xs
xsm
sm
md
lg

เตือนสัญญาณร้ายเดือน ก.พ. การเมืองส่อแตกหักถึงขั้นเปลี่ยนรัฐบาล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตลาดหุ้นไทยส่อแววโคม่า "นักวิชาการ-โบรกเกอร์" ส่งสัญญาณเตือนนักลงทุนเตรียมพร้อมรับมือ ก.พ.53 การเมืองไทยถึงจุดแตกหัก! แนะจับตาการเคลื่อนไหวของ "หางแดง" ก่อนตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน "พ่อแม้ว" 26 ก.พ.นี้ อาจรุนแรงถึงขั้นเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ส่งผลให้นโยบายกระตุ้น ศก.ต้องหยุดชะงัก คาดผลกระทบต่อตลาดหุ้นอย่างรุนแรง แนะลดพอร์ตลงทุน-หนีความเสี่ยง แนวโน้มดัชนีหุ้นมีโอกาสลงลึกแตะ 550 จุด

นายเอกชัย นิตยาเกษตรวัฒน์ คณบดีคณะบริหารธุรกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวในงานสัมมนา “เกาะติดวิกฤตเศรษฐกิจ วิเคราะห์แนวโน้มตลาดหุ้น ปี 2553 ” โดยระบุว่า ขณะนี้เศรษฐกิจในปีนี้ยังมีความเสี่ยงที่ต้องจับตามอง 10 ปัจจัย แต่ปัจจัยที่สำคัญที่สุด คือ สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ ที่มีความไม่แน่นอน และผลกระทบจากปัญหาการชะลอการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด

ทั้งนี้ หากกรณีปัญหามาบตาพุดไม่สามารถแก้ไขได้สำเร็จ ประมินว่า ในกรณีเลวร้ายที่สุด จะกระทบทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) หดตัวร้อยละ 2 จากที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3 จะเหลือเพียงร้อยละ 1 จึงต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ขณะเดียวกัน ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกหลายด้าน อาทิ ภาวะเศรษฐกิจโลกที่อาจถดถอยอีกครั้ง ราคาน้ำมันที่จะสูงกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ค่าเงินบาทแข็งค่า ปัญหาการก่อการร้าย หนี้สาธารณะที่เร่งตัวสูงขึ้น ปัญหาฟองสบู่แตกในตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้น ผลกระทบจากภาวะโลกร้อนและสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง

นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส สถาบันวิจัยนครหลวงไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2552 มีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลง จากภายในและภายนอก โดยปัจจัยในประเทศ คือ ปัญหาการเมือง และการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ก่อนการตัดสินคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเสถียรภาพทางการเมือง จากประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็จะทำให้นักลงทุนขาดความมั่นใจ โดยเฉพาะหากสถานการณ์ทางการเมืองรุนแรง จนมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล อาจทำให้นโยบายการแก้ปัญหาเศรษฐกิจสะดุดลง ดัชนีตลาดหุ้นไทยจึงมีโอกาสปรับตัวลดลง ซึ่งประเมินจุดต่ำสุดของปีนื้ ที่ 540 จุด แต่หากไม่รุนแรง ดัชนีมีแนวรับที่ 670 จุด

ขณะเดียวกัน ยังต้องจับตาผลจากมาตรการลดความร้อนแรงของสถาบันการเงินในสหรัฐอเมริกาและจีน เช่น การให้สถาบันการเงินเพิ่มทุนสำรอง และการจำกัดขนาดและการลงทุน ที่จะมีผลต่อสภาพคล่อง ที่จะเข้ามาในตลาดหุ้นทั่วโลก ทำให้ตลาดหุ้นมีความผันผวน รวมทั้งความพยายามในการลดการขาดดุลการคลังของแต่ละประเทศ ทำให้เม็ดเงินที่กระตุ้นเศรษฐกิจลดน้อยลงไป

ดังนั้น นักลงทุนควรลดพอร์ตการลงทุนในช่วงเดือนกุมพาพันธ์ 2553 และมองกรอบดัชนีตลาดหุ้นไทยในปีนี้อยู่ที่ระดับ 550-880 จุด
กำลังโหลดความคิดเห็น