xs
xsm
sm
md
lg

PTTEP ทุ่มหนัก 4.3 แสน ล. ลงทุนธุรกิจปิโตรฯ 5 ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปตท.สผ.ตั้งงบประมาณการลงทุน 5 ปี (2553-2557) ด้วยเม็ดเงินกว่า 4.29 แสนล้านบาท วางเป้าหมายการขายปิโตรเลียมเฉลี่ยในปีนี้เหลือ 2.5 แสนบาร์เรล ลดลงจากประมาณการเดิม 3 แสนบาร์เรล/วัน เหตุปัญหาจากแหล่งมอนทาราที่ออสเตรเลีย ส่อแววเลื่อนยาวไปผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในกลางปี 2554 แทนจากพิษไฟไหม้เมื่อปีที่แล้ว ขณะที่รายได้ปีนี้คาดเติบโตไม่น้อยกว่า 10% จากปีก่อน เนื่องจากราคาน้ำมันพุ่งและปริมาณการขายเพิ่มขึ้น

นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยถึงประมาณการรายจ่ายลงทุน (Capital Expenditure) และรายจ่ายดำเนินงาน (Operating Expenditure) ของบริษัทฯและบริษัทย่อย ในช่วงปี 2553 - 2557 รวม 5 ปี เป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 429,096 ล้านบาท ซึ่งมีการปรับปรุงเพื่อให้สอดคล้องกับแผนงานล่าสุด

โดยปัจจุบันบริษัทมีโครงการทั้งหมด 42 โครงการ ประกอบด้วยโครงการที่อยู่ในระหว่างการผลิต 18 โครงการ ระยะพัฒนา 4 โครงการ และระยะสำรวจ 20 โครงการ

สำหรับ ประมาณการรายจ่ายของ ปตท.สผ. ในปี 2553 คิดเป็นจำนวน 98,425 ล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายสำหรับโครงการผลิต โครงการพัฒนา และโครงการสำรวจ โดยใช้ลงทุนในโครงการหลักๆได้แก่ โครงการพีทีทีอีพี ออสตราเลเชีย โครงการบงกช โครงการอาทิตย์ โครงการพม่า เอ็ม 9และเอ็ม 11 โครงการพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย-บี 17 และโครงการเอส 1

ทั้งนี้ บริษัท ประมาณการรายจ่ายลงทุนในปี 2553 ไว้ที่ 67,912 ล้านบาท ปี 2554 จำนวน 79,350 ล้านบาท ปี 2555 จำนวน 67,846 ล้านบาท ปี2556 จำนวน 35,045 ล้านบาท และปี2557 จำนวน 29,797ล้านบาท รวมทั้งสิ้น (2553-2557) จำนวน 279,950 ล้านบาท

ขณะที่ รายจ่ายดำเนินงาน ปี2553 อยู่ที่ 30,513 ล้านบาท ปี2554 จำนวน 29,798 ล้านบาท ปี2555 จำนวน 31,324 ล้านบาท ปี2556 จำนวน 28,453 ล้านบาท และปี2557 จำนวน 29,058 ล้านบาท รวม 5 ปีมีทั้งสิ้น 149,146 ล้านบาท นอกจากนี้เมื่อคิดเป็นรายจ่ายรายปีพบว่า ปี2553 บริษัทมีรายจ่ายทั้งสิ้น 98,425 ล้านบาท ปี2554 มีจำนวน 109,148 ล้านบาท ปี2555 จำนวน 99,170 ล้านบาท ปี2556 จำนวน 63,498 ล้านบาท และปี2557 จำนวน 58,855 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 429,096 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ปตท.สผ. คาดว่าตัวเลขประมาณการขายปิโตรเลียมเฉลี่ยต่อวัน (จากโครงการปัจจุบัน) ระหว่างปี 2553-2557 จะอยู่ที่ ปี2553 มีปริมาณการขาย 253,796 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ปี 2554 มีปริมาณการขาย 275,552 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ปี2555 มีปริมาณการขาย 303,920 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ปี2556 มีปริมาณการขาย 305,354 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน และปี2557 มีปริมาณการขาย 307,027 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน

นายอนนต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่ตั้งประมาณการขายปิโตรเลียมในปีนี้ไว้ที่เฉลี่ย 2.53 แสนบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ/วัน ต่ำกว่าเดิมที่เคยประมาณการไว้ที่ 3 แสนบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ/วัน เนื่องจากแหล่งมอนทาราที่ออสเตรเลียไม่สามารถผลิตเชิงพาณิชย์ได้ เพราะเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้เมื่อปีที่แล้ว จากเดิมที่จะต้องผลิตเชิงพาณิชย์ในปลายปี 2552 รวมทั้งได้ปรับแผนตามความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติในประเทศให้สอดคล้องกับการผลิตของบริษัทฯ

