“กรณ์” ซักซ้อมแผนดูแลจัดการเงิน 7.6 หมื่นล้าน หลังคำตัดสินยึดทรัพย์ วันนี้ “แบงก์” รอสัญญาณนกหวีดส่งเงินคืนแผ่นดิน คาดหน่วนงานหลัก “คลัง” เจ้าภาพบังคับคดี คัดสำนวนส่งแบงก์เพื่อปฏิบัติตามคำสั่ง โดยจะดูว่าควรจะส่งเงินเข้าแผ่นดินด้วยวิธีการอย่างไร เข้าบัญชีอะไร ส่วนระยะเวลาขึ้นกับหน่วยงานที่บังคับคดี ลั่นถ้าเป็นคำสั่งยึดทรัพย์ ไม่มีปัญหาแน่ เพราะถึงอย่างไรเงินก็ตกเป็นของแผ่นดินแล้ว กางโพยตามล่า 24 รายการ
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการดูแลจัดการเงิน 7.6 หมื่นล้าน หลังศาลฎีกาแผ่นดินอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เปิดแถลงผลการพิจารณาคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันนี้ โดยระบุว่าทุกฝ่ายยอมรับผลการตัดสินใจ เพราะจะมีทั้งผู้ที่ผิดหวังและสมหวัง
ทั้งนี้ หากมีการยึดทรัพย์เกิดขึ้นจริงจะต้องโอนเงินจำนวนมากออกจากสถาบันการเงิน คาดว่าไม่มีผลกระทบกับสภาพคล่องในระบบการเงินขณะนี้ที่มีมากถึง 1.7 ล้านล้านบาท โดยทรัพย์สินทั้งหมด จะต้องโอนไปไว้ในเงินคงคลังเพื่อนำเข้าสู่ระบบเงินงบประมาณ ด้วยการนำมารวมไว้เป็นเงินรายได้ ภาครัฐเช่นเดียวกับการจัดเก็บรายได้อื่น ดังนั้น การนำเงินดังกล่าวออกมาใช้จ่ายต้องเป็นไปตามระบบงบประมาณปกติที่ต้องนำเสนอการใช้จ่ายผ่านขั้นตอนของรัฐสภา
แต่หากศาลตัดสินไม่ยึดทรัพย์ หรือยึดเพียงบางส่วน กรมสรรพากรยังสามารถรักษาสิทธิในการอายัดทรัพย์สินมูลค่า 12,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ จากกรณีคดีหลีกเลี่ยงภาษีจากการซื้อขายหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ของนายพานทองแท้ ชินวัตร และนางสาวพินทองทา ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาของศาล โดยเป็นอีกคดีหนึ่ง แต่หากศาลฎีกาฯ สั่งยึดทรัพย์ทั้งหมด กรมสรรพากรต้องหาแนวทางและแหล่งเงินทุนอื่นหรือทรัพย์สินอื่นมาอายัดแทน 12,000 ล้านบาท เพราะถือว่าคำตักสินของศาลเป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติตามก่อนอันดับแรก
รายงานข่าวจากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังคำตัดสินฯ ในวันนี้ หากศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์ ธนาคารคงยังไม่สามารถโอนเงินฝากที่มีอยู่ให้กระทรวงการคลังได้ในทันที เนื่องจากตามขั้นตอนแล้ว จะต้องรอคำสั่งศาลที่เป็นลายลักษณ์อักษรเสียก่อน หลังจากนั้น ธนาคารจะต้องให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาและตีความคำสั่งศาลอย่างละเอียดว่าศาลจะให้ปฏิบัติอย่างไร พร้อมคาดว่าการโอนเงินหลังมีคำสั่งอาจต้องใช้เวลาอีกหลายวันจึงจะดำเนินการกับเงินที่อายัดไว้ที่ธนาคาร
ด้าน ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่วว่า ขั้นตอนปฏิบัติขึ้นกับคำตัดสินของศาล หากมีคำสั่งยึดทรัพย์ก็จะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาบังคับคดีต่อ ซึ่งอาจจะเป็นกระทรวงคลัง คัดสำนวนแล้วส่งมาที่ธนาคาร ธนาคารต้องปฏิบัติตามคำสั่งว่าจะให้ส่งเงินเข้าแผ่นดินด้วยวิธีการอย่างไร เข้าบัญชีอะไร ระยะเวลาในการดำเนินการก็แล้วแต่หน่วยงานที่บังคับคดีมา แต่ถ้าเป็นคำสั่งยึดทรัพย์ก็ไม่มีปัญหา เพราะถึงอย่างไรเงินก็ตกเป็นของแผ่นดินแล้ว
กรณีศาลมีคำตัดสินคืนเงิน ศาลจะสั่งให้หน่วยงานที่เคยเป็นผู้ขออายัดบัญชี มาถอนคำสั่งอายัด ซึ่งเมื่อมีหนังสือมาแล้วธนาคารก็จะเลิกทำการอายัด แล้วหลังจากนั้นก็เป็นสิทธิของผู้ฝากที่สามารถมาถอนเงินออกไป ขั้นตอนการถอนเงินหลังจากนั้นถือเป็นขั้นตอนปกติ แต่กระบวนการยกเลิกการอายัดต้องทำให้เร็ว เพื่อคุ้มครองสิทธิของเจ้าของเงิน
ทั้งนี้ รายการทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตามประกาศของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หลังจากอัยการสูงสุดยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดินตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 โดยกล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติและมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ
