มูดีส์ เพิ่มแนวโน้มเครดิตแบงก์พาณิชย์ของไทยเป็น "มีเสถียรภาพ" จาก "เชิงลบ" สะท้อนความน่าเชื่อถือโดยรวมของไทยดีขึ้น เตือนสถานการณ์การเมืองที่เปราะบาง อาจส่งผลบั่นทอนความยืดหยุ่น-ความสามารถของภาคการธนาคาร ในการรับมือกับวิกฤตการเงินโลก
สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศเพิ่มแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือธนาคารของไทยจาก "เชิงลบ" เป็น "มีเสถียรภาพ" ซึ่งบ่งชี้ว่า สภาวะด้านความน่าเชื่อถือโดยรวมของไทยดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม มูดีส์ ได้เตือนว่า สถานการณ์การเมืองที่เปราะบางของไทยอาจส่งผลบั่นทอนความยืดหยุ่นและความสามารถของภาคการธนาคารในการรับมือกับวิกฤตการณ์การเงินโลก
มูดีส์ ยังเชื่อว่า ภาคการธนาคารของไทยจะได้ประโยชน์จากการที่รัฐบาลมุ่งมั่นสนับสนุนเศรษฐกิจด้วยการใช้งบประมาณเพิ่มเติมและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมูดีส์คาดว่า ในปีนี้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัว 3-5% หลังจากหดตัวลง 3% ในปี 2552
นอกจากนี้ มูดีส์ ยังคาดว่า อัตราการขยายตัวด้านสินเชื่อของธนาคารในประเทศไทยจะขยายตัวสูงกว่าจีดีพี อยู่ที่ 5-10% ในปี 2553 หลังจากหดตัว 2% ในปี 2552
มูดีส์ ระบุว่า ผลกระทบของวิกฤตการณ์การเงินโลกที่มีต่อธนาคารพาณิชย์ของไทยอยู่ในกรอบที่จำกัด เนื่องจากธนาคารของไทยไม่ได้พึ่งพาการระดมทุนในตลาดมากนัก
นอกจากนี้ คุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารในประเทศไทยมีเสถียรภาพนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2551 โดยมีรายงานว่าสัดส่วนตัวเลขหนี้เสียของธนาคารส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง โดยมีการกำหนดเป้าหมายให้ตัวเลขหนี้เสียปรับตัวลดลงเหลือ 5% จากปี 2552 ที่ระดับ 5.5%
ขณะเดียวกัน ดัชนีบ่งชี้ประสิทธิภาพในการทำกำไรของธนาคารพาณิชย์ไทยที่มูดีส์จัดอันดับให้นั้น ยังคงแข็งแกร่งในอัตราที่เท่าเทียมกับธนาคารในประเทศอื่นๆ ที่มีอันดับเครดิตที่สูงกว่า แม้ต้องเผชิญกับแรงกดดันก็ตาม