"แม้ว่าประมาณการขายปิโตรเลียมในปีนี้ที่ 2.53 แสนบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ/วัน จะต่ำกว่าประมาณการเดิมตามแผนลงทุน 5ปี (2552-2556)เมื่อปีก่อน แต่ตัวเลขปริมาณการขายปิโตรเลียมปีนี้ก็สูงกว่าปีที่แล้ว ที่พบว่าตัวเลขการขายปิโตรเลียมในปี 2552 ต่ำกว่าประมาณการเดิมที่ตั้งไว้ 2.4 แสนบาร์เรล/วัน อยู่3-5% เนื่องจากแหล่งมอนทาราและความต้องการใช้ก๊าซฯในประเทศที่หดตัวลงในช่วงต้นปีจากภาวะเศรษฐกิจ"

โดยในปีนี้คาดว่า ประมาณการความต้องการใช้ก๊าซฯในไทยจะเติบโตขึ้น 5%จากปีก่อนที่ตัวเลขการใช้ก๊าซฯอยู่ที่ 3,500 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน คาดว่าปีนี้จะอยู่ที่ 3,700 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน

ส่วนแผนลงทุน 5ปี (2553-2557) ตั้งไว้ที่ 4.29 แสนล้านบาท ต่ำกว่างบการลงทุน 5ปีเดิม(2552-2556)ที่ตั้งไว้ถึง 4.85 แสนล้านบาท เนื่องจากเป็นงบลงทุนต่อเนื่องและในปีที่แล้วถือเป็นปีที่ดีปีหนึ่งของปตท.สผ. ทำให้มีการลงทุนค่อนข้างมากไม่ว่าจะเป็นแหล่งอาทิตย์ บงกชใต้ รวมทั้งการซื้อแหล่งมอนทารา ที่ออสเตรเลีย แต่นับจากนี้ไปส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในแหล่งM9 ที่พม่าโครงการปิโตรเลียมที่เวียดนาม และการลงทุนในประเทศเพื่อรักษาระดับการผลิตไว้

นายอนนต์ กล่าวถึงความคืบหน้าแหล่งมอนทาราที่ออสเตรเลียว่า เนื่องจากสภาพอากาศแปรปวนทำให้ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายที่แน่นอนได้ คงต้องรอเวลาอีกระยะหนึ่ง จากการประเมินคร่าวๆอาจจะต้องมีการรื้อส่วนบนของตัวแท่นฯที่ถูกไฟเผาแล้วสร้างใหม่ ซึ่งจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1ปีกว่าจึงจะดำเนินการแล้วเสร็จพร้อมผลิตเชิงพาณิชย์ได้ ดังนั้นฝ่ายการเงินจึงประเมินว่าบริษัทฯจะรับรู้รายได้จากแหล่งมอนทาราได้ในกลางปี 2554

สำหรับผลประกอบการในปีนี้คาดว่าจะมียอดขายเติบโตขึ้นจากปีก่อนไม่น้อยกว่า 10% ซึ่งสอดคล้องกับปริมาณการขายปิโตรเลียมที่เพิ่มขึ้นและราคาน้ำมันที่สูงขึ้น โดยบริษัทฯคาดการณ์ราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบไว้ที่ 70-80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ ระบุว่าผู้บริหาร PTTEP เชื่อว่าจะได้ผลสรุปความเสียหายจากเหตุการณ์ไฟไหม้ ที่โครงการมอนทาราได้เร็ววันนี้ และคาดว่าค่าเสียหายส่วนมากจะได้รับการคุ้มครองจากประกันภัยที่ได้ทำไว้ นอกจากนี้พบว่า ขณะนี้ไม่มีการรั่วไหลของน้ำมันใกล้ๆ กับชายฝั่งอินโดนีเซีย จึงถือเป็นประเด็นข่าวบวกของความคืบหน้าโครงการดังกล่าวสำหรับปตท.สผ. แต่บริษัทอาจต้องใช้เวลาถึง 18 เดือน ในการสร้างฐานรากขึ้นใหม่เพื่อให้โครงการสามารถพัฒนาและดำเนินการต่อไปได้ จึงประเมินเลื่อนการเปิดดำเนินงาน ของโครงการมอนทารา ออกไปเป็นกลางปี 2554จากการปรับสมมติฐานดังกล่าว ทำให้เป้ายอดขายของลดลง 9% เหลือ2.64 แสนบาร์เรลต่อวันในปี 53 และลดลง 5.2% เป็น 2.74 แสนบาร์เรลต่อวันปี 54ขณะเดียวกันประมาณการกำไรสุทธิ 3.5 หมื่นล้านบาทในปี 53และเหลือ 4.05 หมื่นล้านบาทในปี 2554
กำลังโหลดความคิดเห็น