ทรัพย์สินที่อัยการสูงสุดระบุไว้ในคำร้องนั้นเป็นทรัพย์สินที่ได้จากการขายหุ้น บริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SHIN จำนวน 1,419,490,150 หุ้นให้กับกลุ่มเทมาเส็กประเทศสิงคโปร์ โดยมีบริษัท ซีดาร์โฮลดิ้ง จำกัด และบริษัท แอสแพน โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลต่างด้าวเป็นผู้ซื้อ รวมค่าซื้อหุ้น เงินปันผล และดอกเบี้ย เป็นเงิน 76,621,603,061.05 บาท ซึ่งอยู่ในชื่อบุคคลของครอบครัวชินวัตร บริษัทต่างๆ มูลนิธิฯ รวม 24 ราย ประกอบด้วย
1.ทรัพย์สินที่มีชื่อ น.ส.พินทองทา ชินวัตร ลูกสาวเป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคารและเงินลงทุน ดังต่อไปนี้
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารีย์ เป็นเงิน 3,000 ล้านบาท
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาราชวัตร เป็นเงิน 1,000 ล้านบาท
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาชิดลม เป็นเงิน 3,000 ล้านบาท
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสำนักรัชโยธิน 3 บัญชี เป็นเงิน 311 ล้านบาท, 13,000 ล้านบาท และ 3,000 ล้านบาท
- บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ เป็นเงิน 218 ล้านบาท
2.ทรัพย์สินที่มีชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวเป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคารและเงินลงทุน ดังต่อไปนี้
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาพหลโยธิน 2 บัญชี เป็นเงิน 100 ล้านบาท และ 33.5 ล้านบาท
- กองทุนเปิดแอสเซทพลัสนิปปอนโกรท เป็นเงิน 202 ล้านบาท
3.ทรัพย์สินที่มีชื่อนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายอดีตภริยาเป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคารและเงินลงทุน ดังต่อไปนี้
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสำนักรัชโยธิน จำนวน 3 บัญชี เป็นเงิน 340 ล้านบาท, 1,000 ล้านบาท และ 3,000 ล้านบาท
- บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมไทยพาณิชย์ เป็นเงิน 700 ล้านบาท
- หุ้นธนาคารกสิกรไทย จำนวน 28.9 ล้านหุ้น, หุ้นบริษัททุนธนชาต จำนวน 57 ล้านหุ้น และหุ้น บมจ.เอส ซี แอสเสท คอร์ปอร์เรชั่น จำนวน 15.9 ล้านหุ้น เป็นเงิน 2,682.9 ล้านบาท
- เงินที่โอนจากบัญชีเงินฝากธนาคารทหารไทย สาขาย่อยเพนนินซูล่า เป็นเงิน 502 ล้านบาท
- ธนาคารยูโอบี สาขาย่อยถนนพหลโยธิน 8 จำนวน 2 บัญชี เป็นเงิน 280 ล้านบาท และ 200 ล้านบาท
- กองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 0208 B จำนวน 2 บัญชีๆ ละ 100 ล้านบาท
- ธนาคารธนชาต สาขาย่อยเอ็มบีเค ทาวเวอร์ เป็นเงิน 15.39 ล้านบาท
4.ทรัพย์สินที่มีชื่อคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยาเป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคารและเงินลงทุน ดังต่อไปนี้
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสำนักรัชโยธิน จำนวน 5 บัญชี เป็นเงิน 188 ล้านบาท, 100.36 ล้านบาท, 5 ล้านบาท, 5 ล้านบาท และ 200,000 บาท
- บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมไทยพาณิชย์ จำนวน 5 บัญชี เป็นเงิน 1,000 ล้านบาท
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาชิดลม เป็นเงิน 1,100 ล้านบาท
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาซอยอารีย์สัมพันธ์ จำนวน 2 บัญชี เป็นเงิน 1,782 บาท และ 515,229 บาท
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาศรีนครพิงค์ เป็นเงิน 42,125 บาท
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสยามสแควร์ เป็นเงิน 5,040 บาท
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาลาดพร้าว ซอย 59 เป็นเงิน 4,652 บาท
