ธ.กรุงไทย ตั้งเป้าปี 53 สินเชื่อโต 7% เบนเข็มปล่อยกู้รายเล็ก เลิกคาดหวังรายได้จากลูกค้าหลัก 2 รายใหญ่ ซึ่งกำลังโดนผลกระทบมาบตาพุด ซึ่งยังไม่รู้อนาคต
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ตั้งเป้าผลดำเนินงานปี 2553 โดยคาดว่า สินเชื่อจะขยายตัวได้ประมาณ 7% จากปีนี้มีสินเชื่อสุทธิ 3-4 หมื่นล้านบาท พลาดจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ เนื่องจากช่วงกลางปีพอร์ตสินเชื่อของธนาคารมีอัตราเติบโตลดลงเหลือ 0% หลังจากธุรกิจขนาดใหญ่ได้ออกหุ้นกู้มาชำระคืนหนี้ค่อนข้างมาก
การขยายตัวที่ดีขึ้นของสินเชื่อในปีหน้าจะเน้นไปที่ลูกค้าขนาดกลางและเล็ก เนื่องจากลูกค้ารายใหญ่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการลงทุนในพื้นที่มาบตาพุด ซึ่งหากสินเชื่อเติบโตได้ดีก็จะส่งผลให้อัตรากำไรของธนาคารปรับตัวดีขึ้นด้วย ประกอบกับในปีนี้รายได้จากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยลดลงจากปีก่อน ตามทิศทางของอัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลงตั้งแต่ต้นปี แต่มาในช่วงปลายปีนี้ส่วนต่างเริ่มขยับดีขึ้นมาบ้างแล้ว
นายอภิศักดิ์ มองว่า เศรษฐกิจไทยในปีหน้าอาจจะขยายตัวในระดับ 3-4% โดยมีปัจจัยเสี่ยงทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ ปัจจัยในประเทศ คือ ปัญหาการเมือง โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมทั้งกรณีปัญหาการลงทุนในพื้นที่มาบตาพุดที่ต้องชะลอออกไป ซึ่งจะกระทบกับการลงทุนภาคเอกชนต่อเนื่องไปถึงช่วงกลางปี 2553 ยกเว้นว่า รัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหาได้เร็ว นอกจากนั้นยังมีประเด็นการเร่งตัวของอัตราดอกเบี้ย แต่ก็ยังเชื่อว่าปีหน้าอัตราดอกเบี้ยจะยังปรับตัวขึ้นมาไม่มากนัก
"มองว่า ภายในปีหน้า ถ้าการลงทุนเอกชนยังหยุดชะงัก ก็จะทำให้ GDP โตได้ต่ำ เนื่องจาก GDP ต้องอาศัยแรงกระตุ้นจากการลงทุนและการใช้จ่ายภาครัฐเป็นหลัก"
ส่วนปัจจัยเสี่ยงต่างประเทศ จะมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะฟื้นได้ตามที่คาดหวังหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้ยังมีปัญหาการว่างงานอยู่ แสดงว่าเศรษฐกิจยังไม่ดีและยังน่ากลัวอยู่ โอกาสที่เศรษฐกิจจะหัวทิ่มลงมาก็ยังมี ขณะที่ฝั่งยุโรปอาการก็ยังไม่ดีนัก อาจมีกรณีคล้ายดูไบเวิลด์เกิดขึ้นได้ เนื่องจากมีบางประเทศถูกปรับลดเครดิตลงไปแล้ว ซึ่งทั้งสองส่วนจะกระทบต่อประเทศที่พึ่งพารายได้จากการส่งออก