นายกสมาคมบลจ. เรียกสมาชิกถกด่วน ตามล่าไอ้โม่งแตกแถวฝ่ามติค่าคอมฯ0.2% พร้อมเปิดทางหาข้อสรุปยึดมติเดิม หรือล้มโต๊ะ บลจ.กรุงไทย เสนอสมาคมฯ ปล่อยเสรีหากคุมไม่ได้ ชี้เป็นประโยชน์กับผู้ถือหน่วยมากว่า ยืนยันไม่เคยทำผิดมติสมาคมฯ ด้าน“เอวายเอฟ” ไม่ห่วง เหตุเทรดน้อย ถือนาน ย้ำยึดคุณภาพโบรกฯ บทวิจัยเป็นหลัก มั่นใจไม่กระทบแข่งขันธุรกิจ
นางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (สมาคมบลจ.) และกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยหลังจากมีข่าวออกมาว่ามีบริษัทสมาชิกฝ่าฝืนข้อตกลงในการจ่ายค่าคอมมิชชั่นว่า เรื่องนี้ยังไม่ชัดเจนว่ามีการกระทำจริงหรือไม่ หรือใครเป็นคนฝ่าฝืน แต่ทางสมาคมเอง ก็จะออกหนังสือเรียกบรรดาสมาชิกมาหารืออีกครั้งว่า จะทำตามข้อตกลงเดิมที่ได้หารือกันไว้คือ จ่ายค่าคอมมิชชั่นในอัตราไม่ต่ำกว่า 0.20% หรือไม่ เพราะถ้าหากไม่ต้องการทำตามข้อตกลง ก็ให้ยกเลิกข้อตกลงเดิมไป แล้วปล่อยเสรีให้จัดการกันเอง ซึ่งเรื่องนี้ มองว่าถ้าปล่อยเสรีแล้ว ยังไง บลจ.ขนาดใหญ่ก็ได้เปรียบ บลจ.ขนาดเล็กอยู่แล้วเพราะมีปริมาณการซื้อขายมากกว่า
“เรื่องนี้ เราลงโทษเขาไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเป็นเพียงการตกลงร่วมกันเท่านั้น เพียงแต่หลังจากนี้ คงต้องมีการสอบถามสมาชิกและหารืออีกครั้งว่า จะยังยืนยันข้อตกลงเดิมหรือไม่ ถ้าหากไม่ก็ล้มโต๊ะไปเลย”นางวรวรรณกล่าว
สำหรับของบลจ.บัวหลวงเอง กรรมการผู้จัดการ บลจ.บัวหลวง กล่าวว่า เราเองให้ความสำคัญกับโบรกเกอร์ที่มีงานวิจัยที่ดี มีข้อมูลสนับสนุนตรงตามที่เราต้องการ ซึ่งในส่วนนี้เอง เรามองว่าต้องมีผลตอบแทนกลับไปให้เขาด้วย ส่วนโบรกเกอร์ที่คิดค่าคอมฯ 0% นั้น มองว่าคงเป็นแค่ระยะสั้นๆ เท่านั้น เพราะสุดท้ายแล้วคงอยู่ไม่ได้
นายสมชัย บุญนำสิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หากสมาคมบริษัทจัดการลงทุนไม่สามารถควบคุมให้บริษัทสมาชิกใช้ค่าธรรมเนียม ซื้อขายหุ้น (คอมมิชชัน) ในอัตรา 0.2% เท่ากันได้ ก็ควรจะปล่อยเสรี เพราะการลดค่าคอมมิชชันลงจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหน่วย
“ถ้ามีการกำหนดกรอบแล้วมีบางบลจ.ไม่ปฏิบัติตามก็จะไม่เป็นธรรมกับบลจ.อื่นที่ปฏิบัติตามกฎของสมาคมฯ ขณะที่การเลือกใช้บริการโบรกเกอร์ ของ บลจ.แต่ละแห่งจะไม่ได้พิจารณาเฉพาะค่าคอมมิชชันเพียงอย่างเดียว” นายสมชัย กล่าว
ทั้งนี้ เชื่อว่า หากปล่อยให้คิดค่าคอมมิชชันอย่างเสรี จะไม่ทำให้ บลจ.ขนาดเล็ก เสียเปรียบ บลจ.ขนาดใหญ่ เพราะต้นทุนของโบรกเกอร์ไม่ต่างกัน ทำให้น่าจะคิดค่าคอมมิชชันในอัตราเดียวกัน
อย่าง ไรก็ตาม ในเบื้องต้น บลจ.กรุงไทย จะปฏิบัติตามข้อกำหนดของสมาคมฯ ไปก่อน ซึ่งเชื่อว่า จะไม่ทำให้ บลจ.กรุงไทย เสียเปรียบ บลจ. อื่นที่ได้ค่าคอมมิชชันต่ำกว่า 0.2% เพราะคาดว่า ปัญหาดังกล่าวน่าจะเป็นเพียงช่วงสั้นๆ เท่านั้น
