กบข.กระจายพอร์ตการลงทุน เน้นกลยุทธ์บริหารความเสี่ยงตามหลักการบริหารเงินออมระยะยาวสากล กระจายลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ
นางสาววริยา ว่องปรีชา รองเลขาธิการสายบริหารงานสมาชิก รักษาการ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่าตลอดระยะเวลา 12 ปีที่ผ่านมาสิ่งสำคัญในการลงทุน คือการพยายามควบคุมความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดว่าสิ่งที่สนใจลงทุนมีลักษณะเช่นไร ผลประโยชน์ที่ได้และวิธีการลดความเสี่ยงที่อาจพบได้ ซึ่งกลยุทธ์หนึ่งที่สำคัญในการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นคือการจัดสรรเงินลงทุน กระจายไปในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ อย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นหลักการรูปแบบเดียวกันกับกองทุนเงินออมระยะยาวสากลทั่วโลก
โดยมีการจัดสรรเงินลงทุนไปลงทุนในหลายๆ ประเภท เช่น ในตราสารหลายๆ ตัว ในหุ้นหลายๆ ตัว หรือหลายๆ อุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มโอกาสของการได้รับผลตอบแทนหรือดอกเบี้ยที่ดีกว่าการฝากเงินและการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลอย่างเดียว และหากการลงทุนประเภทใดเกิดมีความผันผวนก็ยังมีการลงทุนประเภทอื่นรองรับ แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก พ.ร.บ. กบข. กำหนดให้ต้องลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูงไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ดังนั้น การลงทุนในตราสารหนี้จึงเป็นการลงทุนหลักของ กบข.
นอกจากนี้นางสาววริยายังกล่าวว่า สำหรับสัดส่วนการลงทุนปัจจุบันของ กบข. ณ วันที่ 30 ก.ย.52 ประกอบด้วยการลงทุนในตราสารหนี้ไทยร้อยละ 69.3 ตราสารหนี้ต่างประเทศร้อยละ 5.6 อสังหาริมทรัพย์ไทยร้อยละ 4.1 การลงทุนทางเลือกร้อยละ 3.5 ตราสารทุนไทยร้อยละ 8.9 และตราสารทุนในต่างประเทศร้อยละ 8.6
ทั้งนี้ กบข. ยังคงยึดมั่นในหลักการบริหารเงินออมระยะยาว และยังคงจับตาดูภาวะเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด มีการบริหารเงินของสมาชิกอย่างรอบคอบและระมัดระวัง ตลอดจนมีการกำกับการบริหารการลงทุนที่ดีตามมาตรฐานสากลเสมอมา ผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการลงทุนต่างๆ ของกองทุนได้ทางเว็บไซต์ กบข. ที่ www.gpf.or.th
นางสาววริยา ว่องปรีชา รองเลขาธิการสายบริหารงานสมาชิก รักษาการ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่าตลอดระยะเวลา 12 ปีที่ผ่านมาสิ่งสำคัญในการลงทุน คือการพยายามควบคุมความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดว่าสิ่งที่สนใจลงทุนมีลักษณะเช่นไร ผลประโยชน์ที่ได้และวิธีการลดความเสี่ยงที่อาจพบได้ ซึ่งกลยุทธ์หนึ่งที่สำคัญในการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นคือการจัดสรรเงินลงทุน กระจายไปในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ อย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นหลักการรูปแบบเดียวกันกับกองทุนเงินออมระยะยาวสากลทั่วโลก
โดยมีการจัดสรรเงินลงทุนไปลงทุนในหลายๆ ประเภท เช่น ในตราสารหลายๆ ตัว ในหุ้นหลายๆ ตัว หรือหลายๆ อุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มโอกาสของการได้รับผลตอบแทนหรือดอกเบี้ยที่ดีกว่าการฝากเงินและการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลอย่างเดียว และหากการลงทุนประเภทใดเกิดมีความผันผวนก็ยังมีการลงทุนประเภทอื่นรองรับ แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก พ.ร.บ. กบข. กำหนดให้ต้องลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูงไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ดังนั้น การลงทุนในตราสารหนี้จึงเป็นการลงทุนหลักของ กบข.
นอกจากนี้นางสาววริยายังกล่าวว่า สำหรับสัดส่วนการลงทุนปัจจุบันของ กบข. ณ วันที่ 30 ก.ย.52 ประกอบด้วยการลงทุนในตราสารหนี้ไทยร้อยละ 69.3 ตราสารหนี้ต่างประเทศร้อยละ 5.6 อสังหาริมทรัพย์ไทยร้อยละ 4.1 การลงทุนทางเลือกร้อยละ 3.5 ตราสารทุนไทยร้อยละ 8.9 และตราสารทุนในต่างประเทศร้อยละ 8.6
ทั้งนี้ กบข. ยังคงยึดมั่นในหลักการบริหารเงินออมระยะยาว และยังคงจับตาดูภาวะเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด มีการบริหารเงินของสมาชิกอย่างรอบคอบและระมัดระวัง ตลอดจนมีการกำกับการบริหารการลงทุนที่ดีตามมาตรฐานสากลเสมอมา ผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการลงทุนต่างๆ ของกองทุนได้ทางเว็บไซต์ กบข. ที่ www.gpf.or.th
