ก.พลังงาน เผย ความต้องการใช้ไฟฟ้าเดือน มี.ค.ทำสถิติปีสูงสุด 4 ครับ คาดเดือน เม.ย.กระฉูดแน่ ประกาศจับมือ กฟผ.ทำโครงการล้างแอร์หน้าร้อน หวังลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงพีก ให้ได้ 2,000 ล้านหน่วยต่อปี
นายณอคุณ สิทธิพงษ์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กล่าวว่า ในปีนี้ไทยมีแนวโน้มปริมาณการใช้ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น (พีก) ต่อเนื่องทำลายสถิติถึง 4 ครั้ง ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทั้งจากการขยายตัวทางสังคม เศรษฐกิจ และสภาพภูมิอากาศสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะช่วงเดือนเมษายน ถึงเดือนพฤษภาคม ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นถึงระดับ 23,600 เมกะวัตต์ในช่วงเดือนเมษายน
“หากมองตั้วแต่ช่วงต้นปีนี้ ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด ในเดือนมีนาคม มีการทำสถิติสูงสุดถึง 4 ครั้ง มีปริมาณการใช้ประมาณ 22,650 เมกกะวัตต์ ซึ่งเป็นการทำลายสถิติปีที่ผ่านมาที่ระดับ 22,050 เมกกะวัตต์ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะปรับสูงได้อีกในเดือนหน้า”
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงาน คาดว่า ในเดือนเมษายน 2553 นี้ ปริมาณการใช้ไฟสูงสุดจะอยู่ที่ 23,600 เมกะวัตต์ เนื่องจากอุณหภูมิมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นช่วงที่ร้อนที่สุดของปี ทำให้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าปรับตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ดังนั้น กระทรวงพลังงาน จึงเร่งรณรงค์ให้เกิดการประหยัดพลังงาน โดยได้มีการตั้งคณะกรรมการติดตามการประหยัดพลังงานภาคประชาชน ที่มีการกำหนด 15 มาตรการในการดูแลการประหยัดพลังงาน โดยโครงการล้างเครื่องปรับอากาศ ในฤดูร้อน ถือเป็น 1 ในมาตรการ ที่จะช่วยลดการใช้พลังงาน 900 ล้านหน่วยต่อปี หรือคิดเป็นมูลค่าที่ประหยัดได้ 27,000 ล้านบาทต่อปี และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 430,000 ตันต่อปี
ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศไทยมีเครื่องปรับอากาศ 7 ล้านเครื่อง หากมีการล้างเครื่องปรับอากาศทั้งประเทศ จะช่วยประหยัดได้ 10% หรือสามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ประมาณ 2,000 ล้านหน่วยต่อปี คิดเป็นเงินที่ประหยัดได้ 6,000 ล้านบาทต่อปี ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 1 ล้านตันต่อปี