xs
xsm
sm
md
lg

"เคทีซี"ขยายเวลาชำระหนี้ บรรเทาผลกระทบมาบตาพุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - เคทีซีตั้งเป้าปีหน้าขยายฐานบัตรเครดิตเพิ่มอีก 1.5 แสนบัตร จับตาปัญหามาบตาพุดส่งผลกระทบต่อผู้บัตรนับหมื่นราย เตรียมมาตรการช่วยเหลือยืดระยะเวลาชำระหนี้ให้

นายธวัชชัย ธิติศักดิ์สกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส สายธุรกิจบัตรเครดิต บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC เปิดเผยว่า ในปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะขยายฐานบัตรเครดิตเพิ่มอีก 1.5 แสนบัตร จากปัจจุบันที่อยู่ในระดับ 1.6 ล้านบัตร ซึ่งในปีหน้าบริษัทจะเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ประจำระหว่าง 2-3 หมื่นบาทต่อเดือน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้ออยุ่ในระดับสูง ช่วยให้ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันยอดใช้จ่ายผ่านบัตรอยู่ที่ระดับประมาณ 5,000 บาทต่อบัตร ซึ่งถือว่าเพิ่มมากขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากช่วงปลายปีเป็นช่วงที่มีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น

"ภาพรวมการใช้จ่ายผ่านบัตรในช่วงครึ่งปีเป็นไปในลักษณะทรงตัวเท่านั้น เพราะเศรษฐกิจยังผันผวนอยู่ ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรจึงยังไม่สูงขึ้นมาก ส่วนช่วงเดือนนี้เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนเพียงเล็กน้อย แต่ก็ต้องรอดูช่วงสิ้นปีที่ต้องลูกค้าจะใช้จ่ายซื้อของขวัญต่างๆ"นายธวัชชัย กล่าว

สำหรับกรณีปัญหาโครงการมาบตาพุดนั้น บริษัทเองมีความเป็นห่วงลูกค้าที่อาจได้รับผลกระทบจากการชะลอโครงการในนิคมมาบตาพุด ซึ่งอาจจะมีหลายหมืนราย ดังนั้น จึงเตรียมยื่นมือเข้าช่วยเหลือกลุ่มลูกค้ากลุ่มดังกล่าว ด้วยวิธีการยืดระยะเวลาชำระหนี้ให้

"บริษัทมีลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบจากกรณีมาบตาพุดอยู่ในระดับหนึ่ง ซึ่งก็ติดตามสถานการณ์อยู่ ซึ่งการแก้ปัญหาอาจจะยืดเยื้อ มีแนวโน้มที่จะฟ้องร้องเพิ่มอีก ทำให้ลูกค้าเริ่มมีปัญหา ซึ่งหากเข้าหารือบริษัทเตรียมที่จะยืดเวลชำระหนี้ให้อยู่แล้ว"

สำหรับบรรยากาศภาพรวมทางเศรษฐกิจโลกยังไม่แข็งแกร่งนัก ทั้งจากประเด็นวิกฤตนครดูไบที่ขอเลื่อนชำระหนี้ แม้ทางอาบูดาบีจะให้การช่วยเหลือทางการเงิน 10 พันล้านดอลลาร์ก็ตาม แต่ก็ยังคงมีหนี้ที่จะครบกำหนดชำระอีกในปี 2010 และ 2011 เป็นจำนวนมาก ทำให้นครดูไบยังคงมีปัญหาเรื่องสภาพคล่องอยู่ รวมทั้งล่าสุดสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือแสตนดาร์ดแอนด์พัวร์ส(เอสแอนด์พี)ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือกรีซจากระดับ A- เป็น BBB+ เนื่องจากมีความกังวลต่อการขาดดุลงบประมาณจำนวนมากของรัฐบาลกรีซ ทำให้สภาวะเศรษฐกิจของโลกยังคงฟื้นตัวอย่างไม่มั่นคงนัก
กำลังโหลดความคิดเห็น