พ่อบุญทุ่ม จีเนท ควักเงินลงทุน 1 พันล้านบาท แบ่งเป็นขยายช่องทางจัดจำหน่ายและงบการตลาดอย่างละครึ่ง หวังดันยอดขาย 5 ล้านเครื่องในปีนี้ เพื่อแซงอินเตอร์แบรนด์ขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งในตลาด
นายวุฒิ จารุวัชรวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเนท อินเตอร์เนชั่แนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เป้าหมายทางการตลาดในปี 2554 นี้ จีเนทมั่นใจว่าจะสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดโทรศัพท์มือถือได้อย่างแน่นอน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทฯ ลงทุนขยายศูนย์บริการ 24 ชั่วโมงกระจายไปตามส่วนต่างๆ ของประเทศจาก 5 สาขาเป็น 14 สาขา เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งทำให้แบรนด์จีเนทได้รับการยอมรับในตลาดมากขึ้น รวมไปถึงการขยายช่องทางจำหน่าย ด้วยการเติม 'จีเนท เอ็กซ์เพรส โมบาย' จำนวน 20 คัน ที่เป็นลักษณะของรถจำหน่ายมือถือจีเนทเข้าไปตามส่วนต่างๆ ของตลาดที่จีเนทยังไม่มีผู้แทนจำหน่าย
'ปีที่แล้วจีเนทได้ลงทุนขยายศูนย์บริการกับรถโมบายไปประมาณ 500 ล้านบาท ทำให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นในแบรนด์จีเนทเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยบริษัทสามารถขายมือถือจีเนทในช่วง 3 เดือนสุดท้ายได้ถึง 1 ล้านเครื่อง'
นายวุฒิ กล่าวถึงยอดขายในปีที่แล้วว่า จีเนทมียอดขายทั้งปีประมาณ 2 ล้านกว่าเครื่อง โดยมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 20 % กว่าๆ จากตลาดรวมมือถือของประเทศที่ประมาณว่าจะมีถึง 12 ล้านเครื่อง แต่สำหรับปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 4-5 ล้านเครื่อง จากตลาดรวมที่จะมีประมาณ 15 ล้านเครื่อง โตขึ้นประมาณ 5-7%
'มือถือเฮาส์แบรนด์ปีนี้น่าจะมีสัดส่วนอยู่ที่ 60% ซึ่งพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคจะมีมือถือทั้งเครื่องที่เป็นอินเตอร์แบรนด์ และเฮาส์แบรนด์ควบคู่กัน โดยเชื่อว่า สถานการณ์ตลาดมือถือที่เป็นเฮาส์แบรนด์จะหดตัวลง จะเหลือผู้เล่นในตลาดไม่กี่ราย'
ทั้งนี้จุดขายของจีเนทอยู่ที่เรื่องของศูนย์บริการและช่องทางจำหน่าย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้จีเนทก้าวสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้ ขณะที่จุดขายทางด้านผลิตภัณฑ์จะยังคงเป็นเรื่องมือถือ 2 ซิม ดูทีวีได้ โดยที่ผ่านมามือถือที่ขายดีของจีเนทจะอยู่ในระดับราคา 1,500-2,500 บาท ประมาณ 80% โดยในแต่ละเดือนจีเนทมีการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่เข้าทำตลาดไม่ต่ำกว่า 10 รุ่นต่อเดือน
นอกจากนั้นในปีนี้ บริษัทจะเริ่มมีการนำสมาร์ทโฟนเข้ามาทำตลาดเพิ่มประมาณปลายไตรมาสแรกถึงต้นไตรมาสที่สอง ซึ่งจะเป็นการทดลองตลาดดูก่อน โดยจะมีการนำเข้ามาประมาณ 15 รุ่น โดยมีระดับราคาตั้งแต่เครื่องราคาถูกประมาณ 2,900-3,900 บาท เครื่องระดับกลาง ราคาประมาณ 4,900-5,900 บาท และสุดท้ายเครื่องระดับไฮเอนด์ โดยจะมีราคาสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท
'จริงๆ แล้วจีเนทมีการทดสอบเครื่องที่เป็นสมาร์ทโฟนตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แต่เนื่องจากต้องรอดูการตอบรับจากตลาดก่อน ก็เลยจะนำเข้ามาทำตลาดประมาณไตรมาสที่ 2 แทน ซึ่งรวมถึงเครื่องที่เป็น 3G ด้วย หากตลาดมีความพร้อมจีเนทก็พร้อมที่จะวางขายทันที'
และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมทำตลาดสมาร์ทโฟน บริษัทได้เพิ่มช่องทางจำหน่ายเรียกว่า จีเนท สมาร์ทช็อป ซึ่งจีเนทจะลงทุนค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดสำหรับพาร์ทเนอร์ที่ต้องการทำตลาดเฉพาะแบรนด์จีเนท จะเป็นช็อปที่เปิดตามห้างสรรพสินค้าเพื่อชนกับอินเตอร์แบรนด์ช็อป ซึ่งจะเป็นช่องทางจำหน่ายมือถือสมาร์ทโฟนของจีเนทด้วย คาดว่าจะสามารถเปิดได้ในปีนี้ประมาณ 50 ร้าน
