"อียู" กำหนดแผนกู้วิกฤต "กรีซ" วันนี้ ห่วงอิตาลี-เบลเยี่ยม เริ่มติดเชื้อ

"อียู" นัดถกด่วน เตรียมกำหนดแผนช่วยเหลือกรีซ เพื่อสกัดวิกฤตลามและคุ้มครองเงินยูโร "ฌอง-คล้อด ทริเชต์" ปธ.ธนาคารกลางยุโรป นั่งหัวโต๊ะประชุม วันนี้ เล็งยื่นเงื่อนไขประกันเงินกู้ แลกเปลี่ยนให้กรีซจัดการรับมือการประท้วงในประเทศ และลดยอดขาดดุลงบประมาณ ขณะที่อิตาลีและเบลเยี่ยม ก็เริ่มแสดงอาการติดเชื้อบ้างแล้ว

มีรายงานข่าวว่า สหภาพยุโรป (อียู) เตรียมกำหนดกรอบการดำเนินงานในการให้ความช่วยเหลือกรีซเพื่อปกป้องสกุลเงินยูโร โดยเยอรมนีและฝรั่งเศสจะเสนอวิธีการแก้ปัญหาให้กับกรีซต่อที่ประชุมอียูที่กรุงบรัสเซลส์ ในวันนี้ อาทิ การรับประกันเงินกู้ แต่มีเงื่อนไขว่า นายกรัฐมนตรีจอร์จ ปาปันเดรอู ของกรีซต้องจัดการรับมือกับการประท้วงในประเทศ และลดยอดขาดดุลงบประมาณที่พุ่งสูงสุดลงให้ได้

นายฌอง-คล้อด จุงเกอร์ นายกรัฐมนตรีลักเซมเบิร์ก ในฐานะประธานคณะรัฐมนตรีคลังของกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร เผยว่า ได้มีการจัดการหารือต่างๆ ขึ้นในขณะนี้ เพื่อหาทางออกที่จะสร้างความพอใจให้กับตลาด รวมถึงการประชุมในวันนี้ ซึ่งจะมีนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรปเข้าประชุมด้วย โดยการประชุมจะเริ่มต้นขึ้นในเวลา 10.15 น. ตามเวลาในกรุงบรัสเซลส์ และจะมีการจัดแถลงข่าวในเวลา 16.45 น.วันนี้

สำหรับเป้าหมายเดิมในการจัดประชุมอียูในวันนี้ มีเป้าหมายเพื่อร่างยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจระยะเวลา 10 ปี แต่ล่าสุด ที่ประชุมจะเบนเข็มมาให้ความสำคัญกับการดำเนินการเพื่อจัดการวิกฤตที่เกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นการทดสอบความสามารถของยุโรปในการทำให้ 16 ประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรสามารถบริหารจัดการสกุลเงินยูโรให้มีเสถียรภาพต่อไปได้ภายใต้นโยบายการคลังที่แตกต่างกันของแต่ละประเทศ

ซึ่งเหตุผลดังกล่าวทำให้อียูไม่เห็นด้วยกับการผลักดันกรีซให้อยู่ในการดูแลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เนื่องจากเกรงว่า การดูแลของไอเอ็มเอฟจะทำให้ความสามารถในการบริหารจัดการภายในกลุ่มสมาชิกสะดุดลง

ทั้งนี้ กรีซ โปรตุเกส และสเปน กำลังเผชิญปัญหาด้านปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ท้าทายอย่างมาก ขณะที่อิตาลีและเบลเยี่ยมก็เริ่มแสดงถึงความน่าวิตกกังวลบ้างแล้ว โดยกระทรวงคลังอิตาลีกล่าวว่า รัฐบาลต้องคงการใช้นโยบายทางการเงินที่เข้มงวด เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเผชิญกับอุปสรรคต่างๆ

รัฐบาลกรีซกำลังเผชิญกับอุปสรรคในการควบคุมตัวเลขดุลบัญชีให้ลดลงมาอยู่ต่ำกว่าเพดาน 3% ของตัวเลขจีดีพี ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของกรีซพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 10 ปี