ธปท.เผยปี 52 แบงก์มีกำไรสุทธิ 82.9 พันล้านใกล้เคียงกับปีก่อน ผลจากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยสูงขึ้น ขณะที่ล่าสุดไตรมาสสุดท้ายรายได้จากดอกเบี้ยขยับดีขึ้น สอดคล้องกับการฟื้นตัวเศรษฐกิจและยอดสินเชื่อที่ขยายตัวดี
นายสุชาติ สักการโกศล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า ผลประกอบการของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยในปี 52 ซึ่งใกล้เคียงกับปี 51 โดยมีกำไรจากการดำเนินงานทั้งสิ้น 165.5 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 82.9 พันล้านบาท โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง ขณะที่รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยสูงขึ้นและค่าใช้จ่ายในการกันสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญลดลงเล็กน้อย
สำหรับข้อมูลล่าสุดเฉพาะไตรมาส 4 ของปี 52 พบว่า ผลประกอบการของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีและอยู่ในระดับใกล้เคียงกับก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ โดยรายได้หลักของธนาคารพาณิชย์มาจากดอกเบี้ยเงินกู้ที่ยังขยายตัวดีต่อเนื่อง ขณะที่การกันสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญลดลงโดยหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)ของภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า สอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและยอดคงค้างสินเชื่อเมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ของปีก่อนที่ขยายตัวสูง
ในไตรมาสนี้ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยเพิ่มขึ้น 0.5% จากไตรมาสก่อน แม้การลดลงของรายได้ดอกเบี้ยจากรายการระหว่างธนาคารและตลาดเงินจะทำให้รายได้ดอกเบี้ยโดยรวมลดลง แต่ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลงมากกว่ามาตรฐานเงินฝากที่ลดลงจากการย้ายเงินออมของผู้ฝากเงินไปลงทุนในสินทรัพย์หรือตราสารทางการเงินอื่นๆ ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า อาทิ พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธปท.และตราสารทางการเงินต่างประเทศ ขณะที่รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยลดลงจากไตรมาสก่อน 6.8%ตามการลดลงของกำไรจากการปริวรรตและการตั้งขาดทุนของการด้อยค่าของเงินลงทุน
ส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานเพิ่มขึ้น 8.1% จากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานและอาคารสถานที่ ตลอดจนค่าตอบแทนกรรมการและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานลดลง 13.9% จากไตรมาสก่อนมาอยู่ที่ 38.2 พันล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมค่าใช้จ่ายในการกันสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญที่ลดลง 6.4% ตามเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจนขึ้น และสัดส่วนเอ็นพีแอลของภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนที่ลดลงจาก 5.7% ในไตรมาสก่อน มาอยู่ที่ 5.23% ทำให้ระบบธนาคารพาณิชย์มีกำไรสุทธิ 21.4 พันล้านบาท ลดลง 9.5% จากไตรมาสก่อน
นายสุชาติ สักการโกศล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า ผลประกอบการของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยในปี 52 ซึ่งใกล้เคียงกับปี 51 โดยมีกำไรจากการดำเนินงานทั้งสิ้น 165.5 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 82.9 พันล้านบาท โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง ขณะที่รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยสูงขึ้นและค่าใช้จ่ายในการกันสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญลดลงเล็กน้อย
สำหรับข้อมูลล่าสุดเฉพาะไตรมาส 4 ของปี 52 พบว่า ผลประกอบการของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีและอยู่ในระดับใกล้เคียงกับก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ โดยรายได้หลักของธนาคารพาณิชย์มาจากดอกเบี้ยเงินกู้ที่ยังขยายตัวดีต่อเนื่อง ขณะที่การกันสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญลดลงโดยหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)ของภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า สอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและยอดคงค้างสินเชื่อเมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ของปีก่อนที่ขยายตัวสูง
ในไตรมาสนี้ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยเพิ่มขึ้น 0.5% จากไตรมาสก่อน แม้การลดลงของรายได้ดอกเบี้ยจากรายการระหว่างธนาคารและตลาดเงินจะทำให้รายได้ดอกเบี้ยโดยรวมลดลง แต่ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลงมากกว่ามาตรฐานเงินฝากที่ลดลงจากการย้ายเงินออมของผู้ฝากเงินไปลงทุนในสินทรัพย์หรือตราสารทางการเงินอื่นๆ ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า อาทิ พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธปท.และตราสารทางการเงินต่างประเทศ ขณะที่รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยลดลงจากไตรมาสก่อน 6.8%ตามการลดลงของกำไรจากการปริวรรตและการตั้งขาดทุนของการด้อยค่าของเงินลงทุน
ส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานเพิ่มขึ้น 8.1% จากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานและอาคารสถานที่ ตลอดจนค่าตอบแทนกรรมการและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานลดลง 13.9% จากไตรมาสก่อนมาอยู่ที่ 38.2 พันล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมค่าใช้จ่ายในการกันสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญที่ลดลง 6.4% ตามเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจนขึ้น และสัดส่วนเอ็นพีแอลของภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนที่ลดลงจาก 5.7% ในไตรมาสก่อน มาอยู่ที่ 5.23% ทำให้ระบบธนาคารพาณิชย์มีกำไรสุทธิ 21.4 พันล้านบาท ลดลง 9.5% จากไตรมาสก่อน