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนสุขสวัสดิ์ เป็นเงิน 10 ล้านบาท
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาราชวัตร เป็นเงิน 10.28 ล้านบาท
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาสะพานควาย เป็นเงิน 20 ล้านบาท
- ธนาคารกสิกรไทย สาขาสวนจตุจักร เป็นเงิน 33,213 บาท
- ธนาคารกสิกรไทย สาขาสำนักราษฎร์บูรณะ เป็นเงิน 3.49 ล้านบาท
- ธนาคารทหารไทย สาขาย่อยเพนนินซูล่า เป็นเงิน 10 ล้านบาท
- ธนาคารนครหลวงไทย สาขาสะพานควาย เป็นเงิน 1 ล้านบาท
- ธนาคารนครหลวงไทย สาขาราชวัตร เป็นเงิน 1,252 บาท
- ธนาคารยูโอบี สาขาย่อยออลซีซั่นเพลส เป็นเงิน 267,343 บาท
5.ทรัพย์สินที่มีชื่อนายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายเป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคารและเงินลงทุน ดังต่อไปนี้
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารีย์ จำนวน 2 บัญชีๆ ละ 2,000 ล้านบาท
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาชิดลม เป็นเงิน 1,000 ล้านบาท
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อยเซ็นจูรี่ เป็นเงิน 908.38 ล้านบาท
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสำนักรัชโยธิน จำนวน 3 บัญชี เป็นเงิน 6.14 ล้านบาท, 10,000 ล้านบาท และ 27.22 ล้านบาท
- บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ เป็นเงิน 1,218.15 ล้านบาท
- แคชเชียร์เช็คธนาคารกรุงไทย สำนักนานาเหนือ สั่งจ่าย บจ.ไวท์ แอนด์ เคส (ประเทศไทย) จำนวน ๑๒ ฉบับ เป็นเงิน 30 ล้านบาท
- ทรัพย์สินโฉนดที่ดินตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ราคา 27.22 ล้านบาท
6.ทรัพย์สินที่มีชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคาร ดังต่อไปนี้
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสำนักรัชโยธิน เป็นเงิน 464.07 ล้านบาท
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาราชวัตร จำนวน 2 บัญชี เป็นเงิน 84.4 ล้านบาท และ 2,784 บาท
- ธนาคารนครหลวงไทย สาขาแจ้งวัฒนะ เป็นเงิน 7,189 บาท
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เป็นเงิน 500 บาท
- ธนาคารออมสิน สาขาสำนักพหลโยธิน เป็นเงิน 15,631 บาท
- ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย สาขาคลองตัน เป็นเงิน 10,025 บาท
7.ทรัพย์สินที่มีชื่อที่ปรึกษากฎหมายธีรคุปต์เป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคาร ดังต่อไปนี้
- ธนาคารกรุงเทพ สาขารัชดา-ลาดพร้าว จำนวน 2 บัญชีๆ ละ 66,061 บาท
8.ทรัพย์สินที่มีชื่อบริษัท พี ที คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคาร ดังต่อไปนี้
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารีย์ เป็นเงิน 1,000 ล้านบาท
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาสะพานควาย เป็นเงิน 1,300 ล้านบาท
9.ทรัพย์สินที่มีชื่อบริษัท เอส ซี ออฟฟิซ พลาซ่า จำกัด เป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคาร ดังต่อไปนี้
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารี เป็นเงิน 1,000 ล้านบาท
- ธนาคารธนชาต สาขารัชดาภิเษก จำนวน 2 บัญชี เป็นเงิน 10,000 บาท และ 999.9 ล้านบาท
10.ทรัพย์สินที่มีชื่อ น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ หลานสาวเป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคาร ดังต่อไปนี้
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขารัชดาภิเษก เป็นเงิน 100 ล้านบาท
11.ทรัพย์สินที่มีชื่อบริษัท โอ เอ ไอ แมนเนจเม้นท์ จำกัด เป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคารและเงินลงทุน ดังต่อไปนี้
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารีย์ เป็นเงิน 5,000 ล้านบาท
12.ทรัพย์สินที่มีชื่อบริษัท เวิร์ธ ซัพพลายส์ จำกัด เป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคาร ดังต่อไปนี้
