมทบ
ระหว่างวันที่ 8 พ.ค.2555 จนถึงวันที่ 6 พ.ค.2556 จะเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีสิทธิ์สมัครเป็นสมาชิกของกองทุนด้วย และจ่ายเงินสมทบต่อไปอีก 10 ปี
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังร่วมเป็นสักขีพยานในการเปิดตัวกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2554 ซึ่งมีนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ว่า กองทุน กอช.จะเปิดโอกาสให้ประชาชนที่อยู่นอกระบบบำนาญกว่า 25 ล้านคน ได้มีโอกาสออมเงินในบัญชีของตนเอง โดยรัฐบาลจะสมทบไม่เกิน 100 บาท ซึ่งเมื่อสะสมเงินจนครบอายุ 60 ปี ผู้ออมจะได้รับเงินบำนาญทุกเดือน
เบื้องต้นรัฐบาลได้สำรองงบประมาณปี 2555 ไว้สำหรับจ่ายสมทบ ซึ่งประเมินว่าจะใช้งบเฉลี่ยปีละ 2 หมื่นล้านบาท ในกรณีที่สมาชิกเข้าระบบทั้ง 25 ล้านคน แต่สำหรับปีแรกที่จะรับสมาชิก ตั้งเป้าผู้เข้าร่วมประมาณ 10% หรือ 2.5 ล้านคน
นายนริศกล่าวว่า กองทุนจะเริ่มเปิดรับสมาชิก ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.2555 เป็นต้นไป โดยผู้มีสิทธิ์จะต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย อายุ 15-60 ปี ไม่เป็นสมาชิกกองทุนอื่นใดที่ได้รับเงินสมทบจากรัฐหรือนายจ้าง และไม่ได้อยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญภาครัฐหรือเอกชน ซึ่งสมาชิกต้องเปิดบัญชีฝากเงินกับธนาคารของรัฐ หรือช่องทางอื่นที่อาจขยายเพิ่มเติม โดยสะสมเงินเข้ากองทุนไม่ต่ำกว่าครั้งละ 50 บาท แต่ไม่เกิน 13,200 บาท ต่อปี และรัฐบาลจะให้เงินสมทบตามช่วงอายุของสมาชิกและเป็นอัตราส่วนกับจำนวนเงินที่สมาชิกสะสมเข้ากองทุน ตั้งแต่ 50% ถึง 100% โดยไม่เกินเงินสมทบสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด
สำหรับประโยชน์ตอบแทน สมาชิกจะได้รับบำนาญรายเดือนจนตลอดชีวิตเมื่อสมาชิกอายุครบ 60 ปีเป็นต้นไป และมีเงินออมที่มากพอ ซึ่งสมาชิกที่ออมมากจะได้รับบำนาญมากตามไปด้วย และในกรณีที่สมาชิกทุพพลภาพก่อนอายุครบ 60 ปี จะมีสิทธิ์นำเงินออมออกมาใช้ก่อนได้ นอกจากนี้ หากสมาชิกมีความจำเป็นต้องลาออกจากกองทุนฯ จะได้รับคืนเฉพาะเงินที่ได้ออมไว้ โดยไม่รวมเงินสมทบ
ระหว่างวันที่ 8 พ.ค.2555 จนถึงวันที่ 6 พ.ค.2556 จะเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีสิทธิ์สมัครเป็นสมาชิกของกองทุนด้วย และจ่ายเงินสมทบต่อไปอีก 10 ปี