“หลังจากนี้สมาคมฯ จะต้องไปคุยกันว่า จะจัดการเรื่องนี้อย่างไร รวมถึงสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ด้วยว่า จะดำเนินการกับสมาชิกอย่างไร เพราะในขณะนี้ปัญหายังอยู่ที่ว่า สมาคมโบรกเกอร์เองยังควบคุมกันไม่ได้ เพราะฉะนั้นหากมีโบรกเกอร์มาเสนอค่าคอมมิชชันต่ำกว่า บลจ.ควรจะใช้บริการหรือไม่” นายสมชัย กล่าว
นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยา จำกัด หรือเอวายเอฟ กล่าวถึงการเก็บค่าคอมมิชชั่น 0% ของบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ว่า ในส่วนของเอวายเอฟเอง ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากนัก ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากพอร์ตการลงทุนส่วนใหญ่ ไม่มีการซื้อขายบ่อยมากนัก เพราะสไตล์การลงทุนของเราเน้นการลงทุนระยะยาว โดยหุ้นแต่ละตัวที่จะเข้าไปลงทุนนั้น เราจะมองไปข้างหน้า 5 ปีว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีโบรกเกอร์เสนอโปรโมชั่นค่าคอมฯ 0% มาให้บริษัทพิจารณาเช่นกัน แต่ในส่วนนี้ เราให้ความสำคัญกับคุณภาพ บทวิเคราะห์ ของโบกเกอร์เหล่านั้นมากกว่า เพราะว่าเป็นส่วนสำคัญที่มีผลต่อผลการดำเนินงานของกองทุน ในขณะที่ค่าคอมฯ เอง มีผลน้อยมาก
อย่างไรก็ตาม มองว่าสำหรับบริษัทจัดการกองทุนที่บริหารกองทุนแบบแอกทีฟ ก็อาจจะได้ประโยชน์จากค่าคอมฯ 0% เพราะแน่นอนว่าต้นทุนในการลงทุนต้องน้อยลงอยู่แล้ว
“ปัจจุบัน เราจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้กับโบรกเกอร์เท่าเดิมที่ 0.25% ซึ่งประเด็นการลดค่าคอมฯ ลง 0% เรามองว่าไม่มีผลอะไรกับเรา ซึ่งการที่เราเองอยู่ในอุตสาหกรรมนี้ เราไม่ได้มองว่าที่ไหนมีโปรโมชั่นมาเสนอแล้วเราต้องไป แต่เราจะดูการลงทุน และคุณภาพของเขาว่าเป็นยังไง เพราะในประเด็นนี้ หากไม่มีคุณภาพแล้ว มันเสียหายต่อเรามากกว่าต้นทุนค่าคอมมิชชั่นที่ต้องเสียไป”นายประภาสกล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนของบลจ.ที่เลือกใช้บริการกับโบรกเกอร์ค่าคอมมิชชั่น 0% นายประภาสกล่าวว่า เขาอาจจะคิดถึงผู้ถือหน่วยลงทุนของเขาจริง แต่เชื่อว่าไม่มีของฟรีในโลกท้ายที่สุดทุกอย่างล้วนมีต้นทุน และเชื่อว่าในระยะยาวคงทำแบบนี้ไปได้ไม่ตลอดเช่นกัน ซึ่งในเรื่องค่าคอมมิชชั่น 0% ประเด็นคือนอกจากผู้ถือหน่วยที่บลจ.ต้องคำนึงถึงแล้ว ในส่วนของพันธมิตรทางธุรกิจเองเราก็ต้องคำนึงถึงเช่นกัน ซึ่งการมีบริการที่ดี บทวิเคราะห์ที่ดี เป็นสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญในส่วนนี้มากกว่า แล้วถ้าจะรับบทวิเคราะห์จากโบรกเกอร์หนึ่ง แล้วไปซื้อขายกับอีกโบรกเกอร์หนึ่งซึ่งคิดค่าคอมมิชชั่น 0% ก็ดูจะไม่ค่อยดีเท่าไรนัก บริษัทเองคงไม่ทำเช่นนั้น
