xs
xsm
sm
md
lg

ห่วงปี 53 การเมืองสะดุด กระทบ ศก.ไทยเว้นวรรคยาว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สภาพัฒน์แนะรัฐบาลคงมาตรการ รถเมล์-รถไฟฟรี พร้อมยกเลิกมาตรการอุดหนุนการใช้น้ำ-ไฟ เลขาฯ สศช.ห่วงการเมืองสะดุด การแก้ไข ศก.ต้องเว้นวรรคยาว แนะเร่งสร้างความชัดเจนปัญหามาบตาพุด

นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการ คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวถึงมาตรการลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน 5 มาตรการ 6 เดือน ที่จะสิ้นสุดระยะเวลาในวันที่ 31 ธันวาคม 2552 นั้น สศช.เตรียมเสนอให้รัฐบาลทบทวนการยกเลิกมาตรการที่เกี่ยวกับการโดยสารสาธารณะทั้งรถเมล์ฟรี และรถไฟชานเมืองฟรี โดยเห็นว่าควรจะขยายเวลาออกไป เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบให้แก่ประชาชนจากผลของราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น

ส่วนมาตรการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายประเภทค่ากระแสไฟฟ้า และค่าน้ำประปานั้น ควรจะมีผลสิ้นสุดตามกำหนดเดิมในสิ้นปีนี้ เนื่องจากเห็นว่าที่ผ่านมารัฐบาลได้ให้การช่วยเหลือมาเป็นระยะเวลาที่พอสมควรแล้ว

“เราคงขอให้รัฐบาลทบทวน บางอันคงช่วยต่อ แต่บางอันอาจต้องหยุด เรื่องบริการสาธารณะ เช่น รถเมล์ฟรี รถไฟฟรี คงให้เดินหน้าต่อ เพราะช่วยลดผลกระทบด้านราคาน้ำมัน แต่เรื่องประปา ไฟฟ้า อาจจะต้องทบทวน เพราะได้ช่วยมาพอสมควรแล้ว อะไรที่เป็นพื้นฐานในการช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อยก็จะทำต่อ แต่บางเรื่องที่เราไม่ต้องการให้เกิดพฤติกรรมการบริโภคที่ผิด”

ปัจจุบันรัฐบาลได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ประกอบด้วย 5 มาตรการหลัก โดยจะมีผลสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2552 ได้แก่ รถเมล์ฟรี รถไฟชานเมืองฟรี การใช้ไฟฟ้าที่ไม่เกินเงื่อนไขที่กำหนด การใช้น้ำประปาที่ไม่เกินเงื่อนไขที่กำหนด และการลดภาษีสรรพสามิตราคาน้ำมันดีเซล

ส่วนการสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน สศช.มองว่า รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งสร้างความชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมตามมาตรา 67 วรรค 2 ของรัฐธรรมนูญเพื่อแก้ปัญหาการลงทุนในพื้นที่มาบตามพุด เพราะหากเรื่องนี้ยังไม่มีความชัดเจนอาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนอื่นๆ เพิ่มมากขึ้นที่ไม่ได้เป็นปัญหาเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม นอกเหนือจาก 76 โครงการ

ทั้งนี้ การตั้งคณะกรรมการ 4 ฝ่ายเพื่อแก้ปัญหามาบตาพุด ที่มี นายอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธาน โดยจะใช้เวลา 120 วัน เพื่อหาข้อสรุป เชื่อว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม และนักลงทุนจะรอฟังความชัดเจนในเรื่องนี้ได้

นอกจากนี้ ปัจจัยความสงบในประเทศ และความต่อเนื่องในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากที่ผ่านมาความต่อเนื่องในโครงการต่างๆ ของรัฐบาล เช่น การทำงบกลางปี 2552 จำนวน 1.167 แสนล้านบาท การเบิกจ่ายงบลงทุนในโครงการไทยเข้มแข็งสามารถเดินหน้าได้ดี

“หากเกิดการสะดุดจากปัจจัยความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง อาจต้องเว้นวรรคไปถึง 1 ไตรมาส เพราะหากรัฐบาลใหม่เข้ามาก็ต้องใช้เวลา 3-5 เดือนในจัดทำนโยบายและทบทวนโครงการต่างๆ ในขณะที่กว่าความเชื่อมั่นของเอกชนจะกลับมาต้องใช้เวลาอีก 5-6 เดือน”

หากมีสัญญาณว่า ปีหน้าถ้ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรต่างๆ ต่อรัฐบาล ความต่อเนื่องของนโยบายเศรษฐกิจ ก็จะไม่ต่อเนื่อง และโอกาสที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัวจากเศรษฐกิจโลก ที่จะทำให้เศรษฐกิจกลับมาเป็นบวก ก็เป็นเรื่องยาก

เลขาธิการ สศช.กล่าวว่า ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา ในขณะนี้ ถือเป็นปัญหาชั่วคราว เพราะสิ่งสำคัญรัฐบาลจะต้องเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์กับประเทศเพื่อนบ้าน และถือเป็นปัจจัยสำคัญในการเดินหน้าด้านเศรษฐกิจในอนาคต ซึ่งประเทศไทยคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้านได้ เพราะจะนำไปสู่การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาวและเชื่อมโยงโลจิสติกส์นำไปสู่การค้าระหว่างประเทศที่เป็นระบบมากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น