เอเอฟพี - ตำรวจกรีซปะทะกับกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านมาตรการหั่นงบประมาณเมื่อวันศุกร์(5) ขณะที่รัฐบาลขอความช่วยเหลือจากเยอรมนีเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะล้มละลาย
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่าตำรวจต้องยิงแก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุมหลังจากแกนนำสหภาพรายหนึ่งถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ระหว่างประท้วงต่อต้านแผนงบประมาณใหม่และมาตรการลดค่าใช้จ่ายต่างๆที่แถลงเมื่อวันพุธ(3)
ความรุนแรงปะทุขึ้นขณะที่นายกรัฐมนตรีจอร์จ ปาปันเดรอู มีคิวหารือกับนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี ในช่วงค่ำวันศุกร์(5) หลังเบอร์ลิน ยังไม่ได้ให้คำสัญญาว่า จะจัดหางบประมาณช่วยเหลือกรีซ แม้ว่ากรีซจะประกาศแผนการลดยอดขาดดุลงบประมาณของประเทศลงแล้วก็ตาม
ขณะเดียวกันรัฐสภากรีซก็ลงมติผ่านงบประมาณและมาตรการลดรายจ่ายต่างๆ ที่จะทำให้ลดการขาดดุลงบประมาณในปีนี้ลงได้ 4,800 ล้านยูโร ซึ่งแถลงโดยปาปันเดรอู เมื่อวันพุธ(5) ระหว่างที่เขาค้นหาแรงสนับสนุนจากอียู
ปาปันเดรอู ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเมืองเบียร์ว่า เขา "ไม่ได้ร้องขอเงิน" แต่ขอความสนับสนุนในรูปแบบอื่นๆ "เราต้องการเสียงหนุนหลังจากสหภาพยุโรปและพันธมิตรของเรา เพื่อให้ได้รับเครดิตในตลาด ณ เงื่อนไขที่ดีขึ้น และหากเราไม่ได้รับความช่วยเหลือนี้ เราก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตของเราได้"
แต่ก่อนหน้าการหารือระหว่าง แมร์เคิลและปาปันเดรอู ทางไรเนอร์ บรูเอเดเริล รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเยอรมนีบอกว่าเบอร์ลิน จะไม่มอบเงินช่วยเหลือแก่กรีซ "แม้แต่เซ็นต์เดียว" กระนั้นก็ดี ฌอง-โคลด จุงเกอร์ ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานรัฐมนตรีคลังของสหภาพยุโรป เชื่อว่ามาตรการต่างๆของกรีซ จะทำให้เอเธนส์ไม่จำเป็นต้องรับเงินช่วยเหลือจากอียู
เยอรมนี ชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรป ถูกมองว่าน่าจะมีบทบาทสำคัญในการปกป้องกรีซจากภาวะล้มละลาย ซึ่งจะก่อหายนะแก่เศราฐกิจยูโรโซน 16 ชาติ ทว่าก็ต้องเผชิญเสียงต่อต้านอย่างรุนแรงภายในประเทศ โดยบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ต่างๆชี้ว่าไม่ควรยื่นมือเข้าช่วยเหลือกรีซ ที่ปัญหาต่างๆเกิดจากการคอรัปชันและใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย และแม้แต่พันธมิตรของแมร์เคิลเอง ก็เอ่ยปากแนะให้กรีซ ขายเกาะบางแห่งเพื่อหาเงินมาปลดหนี้
อีกด้านหนึ่งก็มีความโกรธกริ้วมากมายปรากฎบนท้องถนนสายต่างๆในเอเธนส์เมื่อวันศุกร์(5) โดยกลุ่มผู้ประท้วงจากสหภาพแรงงานต่างๆหลายพันคนชุมนุมกันบริเวณหน้ารัฐสภา ขณะที่ส.ส.โหวตผ่านมาตรการรัดเข็มขัด
การประท้วงของสหภาพแรงงานหลักของกรีซ 2 แห่งซึ่งรวมถึงภาคบริการสาธารณะทำให้การจราจรสะดุดลงและตัดขัดอย่างหนัก ไม่มีระบบขนส่งมวลชนให้บริการในเอเธนส์ในช่วงเช้าวันนี้(5) ขณะที่สนามบินต่างๆทั่วประเทศปิดทำการเป็นเวลา 4 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลของรัฐ พนักงานภาครัฐ ครู รวมไปถึงสื่อมวลชนเอกชน ต่างร่วมผละงานครั้งนี้ ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ที่ทางสหภาพตำรวจเรียกร้องให้สมาชิกเข้าร่วมประท้วงเป็นเวลา 1 วัน
รัฐบาลกรีซ มีมติออกมาตรการเข้มงวดด้านงบประมาณยิ่งขึ้นอีกในวันพุธ(3) ด้วยการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มไป 2% เป็น 21%, การขึ้นภาษีเงินได้แก่ผู้ที่มีรายได้สูง, การเพิ่มภาษีที่เก็บจากทรัพย์สินขนาดใหญ่ รถหรู เครื่องเพชร สุรา และบุหรี่ ตลอดจนด้วยการลดรายจ่ายด้านเงินพิเศษที่ให้แก่ข้าราชการและพนักงานภาครัฐ, การระงับไม่ให้เพิ่มเงินบำนาญในภาครัฐ
นอกจากนี้เอเธอนส์ยังให้สัญญาแก่สหภายุโรปว่าจะลดขาดดุลงบประมาณในปีนี้ลงจาก 12.7 เปอร์เซ็นต์เหลือ 4 เปอร์เซ็นต์ ความเคลื่อนไหวที่สร้างความพอใจแก่สหภาพยุโรป เช่นเดียวกับนางแมร์เคิล ที่บอกว่ามาตรการนี้ถือเป็นก้าวย่างสำคัญสำหรับลดการขาดดุลงบประมาณและเรียกคืนความช่วยมั่นในยูโรปรวมถึงในกรีซเอง