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าประเด็นนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการแข่งขันของบริษัทในธุรกิจแต่ประการใด เพราะสไตล์ของบลจ.อยุธยา เป็นแบบนี้ บลจ.ไหนอยากจะใช้โบรกเกอร์ค่าคมอมมิชชั่น 0% ก็ถือเป็นสิทธิ์ แต่เมื่อมีข้อตกลงเป็นมติร่วมกันแล้วก็ควรจะเคาระมติที่ทำร่วมกันด้วยเช่นกัน
นางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (สมาคมบลจ.) และกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยหลังจากมีข่าวออกมาว่ามีบริษัทสมาชิกฝ่าฝืนข้อตกลงในการจ่ายค่าคอมมิชชั่นว่า เรื่องนี้ยังไม่ชัดเจนว่ามีการกระทำจริงหรือไม่ หรือใครเป็นคนฝ่าฝืน แต่ทางสมาคมเอง ก็จะออกหนังสือเรียกบรรดาสมาชิกมาหารืออีกครั้งว่า จะทำตามข้อตกลงเดิมที่ได้หารือกันไว้คือ จ่ายค่าคอมมิชชั่นในอัตราไม่ต่ำกว่า 0.20% หรือไม่ เพราะถ้าหากไม่ต้องการทำตามข้อตกลง ก็ให้ยกเลิกข้อตกลงเดิมไป แล้วปล่อยเสรีให้จัดการกันเอง ซึ่งเรื่องนี้ มองว่าถ้าปล่อยเสรีแล้ว ยังไง บลจ.ขนาดใหญ่ก็ได้เปรียบ บลจ.ขนาดเล็กอยู่แล้วเพราะมีปริมาณการซื้อขายมากกว่า
“เรื่องนี้ เราลงโทษเขาไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเป็นเพียงการตกลงร่วมกันเท่านั้น เพียงแต่หลังจากนี้ คงต้องมีการสอบถามสมาชิกและหารืออีกครั้งว่า จะยังยืนยันข้อตกลงเดิมหรือไม่ ถ้าหากไม่ก็ล้มโต๊ะไปเลย”นางวรวรรณกล่าว
สำหรับของบลจ.บัวหลวงเอง กรรมการผู้จัดการ บลจ.บัวหลวง กล่าวว่า เราเองให้ความสำคัญกับโบรกเกอร์ที่มีงานวิจัยที่ดี มีข้อมูลสนับสนุนตรงตามที่เราต้องการ ซึ่งในส่วนนี้เอง เรามองว่าต้องมีผลตอบแทนกลับไปให้เขาด้วย ส่วนโบรกเกอร์ที่คิดค่าคอมฯ 0% นั้น มองว่าคงเป็นแค่ระยะสั้นๆ เท่านั้น เพราะสุดท้ายแล้วคงอยู่ไม่ได้
นายสมชัย บุญนำสิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หากสมาคมบริษัทจัดการลงทุนไม่สามารถควบคุมให้บริษัทสมาชิกใช้ค่าธรรมเนียม ซื้อขายหุ้น (คอมมิชชัน) ในอัตรา 0.2% เท่ากันได้ ก็ควรจะปล่อยเสรี เพราะการลดค่าคอมมิชชันลงจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหน่วย
“ถ้ามีการกำหนดกรอบแล้วมีบางบลจ.ไม่ปฏิบัติตามก็จะไม่เป็นธรรมกับบลจ.อื่นที่ปฏิบัติตามกฎของสมาคมฯ ขณะที่การเลือกใช้บริการโบรกเกอร์ ของ บลจ.แต่ละแห่งจะไม่ได้พิจารณาเฉพาะค่าคอมมิชชันเพียงอย่างเดียว” นายสมชัย กล่าว
ทั้งนี้ เชื่อว่า หากปล่อยให้คิดค่าคอมมิชชันอย่างเสรี จะไม่ทำให้ บลจ.ขนาดเล็ก เสียเปรียบ บลจ.ขนาดใหญ่ เพราะต้นทุนของโบรกเกอร์ไม่ต่างกัน ทำให้น่าจะคิดค่าคอมมิชชันในอัตราเดียวกัน
อย่าง ไรก็ตาม ในเบื้องต้น บลจ.กรุงไทย จะปฏิบัติตามข้อกำหนดของสมาคมฯ ไปก่อน ซึ่งเชื่อว่า จะไม่ทำให้ บลจ.กรุงไทย เสียเปรียบ บลจ. อื่นที่ได้ค่าคอมมิชชันต่ำกว่า 0.2% เพราะคาดว่า ปัญหาดังกล่าวน่าจะเป็นเพียงช่วงสั้นๆ เท่านั้น
“หลังจากนี้สมาคมฯ จะต้องไปคุยกันว่า จะจัดการเรื่องนี้อย่างไร รวมถึงสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ด้วยว่า จะดำเนินการกับสมาชิกอย่างไร เพราะในขณะนี้ปัญหายังอยู่ที่ว่า สมาคมโบรกเกอร์เองยังควบคุมกันไม่ได้ เพราะฉะนั้นหากมีโบรกเกอร์มาเสนอค่าคอมมิชชันต่ำกว่า บลจ.ควรจะใช้บริการหรือไม่” นายสมชัย กล่าว
นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยา จำกัด หรือเอวายเอฟ กล่าวถึงการเก็บค่าคอมมิชชั่น 0% ของบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ว่า ในส่วนของเอวายเอฟเอง ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากนัก ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากพอร์ตการลงทุนส่วนใหญ่ ไม่มีการซื้อขายบ่อยมากนัก เพราะสไตล์การลงทุนของเราเน้นการลงทุนระยะยาว โดยหุ้นแต่ละตัวที่จะเข้าไปลงทุนนั้น เราจะมองไปข้างหน้า 5 ปีว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีโบรกเกอร์เสนอโปรโมชั่นค่าคอมฯ 0% มาให้บริษัทพิจารณาเช่นกัน แต่ในส่วนนี้ เราให้ความสำคัญกับคุณภาพ บทวิเคราะห์ ของโบกเกอร์เหล่านั้นมากกว่า เพราะว่าเป็นส่วนสำคัญที่มีผลต่อผลการดำเนินงานของกองทุน ในขณะที่ค่าคอมฯ เอง มีผลน้อยมาก
อย่างไรก็ตาม มองว่าสำหรับบริษัทจัดการกองทุนที่บริหารกองทุนแบบแอกทีฟ ก็อาจจะได้ประโยชน์จากค่าคอมฯ 0% เพราะแน่นอนว่าต้นทุนในการลงทุนต้องน้อยลงอยู่แล้ว
“ปัจจุบัน เราจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้กับโบรกเกอร์เท่าเดิมที่ 0.25% ซึ่งประเด็นการลดค่าคอมฯ ลง 0% เรามองว่าไม่มีผลอะไรกับเรา ซึ่งการที่เราเองอยู่ในอุตสาหกรรมนี้ เราไม่ได้มองว่าที่ไหนมีโปรโมชั่นมาเสนอแล้วเราต้องไป แต่เราจะดูการลงทุน และคุณภาพของเขาว่าเป็นยังไง เพราะในประเด็นนี้ หากไม่มีคุณภาพแล้ว มันเสียหายต่อเรามากกว่าต้นทุนค่าคอมมิชชั่นที่ต้องเสียไป”นายประภาสกล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนของบลจ.ที่เลือกใช้บริการกับโบรกเกอร์ค่าคอมมิชชั่น 0% นายประภาสกล่าวว่า เขาอาจจะคิดถึงผู้ถือหน่วยลงทุนของเขาจริง แต่เชื่อว่าไม่มีของฟรีในโลกท้ายที่สุดทุกอย่างล้วนมีต้นทุน และเชื่อว่าในระยะยาวคงทำแบบนี้ไปได้ไม่ตลอดเช่นกัน ซึ่งในเรื่องค่าคอมมิชชั่น 0% ประเด็นคือนอกจากผู้ถือหน่วยที่บลจ.ต้องคำนึงถึงแล้ว ในส่วนของพันธมิตรทางธุรกิจเองเราก็ต้องคำนึงถึงเช่นกัน ซึ่งการมีบริการที่ดี บทวิเคราะห์ที่ดี เป็นสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญในส่วนนี้มากกว่า แล้วถ้าจะรับบทวิเคราะห์จากโบรกเกอร์หนึ่ง แล้วไปซื้อขายกับอีกโบรกเกอร์หนึ่งซึ่งคิดค่าคอมมิชชั่น 0% ก็ดูจะไม่ค่อยดีเท่าไรนัก บริษัทเองคงไม่ทำเช่นนั้น
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าประเด็นนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการแข่งขันของบริษัทในธุรกิจแต่ประการใด เพราะสไตล์ของบลจ.อยุธยา เป็นแบบนี้ บลจ.ไหนอยากจะใช้โบรกเกอร์ค่าคมอมมิชชั่น 0% ก็ถือเป็นสิทธิ์ แต่เมื่อมีข้อตกลงเป็นมติร่วมกันแล้วก็ควรจะเคาระมติที่ทำร่วมกันด้วยเช่นกัน
