ธปท.ผวายอดสินเชื่อรวม Q4 อาจมีแนวโน้มหดตัวได้ หลังพบแบงก์พาณิชย์ยังคุมเข้มการปล่อยกู้ สวนทางกับกำไรที่เพิ่มขึ้น 2.6 หมื่นล้านบาท โดยเป็นกำไรจากดอกเบี้ยถึง 66% ส่วนสินเชื่อ “เอสเอ็มอี” พ้นปากเหวแล้ว ขณะที่ “บัวหลวง” คอตก สินเชื่อพลาดเป้า
น.ส.นวพร มหารักขกะ อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงแนวโน้มสินเชื่อไตรมาส 4 ปี 2552 คาดว่า ยังมีความไม่นอนสูง เพราะระบบธนาคารพาณิชย์ยังไม่สามารถปล่อยกู้ได้ตามกลไกปกติ แม้ว่า ธปท.จะมีนโยบายหนุน
“ธปท.ไม่มั่นใจว่า สินเชื่อจะสามารถขยายตัวเป็นบวกได้ตามที่คาดไว้ได้หรือไม่ เพราะหากพิจารณาอัตราการขยายตัวของสินเชื่อรวมใน Q3 ที่ผ่านมาล่าสุด พบว่า ขยายตัวลดลงอยู่ที่ลบ 3.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ขณะที่สินเชื่อที่ให้กับภาคธุรกิจใน Q3 ก็ปรับตัวลงอยู่ที่ ลบ 6.5% จาก ลบ 2.4% ใน Q2 ที่ผ่านมา”
นอกจากนี้ หากเทียบกันปีต่อปีแล้ว ภาพรวมสินเชื่อก็ยังคงลดลง เนื่องจากการหดตัวของสินเชื่อหมุนเวียนในระบบของภาคธุรกิจ แม้ภาครัฐลงทุนไปแล้ว แต่ภาคเอกชนยังไม่มีการลงทุนตาม ประกอบกับภาคธุรกิจส่วนใหญ่ยังไม่มีการขยายการผลิตเพิ่ม ซึ่งเป็นเรื่องที่ ธปท.จะต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดต่อไป
อย่างไรก็ตาม พบว่า สินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ในไตรมาส 3 สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.3% เมื่อเทียบไตรมาส 2 ที่ติดลบ5.6% นับว่าปรับตัวครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดวิกฤต
“ยอมรับว่า แบงก์ยังคงระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อ เพื่อดูแลความเสี่ยงหนี้ของไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เพิ่มขึ้น แต่การปล่อยสินเชื่อไม่ได้อยู่กับแบงก์เพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับผู้กู้ด้วย”
ส่วนผลกำไรของธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 2 ที่เพิ่มสูงขึ้นนั้น โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 26,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 จำนวน 6,000 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากดอกเบี้ยในสัดส่วน 66% ขณะที่รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยมีสัดส่วน 33%
ด้าน นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฏ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL คาดว่า การปล่อยสินเชื่อของธนาคารในปีนี้จะติดลบ จากเป้าหมายที่คาดว่าจะโต 3-5% ขณะที่ยอดเอ็นพีแอล คาดว่าจะคุมได้ไม่เกิน 5% อย่างไรก็ตาม ในปีหน้าที่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะกลับมาขยายตัวได้ 3% ซึ่งจะทำให้การปล่อยสินเชื่อของธนาคารกลับมาขยายตัวได้
นายโฆสิต ยอมรับว่า การปล่อยสินเชื่อปีนี้คงจะติดลบ แม้เราจะหวังให้เสมอตัวก็ตาม เพราะเศรษฐกิจปีนี้เราเคยคาดการณ์ไว้นานแล้วว่าจะติดลบ 3% การปล่อยสินเชื่อก็ต้องไปตามภาวะเศรษฐกิจ แต่แม้สินเชื่อจะติดลบ แต่ไม่มีปัญหาสินเชื่อที่ต้องกังวล ดังนั้น จึงเชื่อว่า ปีนี้น่าจะคุมเอ็นพีแอลไม่เกิน 5% ได้แน่นอน
