บิ๊ก "เป๊ปซี่" จ่อเจรจาสัญญา "เสริมสุข" พรุ่งนี้ โดยคาดได้ข้อสรุปในเร็ววัน ซึ่งโอกาสนี้หวังจะซื้อหุ้นเซเว่นอัพเพิ่ม
วันนี้ (1 มี.ค.) แหล่งข่าว บริษัท เอสเอส เนชั่นแนล โลจิสติกส์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ 32.62% บริษัท เสริมสุข กล่าวว่า การเจรจาแผนธุรกิจและสัญญากับบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ถือหุ้นอันดับ 2 ของบริษัทเสริมสุข จำนวน 24.94% บรรยากาศเป็นไปได้ด้วยดี และคาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้ โดยกำหนดจะหารือร่วมกับคณะผู้บริหารระดับสูงของเป๊ปซี่-โคล่า ที่เดินทางมาเจรจาที่ประเทศไทยในวันที่ 3 มี.ค.นี้
"เอสเอสเข้าเจรจากับเป๊ปซี่โดยตรง ไม่ได้ผ่านกลุ่มคุณสมชาย บุลสุข และเท่าที่เจรจาเบื้องต้น ดูลู่ทางแล้วน่าจะได้ข้อสรุปที่ดีภายในเร็ววันนี้ ส่วนรายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผย อะไรได้มาก เพราะมีการทำข้อตกลงไว้"
โดยในส่วนที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2554 บริษัท เสริมสุข มีมติเอกฉันท์ ให้บริษัทเสริมสุขดำเนินการตามแผนธุรกิจในอนาคตทันที ตามข้อเสนอที่เสริมสุขได้ยื่นต่อเป๊ปซี่-โคล่า โดยขีดเส้นให้เป๊ปซี่-โคล่า ตอบรับข้อเสนอภายในวันที่ 2 มี.ค.2554 ซึ่งหากไม่ตอบรับตามแผนธุรกิจที่เสนอเสริมสุขพร้อมยกเลิกสัญญาทันที
สำหรับแผนธุรกิจอนาคตที่เสริมสุข นำเสนอต่อเป๊ปซี่-โคล่า ได้แก่ 1.การขยายตลาดเครื่องดื่มที่ไม่ใช่น้ำอัดลม โดยการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สู่ตลาดภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัทหรือการเข้าซื้อกิจการ ที่มีผลิตภัณฑ์หรือเครื่องหมายการค้าที่ประสบความสำเร็จในตลาดอยู่แล้ว 2.การลงทุนเพิ่มสายการผลิตน้ำดื่มคริสตัล เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของน้ำดื่ม 3.การเป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อื่นๆ นอกเหนือจากสินค้าประเภทเครื่องดื่ม 4.การเป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มน้ำอัดลมภายใต้เครื่องหมายการค้าอื่น
ส่วนการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับสัญญาระหว่างเสริมสุขและเป๊ปซี่ ประเด็นหลักคือการกำหนดสูตรการคิดราคาค่าหัวน้ำเชื้อ ซึ่งเป็นผลให้ค่าหัวน้ำเชื้อลดลง 9% ต่อปี จากราคาภายใต้สัญญา Exclusive Botting Appointment หรือ EBA ในปัจจุบัน โดยปีที่ผ่านมา เสริมสุขจ่ายเงินส่วนนี้ประมาณ 3.5 พันล้านบาท
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ส่วนการทำรายการซื้อขายหุ้นจำนวน 9.13% ของเอ็นวีดีอาร์ ยังไม่สามารถระบุว่า คนทำรายการซื้อเป็นของผู้ถือหุ้นกลุ่มใด และตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของความคืบหน้าอะไรได้
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวจากสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ว่า ได้รับแบบรายงานการได้มาซึ่งหุ้นบริษัทเสริมสุข เมื่อวันที่ 28 ก.พ.2554 จำนวน 9.13% หรือ 24.26 ล้านหุ้น โดย SBK Beverage limited ผู้รับซื้อเอ็นวีดีอาร์จาก Suntory beverage and food limited ด้านบริษัท SBK beverage พบว่าตั้งอยู่เลขที่ 118/1 อาคารทิปโก้ ชั้น 18 ถ.พระราม 6 สามเสน เขตพญาไท ดุสิต กรุงเทพ 10400 ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัท ซันโทรี่ โฮลดิ้ง ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มรายใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น
ล่าสุด บริษัทเป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด รับซื้อหุ้นเสริมสุขเพิ่มเติม จากบริษัทเซเว่น-อัพ เนเธอร์แลนด์, บี.วี. จำนวน 0.70 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.26% ทำให้เซเว่นอัพ เหลือสัดส่วนถือหุ้น 16.34% ส่วนเป๊ปซี่ ถือหุ้นเพิ่มเป็น 67.02 ล้านหุ้น หรือ 25.20% และได้รับการผ่อนผันในการทำเทนเดอร์ หลังจากระดับการถือหุ้นเกิน 25%
โดยสิ่งที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของไทย พบว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา นักลงทุนญี่ปุ่นให้ความสนใจเข้ามาร่วมและให้ความสนใจธุรกิจดังกล่าว เป็นพิเศษ และซื้อแบบไม่สนใจว่า จะมีมูลค่าเพิ่มมากน้อยแค่ไหน แต่เท่าที่เห็น นักลงทุนญี่ปุ่นมองว่าก่อนหน้านี้ ประเมินว่า สินค้าเกษตร เครื่องดื่มและอาหาร จะให้ผลตอบแทนที่ดีในการลงทุน รวมถึงปัจจุบัน ต้นทุนในการผลิตสินค้าที่ญี่ปุ่นก็สูงกว่าในไทยมาก ดังนั้นการเข้ามาลงทุนผลิตในไทยเพื่อใช้เป็นแขนขารุกตลาดต่างประเทศก็เป็นโอกาสที่ดี
อนึ่ง บริษัทเสริมสุข รายงานผลประกอบการปี 2553 มีกำไรสุทธิ 467 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% จากงวดเดียวกันปีก่อน เนื่องจากมีรายได้เพิ่มขึ้น จำนวนเงิน 2,332 ล้านบาท หรือคิดเป็น 11% ต้นทุนขายเพิ่มขึ้น 1,944 ล้านบาท หรือคิดเป็น 13% ซึ่งแปรผันตามปริมาณการขายและอัตราการเติบโตของแต่ละผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น
ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร เพิ่มขึ้นจำนวนเงิน 198 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4.5% มีสาเหตุหลักจากการปรับขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานที่เพิ่มขึ้น