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารีย์ เป็นเงิน 1,000 ล้านบาท
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาสะพานควาย จำนวน 2 บัญชี เป็นเงิน 400 ล้านบาท และ 600 ล้านบาท
- ธนาคารธนชาต สาขาย่อยเอ็มบีเค ทาวเวอร์ เป็นเงิน 200 ล้านบาท
13.ทรัพย์สินที่มีชื่อบริษัท เอสซีเค เอสเทค จำกัด เป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคาร ดังต่อไปนี้
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารีย์ เป็นเงิน 2,000 ล้านบาท
14.ทรัพย์สินที่มีชื่อบริษัท โอ เอ ไอ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด เป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคาร ดังต่อไปนี้
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารีย์ จำนวน 2 บัญชี เป็นเงิน 430 ล้านบาท และ 187.5 ล้านบาท
15.ทรัพย์สินที่มีชื่อมูลนิธิไทยคม เป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคาร ดังต่อไปนี้
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารีย์ เป็นเงิน 200 ล้านบาท
16.ทรัพย์สินที่มีชื่อบริษัท บี.บี.ดี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคาร ดังต่อไปนี้
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารีย์ เป็นเงิน 1,000 บาท
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสำนักรัชโยธิน เป็นเงิน 1,000 ล้านบาท
17.ทรัพย์สินที่มีชื่อบริษัท บี.บี.ดี.ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคาร ดังต่อไปนี้
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารี จำนวน 2 บัญชี เป็นเงิน 2,775 ล้านบาท และ 625 ล้านบาท
18.ทรัพย์สินที่มีชื่อบริษัท ประไหมสุหรี พร้อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคาร ดังต่อไปนี้
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสำนักรัชโยธิน เป็นเงิน 800 ล้านบาท และแคชเชียร์เช็คอีก 3 บัญชีๆ ละ 800 ล้านบาท
- ธนาคารธนชาต สาขาย่อยเอ็มบีเค ทาวเวอร์ เป็นเงิน 200 ล้านบาท
- ธนาคารอาคารสงเคราะห์ จำนวน 5 บัญชี เป็นเงิน 60 ล้านบาท, 50 ล้านบาท, 40 ล้านบาท, 30 ล้านบาท และ 20 ล้านบาท
19.ทรัพย์สินที่มีชื่อบริษัท สมพร แอนด์ แอสโซซิเอทส์ จำกัด เป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคาร ดังต่อไปนี้
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาถนนรัชดาภิเษก เป็นเงิน 100 ล้านบาท
20.ทรัพย์สินที่มีชื่อบริษัท โอเอไอ คอนซัลแตนท์แอนด์ แมนเนจเม้นท์ จำกัด เป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคาร ดังต่อไปนี้
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารีย์ เป็นเงิน 130 ล้านบาท
21.ทรัพย์สินที่มีชื่อนางบุษบา ดามาพงศ์ เป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคาร ดังต่อไปนี้
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารีย์ เป็นเงิน 40 ล้านบาท
22.ทรัพย์สินที่มีชื่อคณะบุคคล วิวิธวรแชมเบอร์ กระทำการโดยนางปราณี พงษ์สุวรรณ เป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคาร ดังต่อไปนี้
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาถนนรัชดาภิเษก เป็นเงิน 13.5 ล้านบาท
23.ทรัพย์สินที่มีชื่อนายสมพร พงษ์สุวรรณ เป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคาร ดังต่อไปนี้
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขามีนบุรี เป็นเงิน 4.98 ล้านบาท
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาราชวัตร เป็นเงิน 15.48 ล้านบาท
- ธนาคารกสิกรไทย สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์ เป็นเงิน 25.5 ล้านบาท
24.ทรัพย์สินที่มีชื่อกองทุนแก้ไขปัญหาการจราจรเป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคาร ดังต่อไปนี้
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาพาหุรัด เป็นเงิน 70,850 บาท