xs
xsm
sm
md
lg

“แอมเวย์” ฟุ้งผูกขาดครองแชมป์ขายตรง-จ่อโกยปี 54 เหยียบ 2 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบอินเทอร์เน็ต
“แอมเวย์” ผูกขาดแชมป์ขายตรงยาวนาน กวาดรายได้รวมในกลุ่มสินค้าสุขภาพและความงามสัดส่วน 74% โกยผลประกอบการไปกว่า 14,370 ล้านบาท โดยปีนี้ทุ่ม 950 ล้าน เพื่อทำการประชาสัมพันธ์ พร้อมรุกตลาดเปิดช้อปใหม่อีก 10 แห่ง เน้นสนองความต้องการลูกค้ารุ่นใหม่ หวังโกยยอดปี 54 แตะ 20,000 ล้าน

วันนี้ (8 ก.พ.) นายกิจธวัช ฤทธีราวี ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงผลดำเนินงานเมื่อปี 53 ที่ผ่านมา ว่า บริษัทได้สร้างสถิติยอดขายสูงสุดอีกครั้งด้วยผลประกอบการ 14,370 ล้านบาท ครองแชมป์ขายตรงประเทศไทย โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักที่สร้างยอดขาย ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนิวทริไลท์ และเครื่อง สำอางอาร์ทิสทรี รวมทั้งปีนี้เครื่องกรองอากาศแอทโมสเฟียร์ และเครื่องกรองน้ำอี-สปริง ก็มียอดเติบโตอย่างยิ่ง ทำให้สินค้ากลุ่มเพื่อสุขภาพและความงาม มีสัดส่วนรายได้รวมทั้งหมด 74% ของยอดธุรกิจทั้งหมด

ดังนั้น กลยุทธ์ในปี 54 บริษัทจะมุ่งเน้นความต้องการของลูกค้ามาใช้ โดยได้เตรียมแผนการตลาดและการขายเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์เจาะกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น รวมถึงให้ความสำคัญกับการทำตลาดผ่านสื่อโซเชียล เน็ตเวิร์ค ที่กำลังเป็นแนวโน้มสำคัญและสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน ทั้งนี้ บริษัทได้ตั้งงบประมาณด้านการขาย การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์ รวมทั้งการพัฒนาระบบสารสนเทศไว้ที่ 950 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทเตรียมรุกตลาดด้วยการสร้างแบรนด์ต่อสาธารณชนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยทุ่มงบประมาณ 140 ล้านบาท เปิดแอมเวย์ ช็อป ใหม่อีก 10 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ สมุย, พัทยา, สยาม ดิสคัฟเวอรี่, ฉะเชิงเทรา, อุตรดิตถ์, พะเยา, ศรีสะเกษ, บุรีรัมย์, พัทลุง และสระบุรี

“นอกจากนี้ บริษัทยังคงมุ่งเน้นกับการนำเสนอเทรนด์ผู้บริโภคปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและความงาม ด้วยการจัดโปรโมชัน และกิจกรรมต่างๆ ผ่านทุกช่องทางทั้งทางเว็บไซต์ เฟซบุ๊ค แอมเวย์ ช็อป และงานแอมเวย์ เอ็กซ์โป เป็นต้น เพื่อขยายกลุ่มผู้ใช้สินค้า และการซื้อซ้ำให้มากขึ้น พร้อมทั้งรุกสร้างแบรนด์แอมเวย์ให้เป็นแบรนด์สินค้าคุณภาพอันดับต้นๆ ที่ผู้บริโภคนึกถึงและสามารถเข้าถึงแบรนด์และสินค้า แอมเวย์ได้ง่ายขึ้น”

อย่างไรก็ตาม ในส่วนเป้าหมายบริษัทที่วางไว้ 20,000 ล้านบาท ในปี 2555 นั้น ในเวลานี้ยังถือว่ามีโอกาสเป็นไปได้อยู่ แต่นั่นเท่ากับว่า บริษัทจะต้องมีอัตราการเติบโตสูงถึง 18% ต่อปี เพื่อให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้
กำลังโหลดความคิดเห็น