xs
xsm
sm
md
lg

ยูบีเอสขาดทุนไม่เลิก แต่แนวโน้มดีขึ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นิวยอร์กไทมส์/เอเยนซีส์ - ยูบีเอส ยักษ์ใหญ่หมายเลขหนึ่งของวงการธนาคารสวิสเซอร์แลนด์ รายงานผลประกอบการรอบไตรมาส 3 ปีนี้ ปรากฏว่าขาดทุนสุทธิ 564 ล้านฟรังก์สวิส (551 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) หลังจากที่เคยทำกำไรได้ 283 ล้านฟรังก์ เมื่อไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว อีกทั้งยังเป็นการขาดทุนต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สี่ แต่ก็ยืนยันว่าธุรกิจกำลังกระเตื้องดีขึ้นมา

ยูบีเอสบอกว่า การขาดทุนสุทธิในไตรมาส (ก.ค.-ก.ย.2009) ดังกล่าว ที่สำคัญเนื่องมาจากแบงก์ต้องตั้งค่าใช้จ่ายทางบัญชีรวม 3 รายการที่มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 2,150 ล้านฟรังก์สวิส ทั้งนี้หากไม่นำเอาค่าใช้จ่ายทางบัญชีที่จะปรากฏเพียงครั้งเดียวเหล่านี้มาคำนวณ ธนาคารก็จะมีกำไรก่อนหักภาษี 1,560 ล้านฟรังก์ด้วยซ้ำ

“ธุรกิจของเราทยอยปรับตัวฟื้นคืนสู่สภาพปกติอย่างต่อเนื่อง” ออสวัลด์ เจ. กรือเบล ซีอีโอของแบงก์ ประกาศไว้ในเอกสารแถลงข่าวผลประกอบการ และเผยความคาดหมายว่าจะได้เห็นพัฒนาการต่อเนื่องในหลายๆ ไตรมาสข้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภายในปี 2010 ถ้าปัจจัยด้านตลาดและปัจจัยอื่นๆ ทั้งหลายยังเป็นใจ

นอกจากนั้น ยูบีเอสประกาศจะเดินหน้าลดสัดส่วนความเสี่ยง และจะเร่งเพิ่มความเข้มแข็งด้านทุน ขณะที่ฝ่ายงานด้านวาณิชธนกิจของแบงก์ สามารถบีบขนาดของการขาดทุน(ก่อนหักภาษี) ลงได้สู่ระดับ 1,370 ล้านฟรังก์สวิส จาก 1,850 ล้านฟรังก์สวิส เพราะได้แรงหนุนจากธุรกิจตราสารหนี้ ธุรกิจค้าเงิน และธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งล้วนสร้างผลงานดีขึ้นมาก

ผลการดำเนินงานของยูบีเอสนับว่าสวนทางกับบรรดาคู่แข่งอย่างค่ายเครดิต สวิส และดอยช์แบงก์ ซึ่งประกาศผลกำไรพุ่งสูงลิ่ว โดยได้แรงหนุนจากธุรกรรมเทรดดิ้ง

ส่วนธุรกิจธนบดีธนกิจของยูบีเอสยังอยู่ในอาการหืดขึ้นคอ เพราะมูลค่าที่ลูกค้าถอนเงินออกในไตรมาสดังกล่าวนี้อยู่ที่ 26,600 ล้านฟรังก์ แบงก์ให้ข้ออธิบายเรื่องนี้ว่า การที่ยูบีเอสสามารถยุติคดีความฟ้องร้องกับทางการสหรัฐฯ ในเรื่องเกี่ยวกับการช่วยลูกค้าในสหรัฐฯหลบหนีภาษี เมื่อต้นปีที่ผ่านมา กำลังส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อความพยายามของแบงก์ ในอันที่จะกอบกู้ความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาทั้งในส่วนของลูกค้าและในส่วนของพนักงานแบงก์ด้วย

ด้านจอห์น ครายอัน ประธานคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของยูบีเอสบอกว่า ประเด็นเรื่องชื่อเสียงของแบงก์ที่ยังต้องเคลียร์กันต่อ อีกทั้งประเด็นขวัญกำลังใจในหมู่ที่ปรึกษา เป็นสองเรื่องใหญ่ที่ยูบีเอสต้องดำเนินงานต่อ และจึงทำให้คาดว่าอาจมีลูกค้าชาวสวิสตัดสินใจตีจากแบงก์เพิ่มอีกไม่มากก็น้อย จนกว่าที่ยูบีเอสจะสามารถฟื้นคืนสู่ผลประกอบการแดนบวกสำเร็จ

ทั้งนี้ผลกำไรในฝ่ายงานด้านธนบดีธนกิจและด้านแบงกิ้งภายในสวิสนั้น ลดลง 15% อยู่ที่ระดับ 792 ล้านฟรังก์ ขณะที่มูลค่าการลงทุนไหลออกจากยูบีเอสไป 16,700 ล้านฟรังก์ โดบที่ฝ่ายงานด้านธนบดีธนกิจในสหรัฐฯสามารถผงาดออกจากแดนขาดทุนเดิมที่ 221 ล้านฟรังก์ มาเป็นกำไรที่ระดับ 110 ล้านฟรังก์ก่อนหักภาษี ส่วนใหญ่แล้วเป็นผลจากความสำเร็จในการลดต้นทุนการดำเนินงาน กระนั้นก็ตาม ยังมีส่วนที่ขาดทุนในธุรกิจ “กองทุนในส่วนของลูกค้า” มากถึง 9,900 ล้านฟรังก์ และด้านธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ก็มียอดเม็ดเงินไหลออกที่เป็นยอดเม็ดเงินใหม่ อยู่ที่ระดับ 10,000 ล้านฟรังก์

เมื่อเดือนที่แล้ว ยูบีเอสได้โรเบิร์จ เจ. แมคคานน์ คนดังจากเมอร์ริล ลินช์ เข้ามาช่วยงานในตำแหน่งประธานฝ่ายงานธนบดีธนกิจในย่านอเมริกา โดยหวังกันว่าแมคคานน์จะช่วยติดเบรกให้แก่กระแสไถ่ถอนเงินออกที่เกิดจากความเสียขวัญในหมู่ลูกค้า นอกจากนั้น กรือเบลยังเดินนโยบายลดต้นทุนอย่างเอาจริงเอาจัง อาทิ หั่นลดการจ้างงาน หั่นลดค่าตอบแทนพนักงาน และลดการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงเพื่อให้ส่งผลเป็นการเพิ่มฐานทุนของแบงก์

จุดเด่นประการหนึ่งในนโยบายของกรือเบลคือ การยอมให้รัฐบาลสวิสขายหุ้นที่ถือในแบงก์ โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลเข้ามาถือหุ้นในลักษณะเป็นมาตรการโอบอุ้มฐานะแบงก์ เพื่อให้สามารถดำเนินงานได้อย่างมีเสถียรภาพ แลเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นในหมู่นักลงทุน การให้รัฐบาลขายหุ้นออกมาเช่นนี้จึงสามารถเพิ่มความเชื่อถือในหมู่นักลงทุนบางส่วน
กำลังโหลดความคิดเห็น