นายกฯ สั่ง ก.พลังงาน ใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ คุมราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาท/ลิตร พร้อมเกาะติดผลกระทบในวงกว้าง ทั้งต้นทุนการผลิต การขนส่ง และภาคการเกษตร ก่อนนำเสนอ ครม.ในวันที่ 11 ส.ค.นี้ ลั่นเป็นมาตรการเร่งด่วน ไม่อยากรอให้ราคาถึง 30 บาทก่อนถึงจะพิจารณา
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากการหารือเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นในขณะนี้ ที่ประชุมมอบหมายให้กระทรวงพลังงาน พิจารณาแนวทางการใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เข้ามาช่วยลดภาระไม่ให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลมีราคาสูงเกินกว่า 30 บาทต่อลิตร เนื่องจากเห็นว่า หากราคาน้ำมันดีเซลปรับสูงขึ้นถึงระดับ 30 บาทต่อลิตร จะมีผลกระทบในวงกว้าง ทั้งในเรื่องของต้นทุนการผลิต และภาคการเกษตร เนื่องจากน้ำม้นดีเซล เป็นเชื้อเพลิงหลักในภาคการผลิต
“รัฐบาลจะใช้ทุกมาตรการที่ทำได้ เพื่อไม่ให้ประชาชนแบกรับภาระ ซึ่งในขั้นแรก รัฐบาลจะใช้มาตรการของกระทรวงพลังงานก่อน โดยเหตุผลที่รัฐบาลมุ่งลดภาระให้น้ำมันดีเซล เนื่องจากเป็นเชื้อเพลิงหลักที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง”
รมว.คลัง กล่าวอีกว่า ปัจจุบันสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีเงินกองทุนกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท นายกรัฐมนตรี จึงเห็นว่า น่าจะสามารถมาช่วยลดภาระได้ และถือเป็นมาตรการเร่งด่วน ที่จะนำเสนอเข้า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันอังคารที่ 11 สิงหาคม 2552 นี้ และเป็นมาตรการรองรับ กรณีที่ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นอีก
“ที่ประชุมให้กระทรวงพลังงานไปศึกษาวิธีการที่เป็นมาตรการเร่งด่วน และเสนอให้ ครม.พิจารณา ไม่อยากรอให้ราคาถึง 30 บาทก่อนถึงจะพิจารณา วันอังคารหน้า จะชัดเจน เราคิดมาตรการเผื่อไว้ก่อน”
นายกรณ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ที่จะนำมาลดภาระราคาน้ำมันนั้น รัฐบาลจะต้องพิจารณาด้วยความเหมาะสม เนื่องจากขณะนี้ รัฐบาลมีภาระที่ต้องใช้เงินรายได้ภาษี เพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมในหลายด้าน ดังนั้น มาตรการภาษี จะเป็นมาตรการสุดท้ายที่จะมีการพิจารณา