'ปีนี้ จะมีการลงทุนขยายช่องทางจัดจำหน่ายและศูนย์บริการอีก 500 ล้านบาท ขณะที่จะมีการลงกิจกรรมการตลาดปีนี้อีก 500 ล้านบาท เพื่อเป็นการสร้างแบรนด์จีเนทอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี'
นายวุฒิ จารุวัชรวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเนท อินเตอร์เนชั่แนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เป้าหมายทางการตลาดในปี 2554 นี้ จีเนทมั่นใจว่าจะสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดโทรศัพท์มือถือได้อย่างแน่นอน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทฯ ลงทุนขยายศูนย์บริการ 24 ชั่วโมงกระจายไปตามส่วนต่างๆ ของประเทศจาก 5 สาขาเป็น 14 สาขา เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งทำให้แบรนด์จีเนทได้รับการยอมรับในตลาดมากขึ้น รวมไปถึงการขยายช่องทางจำหน่าย ด้วยการเติม 'จีเนท เอ็กซ์เพรส โมบาย' จำนวน 20 คัน ที่เป็นลักษณะของรถจำหน่ายมือถือจีเนทเข้าไปตามส่วนต่างๆ ของตลาดที่จีเนทยังไม่มีผู้แทนจำหน่าย
'ปีที่แล้วจีเนทได้ลงทุนขยายศูนย์บริการกับรถโมบายไปประมาณ 500 ล้านบาท ทำให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นในแบรนด์จีเนทเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยบริษัทสามารถขายมือถือจีเนทในช่วง 3 เดือนสุดท้ายได้ถึง 1 ล้านเครื่อง'
นายวุฒิ กล่าวถึงยอดขายในปีที่แล้วว่า จีเนทมียอดขายทั้งปีประมาณ 2 ล้านกว่าเครื่อง โดยมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 20 % กว่าๆ จากตลาดรวมมือถือของประเทศที่ประมาณว่าจะมีถึง 12 ล้านเครื่อง แต่สำหรับปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 4-5 ล้านเครื่อง จากตลาดรวมที่จะมีประมาณ 15 ล้านเครื่อง โตขึ้นประมาณ 5-7%
'มือถือเฮาส์แบรนด์ปีนี้น่าจะมีสัดส่วนอยู่ที่ 60% ซึ่งพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคจะมีมือถือทั้งเครื่องที่เป็นอินเตอร์แบรนด์ และเฮาส์แบรนด์ควบคู่กัน โดยเชื่อว่า สถานการณ์ตลาดมือถือที่เป็นเฮาส์แบรนด์จะหดตัวลง จะเหลือผู้เล่นในตลาดไม่กี่ราย'
ทั้งนี้จุดขายของจีเนทอยู่ที่เรื่องของศูนย์บริการและช่องทางจำหน่าย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้จีเนทก้าวสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้ ขณะที่จุดขายทางด้านผลิตภัณฑ์จะยังคงเป็นเรื่องมือถือ 2 ซิม ดูทีวีได้ โดยที่ผ่านมามือถือที่ขายดีของจีเนทจะอยู่ในระดับราคา 1,500-2,500 บาท ประมาณ 80% โดยในแต่ละเดือนจีเนทมีการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่เข้าทำตลาดไม่ต่ำกว่า 10 รุ่นต่อเดือน
นอกจากนั้นในปีนี้ บริษัทจะเริ่มมีการนำสมาร์ทโฟนเข้ามาทำตลาดเพิ่มประมาณปลายไตรมาสแรกถึงต้นไตรมาสที่สอง ซึ่งจะเป็นการทดลองตลาดดูก่อน โดยจะมีการนำเข้ามาประมาณ 15 รุ่น โดยมีระดับราคาตั้งแต่เครื่องราคาถูกประมาณ 2,900-3,900 บาท เครื่องระดับกลาง ราคาประมาณ 4,900-5,900 บาท และสุดท้ายเครื่องระดับไฮเอนด์ โดยจะมีราคาสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท
'จริงๆ แล้วจีเนทมีการทดสอบเครื่องที่เป็นสมาร์ทโฟนตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แต่เนื่องจากต้องรอดูการตอบรับจากตลาดก่อน ก็เลยจะนำเข้ามาทำตลาดประมาณไตรมาสที่ 2 แทน ซึ่งรวมถึงเครื่องที่เป็น 3G ด้วย หากตลาดมีความพร้อมจีเนทก็พร้อมที่จะวางขายทันที'
และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมทำตลาดสมาร์ทโฟน บริษัทได้เพิ่มช่องทางจำหน่ายเรียกว่า จีเนท สมาร์ทช็อป ซึ่งจีเนทจะลงทุนค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดสำหรับพาร์ทเนอร์ที่ต้องการทำตลาดเฉพาะแบรนด์จีเนท จะเป็นช็อปที่เปิดตามห้างสรรพสินค้าเพื่อชนกับอินเตอร์แบรนด์ช็อป ซึ่งจะเป็นช่องทางจำหน่ายมือถือสมาร์ทโฟนของจีเนทด้วย คาดว่าจะสามารถเปิดได้ในปีนี้ประมาณ 50 ร้าน
'ปีนี้ จะมีการลงทุนขยายช่องทางจัดจำหน่ายและศูนย์บริการอีก 500 ล้านบาท ขณะที่จะมีการลงกิจกรรมการตลาดปีนี้อีก 500 ล้านบาท เพื่อเป็นการสร้างแบรนด์จีเนทอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี'
