ธ.ทหารไทย แจงฐานะทางการเงินยังแข็งแกร่ง หลังมูดีส์อินเวสเตอร์ ประกาศหั่นเครดิตเหลือ Baa3 ยืนยัน ยังเป็นระดับน่าลงทุน ขณะที่แบงก์ชาติ ออกโรงการรันตีฐานะทางการเงินซ้ำอีกครั้ง ส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ราย ก็ยังไม่พบปัญหาอะไร
ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB ชี้แจงกรณีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit rating) ของธนาคาร โดย Moody’s Investors Service จาก Baa2/Prime 2 มาเป็น Baa3/Prime 3 เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2552 เนื่องมาจาก Moody’s ได้ปรับลดความสามารถของภาครัฐในการให้ความช่วยเหลือ (systemic support input) ที่มีต่อระบบธนาคารโดยรวม จาก Aa2 มาอยู่ที่ A2 ต่อเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2552 ซึ่ง Moody’s ได้ทำการทบทวนที่จะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารไทยทั้ง 11 แห่ง
กรณีดังกล่าว ธนาคารขอชี้แจงเพิ่มเติมว่า อันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารหลังถูกปรับลดแล้ว ยังคงอยู่ในระดับ investment grade โดยในปัจจุบัน ธนาคารทหารไทยมีฐานเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง มีระดับความเพียงพอของเงินกองทุนตามกฎหมายที่ 14.1% สูงกว่าระดับที่กฎหมายกำหนดที่ 8.5% นอกจากนี้ ธนาคารได้ทำการปรับปรุงระบบการบริหารคุณภาพสินทรัพย์ให้ทัดเทียมระบบสากล และยังได้ขาย NPL ออกไปจำนวน 15,000 ล้านบาท ในเดือนพฤษภาคม 2552 อีกทั้งยังกำลังดำเนินแผนกลยุทธ์เพื่อเสริมสร้างฐานธุรกิจ ซึ่งรวมถึง การปรับปรุงระบบดำเนินงานของสาขา (Branch Transformation) การปรับปรุงระบบบุคลากร (HR Transformation) และการพัฒนาธุรกิจรายย่อยสู้ระบบมาตรฐานสากลปัจจุบัน ธนาคารมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 601,379 ล้านบาท โดยมี กระทรวงการคลังถือหุ้น 26.1% และ ING Group 25.2%
ขณะเดียวกัน นายสรสิทธิ์ สุนทรเกศ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ออกมากล่าวยืนยันว่า แบงก์ทหารไทย ไม่มีปัญหาเรื่องฐานะ แม้ทางบริษัทจัดอันดับเครดิตความน่าเชื่อถือ Moody’s Investors Service ได้ ทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารจาก ระดับ Baa2/Prime 2 มาเป็น Baa3/Prime 3
ทั้งนี้ กองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS) ในเดือนพฤษภาคม 2552 ของธนาคารทหารไทย อยู่ที่ 14.59% เทียบกับทั้งระบบที่อยู่ที่ 15% ถือว่ายังสูง ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ลดเหลือ 14% จาก 15%
สำหรับในส่วนของผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคาร ได้แก่ ING BANK N.V. กระทรวงการคลัง และ DBS BANK ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แม้กระทรวงการคลังจะมีการลดสัดส่วนการถือหุ้น แต่เป็นการลดสัดส่วนเพื่อเปิดทางให้ทางกุ่ม ING เข้ามาถือหุ้น