ผู้บริหาร ตลท.ชี้ หุ้นไทยร่วง 4 วันซ้อน เป็นการปรับฐาน นักลงทุนกังวล "จีน" ออกมาตรการควบคุมแบงก์ ยอมรับ "หางแดง" พล่านจุดไฟป่วนชาติบ้านเมือง กระทบความเชื่อมั่นการลงทุน
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง 4 วันซ้อน เป็นการปรับฐานการลงทุน หลังจากดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นถึงร้อยละ 8.2 ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2552 ประกอบกับนักลงทุนกังวลการที่ทางการจีนออกมาตรการควบคุมการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ไม่ให้ร้อนแรงเกินไป กดดันให้ตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียและสหรัฐฯ ปรับตัวลง ซึ่งหุ้นไทยเคลื่อนไหวทิศทางเดียวกัน ประกอบกับมีปัจจัยการเมืองในประเทศที่มีความร้อนแรงมากขึ้นจากการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง จึงเป็นปัจจัยลบกระทบการลงทุน โดยตั้งแต่วันที่ 1-21 มกราคม 2553 ต่างชาติขายสุทธิ 2,900 ล้านบาท
"ช่วง 1 เดือนครึ่งตลาด stable มาตลอด ไม่ผันผวนเลย ช่วงนี้ก็อาจจะปรับตัวลงไปบ้าง ปัจจัยสำคัญน่าจะมาจากจีนคุมสินเชื่อ ส่วนการเมืองบางวันก็เป็นข่าวการเมืองในบ้านเรา ซึ่งเป็นเรื่องทางจิตวิทยา โดยภูมิภาคก็ปรับตัวในทิศทางเดียวกัน"
นางภัทรียา กล่าวว่า ปีนี้ตลาดหลักทรัพย์ตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าตลาดรวม หรือมาร์เก็ตแคปอีก 100,000 ล้านบาท จากปีที่แล้วเพิ่ม 30,000 ล้านบาท โดยจะเร่งทำงานในการหาบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่เข้ามาระดมทุน และเชื่อว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนไตรมาสแรกจะดีกว่าปีที่ผ่านมา โดยกำไรของธนาคารพาณิชย์ไตรมาสแรกอยู่ที่ 91,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากปีที่แล้วที่มีกำไร 82,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ดัชนีปิดช่วงเช้าที่ระดับ 708.94 จุด ลดลง 10.05 จุด เปลี่ยนแปลง -1.40%