ปตท.เผยมีโอกาสปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน วันพุธนี้ หากน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ลง เผยค่าการตลาดอยู่ที่ 1.5 บาท เล็งเพิ่มสถานีบริการ NGV จาก 440 แห่งเป็น 480 แห่งภายในปีนี้ ตอกย้ำสุดยอดบริษัทของไทย
นายสรัญ รังคศิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า หากราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดสิงคโปร์ปรับลดลงวันนี้ ก็มีโอกาสที่ ปตท.จะปรับลดราคาขยปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินในประเทศลงอีกครั้ง ในวันพุธที่ 25 พฤษภาคม 2554 นี้ พร้อมระบุว่า ค่าการตลาดเฉลี่ยวันนี้อยู่ที่ 1.50 บาทต่อลิตร
นายเติมชัย บุนนาค ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่วางแผน หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ปตท. เปิดเผยว่า ขณะนี้ ปตท.กำลังเร่งสร้างสถานีจ่ายก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะเพิ่มสถานีลูกเป็น 480 แห่งภายในปีนี้ จากปัจจุบันที่มีอยู่ 440 แห่ง ขณะที่สถานีแม่จะมีการสร้างเพิ่มเติมอีก 2 แห่งคือ ที่เทพารักษ์ และแก่งคอย หากเสร็จเรียบร้อยแล้วจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตได้ ส่วนในต่างจังหวัดได้จัดแหล่งผลิตก๊าซเพิ่มขึ้น เช่น ที่ลานกระบือเพื่อส่งจ่ายไปยังภาคเหนือ
ส่วนในพื้นที่ภาคใต้ยังติดปัญหาเรื่องปริมาณที่ต้องแบ่งกับปิโตรนาสจากแหล่งเจดีเอ ซึ่งตามสัญญาต้องแบ่งกับมาเลเซีย 50-50 จึงอาจใช้ก๊าซจากแหล่งขนอมแทน แต่ยังติดปัญหาเรื่องคุณภาพ ดังนั้นผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนขอให้ไปใช้บริการจากสถานีตามแนวท่อซึ่งยังมีปริมาณก๊าซเพียงพอ
สำหรับปัญหาการขาดทุนที่เกิดจากการตรึงราคาก๊าซเอ็นจีวีนั้น นายเติมชัย กล่าวว่า ขณะนี้ ปตท.กำลังหารือกับกระทรวงพลังงานเพื่อหาทางออกสำหรับเรื่องดังกล่าว โดยอาจร่วมมือกับสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) จัดตั้งคณะกรรมการเพื่อมาดูแลราคาให้เหมาะสม
ด้านนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สื่อสารองค์กรและกิจการเพื่อสังคม ปตท. เปิดเผยว่า จากการสำรวจความคิดเห็นประจำปี 2554 โดย FinanceAsia นิตยสารการเงินการลงทุนชั้นนำของภูมิภาคเอเชีย ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของผู้จัดการกองทุน นักวิเคราะห์ และนักการเงิน ชั้นนำ ซึ่งจัดทำขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยจัดอันดับบริษัทที่ดีที่สุดใน 9 ประเภทรางวัล ของประเทศต่างๆ ในเอเชีย 10 ประเทศ (ไทย จีน ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ อินเดีย ไต้หวัน มาเลเซีย อินโดนีเซีย เกาหลี และสิงคโปร์)
การจัดอันดับดังกล่าว ปรากฎว่า นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. และนายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน ปตท. ได้รับรางวัลผู้นำองค์กรที่ดีที่สุดของไทย (Best CEO Award) และรางวัลผู้บริหารการเงินที่ดีที่สุดของไทย (Best CFO Award) ตามลำดับ
ขณะที่รางวัลประเภทองค์กร ปตท.ยังได้รับคัดเลือกให้เป็นบริษัทที่มีการบริหารจัดการที่ดีที่สุด (Best Managed Company Award) มีธรรมาภิบาลที่ดีที่สุด (Best Corporate Governance Award) มีหน่วยงานนักลงทุนสัมพันธ์ที่ดีที่สุด (Best Investor Relations Award) เป็นบริษัทที่ทำกิจกรรมเพื่อสังคมที่ดีที่สุด (Best Corporate Social Responsibility Award) และ รางวัลบริษัทที่มีนโยบายผลตอบแทนที่ดีที่สุด (Best Commitment to Strong Dividend Policy)
นายอรรถพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน ปตท. คือ บริษัทพลังงานของคนไทย แปรรูปเป็นบริษัทมหาชนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยยังคงสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจ ถือหุ้นใหญ่โดยรัฐบาลผ่านกระทรวงการคลัง มีภารกิจหลักในการดูแลความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ และสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholders) อย่างเป็นธรรมและเหมาะสม
ด้วยเหตุนี้ ปตท. จึงยึดมั่นดำเนินงานที่มุ่งสร้างสมดุลแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อประโยชน์สูงสุดของชาติและประชาชน การที่ ปตท. ได้รับการยอมรับในระดับภูมิภาคและระดับโลก ย่อมสะท้อนให้เห็นถึงความโปร่งใส การมีศักยภาพและภาพลักษณ์ที่ดีของบริษัทพลังงานของไทย นับเป็นส่วนสำคัญต่อการสร้างความเชื่อมั่นและความเข้มแข็งที่มีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