กมธ.วุฒิฯ เรียกรถบรรทุก-ตร.แจงปัญหา “ส่วยซ่อนรูป” 5 หมื่นล้าน พร้อมไขปริศนาใบสั่งว่อน 2 แสนใบ เปิดสังคายนาครั้งใหญ่ วันนี้ ยกเลิกเครื่องตรวจจับควันดำ-เสียงดัง-สินบนนำจับ แนะล่ารายชื่อ 1 หมื่นคน แก้ไข กม.ขนส่งฯ ยุคไดโนเสาร์ ต้นเหตุการคุกคามบนท้องถนน
นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ประธานคณะอนุกรรมการคมนาคม วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่เกิดปัญหาผู้ประกอบการรถบรรทุกประท้วงปิดถนนบางนา-ตราด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากทนไม่ไหวกับการตั้งด่านตรวจจับ และได้รับความเดือดร้อน กมธ.จึงได้เชิญผู้ประกอบการรถบรรทุก และเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าชี้แจงรายละเอียดให้ข้อมูลชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะการตรวจปัญหาควันดำ และเสียงดัง ซึ่งเห็นว่าเครื่องตรวจจับควันดำที่ใช้อยู่ในปัจจุบันล้าสมัย ทำให้ผลการตรวจวัดไม่ได้มาตรฐาน
นอกจากนี้ ยังพบว่าการตั้งรางวัลนำจับด้วยการให้ผลตอบแทนน่าจูงใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ตำรวจเน้นหันมาจับปากกาแจกใบสั่ง แทนการจับปืนเพื่อจัดการกับผู้ร้าย จนเป็นช่องทางการเรียกเก็บเงินของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือ เรียกว่าเป็น “ส่วยซ่อนรูป” โดยใบสั่งที่ได้รับจากทางผู้ประกอบการรถบรรทุกมีประมาณ 190,000 ใบ บ้างเป็นใบสั่งควันดำ 100,000 ใบ และเสียงดัง 90,000 ใบ ซึ่งปัจจุบันมีการตั้งด่านตรวจถี่มาก และยังแจกใบสั่งทุกระยะ ทำให้รถบรรทุกบางคันเดินทางวันเดียวกันได้รับใบสั่งถึง 3 ใบ และยังพบว่าทั้ง 3 ใบ เป็นการออกใบสั่งโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจคนเดียวกัน ทำให้สงสัยอาจมีการใช้ใบสั่งปลอมหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องชี้แจง
จากสาเหตุปัญหาดังกล่าว คณะอนุกรรมการคมนาคม วุฒิสภา ได้มีกำหนดจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ในวันที่ 25 มีนาคม 2553 (วันนี้) เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากทุกฝ่ายอีกครั้ง เพื่อนำสาเหตุปัญหาและแนวทางแก้ไขเสนอต่อนายกรัฐมนตรี แต่ในเบื้องต้นเห็นว่า ควรยกเลิกการใช้เครื่องตรวจควันดำ เเละเครื่องวัดความดังเสียงที่ใช้อยู่ เพราะเห็นว่าล้าสมัยอย่างมาก และยังเสนอให้ยกเลิกรางวัลนำจับ เพราะเป็นแรงจูงใจให้ตำรวจขยันออกใบสั่งเพียงอย่างเดียว โดยแนะนำผู้ประกอบการรวบรวมรายชื่อ 10,000 คน ตามข้อบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 163 เรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชน และยังเสนอแก้กฎหมายขนส่งทางบก ซึ่งเป็นกฎหมายที่ล้าสมัยอย่างมาก เพราะเป็นเหตุให้มีการคุกคามผู้เดินทางโดยรถยนต์
นายทองอยู่ คงขันธ์ รองประธานสมาพันธ์ผู้ให้บริการลอจิสติกส์ไทย กล่าวว่า ปัจจุบันกลุ่มผู้ประกอบการต้องจ่ายค่าปรับในรูปแบบส่วยซ่อนรูป สูงถึงปีละกว่า 50,000 ล้านบาท ส่งผลให้ค่าขนส่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 – 10 และเห็นว่าการแก้ไขปัญหาของภาครัฐขณะนี้ เป็นการแก้ในทางปฏิบัติเท่านั้น แต่ในทางนโยบายยังไม่ได้การแก้ไข และหากภายในวันที่ 15 มีนาคม 2553 นี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน จะรวมพลปิดถนนเพื่อทวงถามความชัดเจนจากรัฐบาลอีกครั้ง
พ.ต.อ.อภิสิทธิ์ เมืองเกษม รองผู้บังคับการตำรวจจราจร กล่าวว่า การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงที่ผ่านมา เป็นการดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งอนุญาตให้หักเงินค่าปรับมาเป็นเงินรางวัลกับเจ้าหน้าที่และเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ และยังมีกฎหมายของหน่วยงานอื่นถึง 132 ฉบับ แบ่งจ่ายเป็นเงินรางวัลให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อเป็นแรงจูงใจในการทำงาน และยืนยันว่า ในการนำอุปกรณ์ตรวจวัดความดังเสียงและควันดำ ได้มีการตรวจเช็คก่อนใช้งานทุกครั้ง สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ไม่ดี ได้มีการตักเตือนและใช้วินัยควบคุมดูแลพฤติกรรมอยู่แล้ว
