xs
xsm
sm
md
lg

ประธาน ตลท.ชี้ 2 ปัจจัยหนุนตลาดหุ้นไทยพุ่ง ฝากหวังรัฐบาลชุดใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมพล เกียรติไพบูลย์
ประธาน ตลท.ชี้ ตลาดหุ้นไทยพุ่งขึ้นแรงช่วงนี้ เป็นเพราะงบ บจ.ออกมาสวย-ศก.ไทยดีต่อเนื่อง เชื่อ ยุบสภา-เลือกตั้ง ไม่มีผลกระทบ เพราะตลาดได้รับรู้ไปแลว พร้อมคาดหวังวิสัยทัศน์ของรัฐบาลใหม่ ไม่ว่าใครจะมา ก็จะสานต่อนโยบายพัฒนาตลาดทุน แปรรูปตลาดหลักทรัพย์

นายสมพล เกียรติไพบูลย์ ประธานคณะกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงทิศทางตลาดหุ้นไทยหลังการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง โดยประเมินว่า ไม่ว่าพรรคใดจะเข้ามาเป็นรัฐบาลใหม่ก็คงจะสานต่อนโยบายพัฒนาตลาดทุนไทย และแปรรูปตลาดหลักทรัพย์ พร้อมทั้งเชื่อว่า การประกาศยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น เพราะเป็นเรื่องที่ตลาดรับรู้มาก่อนแล้ว

สำหรับการปรับตัวขึ้นมาของดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ น่าจะมีสาเหตุมาจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ออกมาดี และพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง และเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมระบุว่า การแปรรูปตลาดหลักทรัพย์ฯ ถือว่าเป็นนโยบายสำคัญในการพัฒนาประเทศและเศรษฐกิจไทย ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนการแปรรูปได้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการกฤษฎีกาขั้นแรกแล้ว

“เชื่อว่า คนที่จะเข้ามาพัฒนาประเทศ จะยังให้ความสำคัญกับตลาดทุนไทย และพร้อมที่จะขจัดอุปสรรคในตลาดทุน เพื่อให้ตลาดทุนไทยแข่งขันกับประเทศอื่นได้” ประธานคณะกรรมการ ตลท.กล่าว

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณารัฐบาลปัจจุบัน โดยเฉพาะ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ในกลไกการทำงานในตลาดทุน ทำให้ตลาดทุนไทยมีศักยภาพ และช่วงนี้ที่ประเทศเข้าสู่การหาเสียงเลือกตั้ง มองว่าตลาดหุ้นไทยจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ เพราะเป็นปัจจัยที่ตลาดคาดการณ์และรับรู้มาแล้ว

ทั้งนี้ หากการเลือกตั้งเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ก็จะทำให้มีการพัฒนาประเทศในเชิงสร้างสรรค์ เพราะไทยยังมีปัจจัยบวกในหลายด้าน ทั้งราคาสินค้าเกษตร ราคาอาหาร ที่อยู่ในระดับสูง และการท่องเที่ยวที่รัฐบาลควรให้ความสำคัญ เพราะยุทธศาสตร์สำคัญหลายแห่ง และช่วยนำรายได้เข้าประเทศ

สำหรับการปรับขึ้นของตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ มาจากการประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2554 ของ บจ.รวมทั้งเศรษฐกิจไทยที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ช่วยสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนในและต่างประเทศ

ด้าน นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเชีย พลัส จำกัด (มหาชน) แนะนำให้รัฐบาลใหม่วางนโยบายที่เป็นโครงการลงทุนในระยะยาว ไม่ใช่การพัฒนาโครงการในลักษณะประชานิยมเหมือนรัฐบาลชุดที่ผ่านมา โดยเฉพาะการให้ความสำคัญในโครงการที่เป็นโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การสื่อสารในระบบ 3G

“หากจะให้คะแนนรัฐบาลชุดนี้ คงอยู่ในระดับกลางๆ ส่วนรัฐบาลใหม่ ผมอยากให้มองหรือเลือกโครงการที่ดี สร้างสรรค์ เป็นประโยชน์กับประเทศในระยะยาว เพราะจะดีกับประเทศเราเอง อยากให้ทุกคนยอมรับกับเสียงส่วนใหญ่ เมื่อมีการเลือกตั้งออกมาแล้ว”

นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการกลุ่มงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลท.กล่าวว่า แม้ขณะนี้จะเป็นช่วงการปรับเปลี่ยนรัฐบาล แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ซึ่งขณะนี้มีบริษัทที่มีความพร้อมยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จำนวน 8-10 บริษัท และพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น 4-5 บริษัท ทำให้เชื่อว่ามาร์เก็ตแค็ปตลาดหุ้นไทยในครึ่งปีแรก อยู่ที่ 40,000-50,000 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 1 แสนล้านบาท ในสิ้นปี 2554

สำหรับภาวะตลาดหุ้นไทย วันนี้ ดัชนีปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 1,080.23 จุด เพิ่มขึ้น 7.76 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.72% มูลค่าการซื้อขาย 18,020.46 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น