xs
xsm
sm
md
lg

KTBเคาะเป้าสินเชื่อปีหน้าโต6-7%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - แบงก์กรุงไทยเคาะเป้าสินเชื่อปีหน้าโต 6-7 % เด้งรับเศรษฐกิจฟื้นตัว โดยคาดว่าจีดีพีจะขยายตัวประมาณ 2-3%

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) เปิดเผยว่า ในปี 2553 ธนาคารตั้งเป้าหมายเติบโตสินเชื่อรวมไว้ที่ 6-7 % ซึ่งเป็นอัตราที่มากกว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจ (จีดีพี) จำนวน 1.5-2 เท่า โดยคาดว่าจีดีพีจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 2-3 % ขณะที่สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบเชื่อว่ายังคงทรงตัว

ทั้งนี้ การเติบโตของสินเชื่อในปีหน้าจะได้รับประโยชน์จากโครงการไทยเข้มแข็งของรัฐบาล ทำให้เศรษฐกิจเกิดการฟื้นตัว มีการเบิกใช้สินเชื่อกับธนาคารเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะสินเชื่อที่เป็นเงินทุนหมุนเวียน แต่อย่างไรก็ตามในไตรมาส 4 ที่ผ่านมาได้เห็นผลจากกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการไทยเข้มแข็ง แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะค่อยฟื้นตัว ไม่ได้ฟื้นรวดเร็วเนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังเปราะบาง

“รัฐบาลต้องสร้างบรรยากาศการลงทุน โดยเฉพาะเรื่องของ 76 โครงการมาบตาพุด เพื่อให้ภาคเอกชนมาต่อยอดขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป หลังจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว” นายอภิศักดิ์ กล่าว

นายอภิศักดิ์กล่าวอีกว่า ยอดสินเชื่อรวมไตรมาส 3 ที่ผ่านมาของธนาคาร ได้ติดลบเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ซึ่งเกิดจากกระทรวงการคลังได้คืนเงินกู้ 35,000 ล้านบาท ขณะที่ลูกค้ารายใหญ่คืนเงินกู้ 15,000 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุเกิดจากออกหุ้นกู้ และนำเงินมาชำระคืนสินเชื่อ อย่างไรก็ตามในไตรมาส 3 ธนาคารได้อนุมัติสินเชื่อไปแล้ว 380,000 ล้านบาท

สำหรับทิศทางของสินเชื่อในไตรมาส 4 นี้ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ภาคการส่งออกก็เริ่มดีขึ้น โดยพบว่ามีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเข้ามามากขึ้น ส่วนภาคการเกษตรในช่วงปลายปีนี้คาดว่าจะเบิกใช้สินเชื่อมากขึ้น เพราะเป็นฤดูการเก็บเกี่ยว โดยส่วนใหญ่สินเชื่อที่ปล่อยกู้จะใช้เป็นงินทุนหมุนเวียน ขณะที่สินเชื่อเพื่อการลงทุนยังมีน้อย

โดยในปีนี้เชื่อว่ายอดสินเชื่อของธนาคารจะเพิ่มขึ้นสุทธิ 6-7 % หรือ 60,000-70,000 ล้านบาท โดยมียอดสินเชื่อที่อนุมัติประมาณ 450,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ สำหรับในส่วนของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาของธนาคารได้ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 เนื่องจากพนักงานของธนาคารได้มีการแก้ไขหนี้เอ็นพีแอลได้มากขึ้น หลังจากนี้เชื่อว่าเอ็นพีแอลจะทรงตัว ซึ่งเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น สำหรับส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และดอกเบี้ยเงินฝาก (สเปรด) ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ยังทรงตัวอยู่ และหากเทียบกับปีที่ผ่านมาสเปรดได้ปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นไปตามอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลง
กำลังโหลดความคิดเห็น