“กรณ์” เปิดโรดแมปประเทศไทย ถึงยุคปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ลดปัญหาความยากจนประชาชน เพิ่มขีดแข่งขันเอกชน และสร้างธรรมาภิบาลในภาครัฐ
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานสัมมนา Thailand Tomorrow ในหัวข้อ “Roadmap for Thailand Economic Reform” โดยระบุว่า ขณะนี้ประเทศไทย มีปัญหาใหญ่ 3 ด้าน ได้แก่ หนึ่ง ปัญหาความยากจนของประชาชนที่รวยกระจุกจนกระจาย ซึ่งเป็นปัญหาเศรษฐกิจและสังคม สอง ความสามารถด้านการแข่งขันภาคเอกชนไทยด้อยกว่าประเทศคู่แข่ง และเพื่อนบ้าน และสาม ภาครัฐขาดประสิทธิภาพ จาก 3 ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจใน 3 ภาคหลักนี้ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศ
ทั้งนี้ ความเหลื่อมล้ำของรายได้ประชาชนดีขึ้น โดยสัดส่วนรายได้ของคนจนลดลงจาก 21% เหลือ 9% แต่การกระจายรายได้ยังคงเป็นปัญหา เนื่องจากคนจนมีสัดส่วนรายได้เพียง 4% ของจีดีพีเท่านั้น นอกจากนั้นสัดส่วนรายได้ของเกษตรกรที่วันนี้มีแรงงานภาคการเกษตรเพียง 40% แต่มีสัดส่วนรายได้ลดลงเหลือเพียง 8% ของจีดีพีเท่านั้น
ขณะที่ภาคเอกชนมีขีดความสามารถด้านการแข่งขันลดลง โดยขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศในปี 2551 ที่อยู่ในระดับ 28 ปีนี้ตกลงอยู่ในอันดับ 34 ซึ่งเป็นปัญหาจากภาคเอกชนและภาครัฐ โดยหนึ่งในปัญหา คือ ต้นทุนสินค้า โดยเฉพาะปัญหาด้านโลจิสติกส์ ซึ่งปัจจุบันมีต้นทุนสูงถึง 49% ของจีดีพี แต่หากต้องการให้แข่งขันได้ ต้องลดต้นทุนเหลือ 8-9% ของจีดีพี ให้ได้
สุดท้ายปัญหาการจัดเก็บภาษีในภาคเอกชนและประชาชนที่อยู่ในระดับ 15-16% ของจีดีพี ยังถือว่าต่ำ เมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วซึ่งอยู่ประมาณ 25-30% ของจีดีพี โดยจะต้องเร่งแก้ไข
นอกจากนั้น แนวโน้มสังคมผู้สูงอายุยังมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น โดยคาดว่า 5 ปีข้างหน้าจะต้องมีงบประมาณการดูแลเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่า จาก 1.3 แสนล้านบาท เพิ่มเป็น 2.6 แสนล้านบาท รวมถึงการบริหารทรัพย์สินของรัฐบาล เช่น ที่ดินของรัฐวิสาหกิจ ปัจจุบันผลตอบแทนที่ได้รับจากการบริหารยังน้อยมาก นอกเหนือจากนั้นยังมีปัจจัยที่ต้องแก้ไขในเรื่องการสูญเสียที่เกิดจากโครงสร้างเศรษฐกิจที่เกิดการผูกขาดในหลายภาคอุตสาหกรรม
นายกรณ์ กล่าวเสริมว่า ปัญหาเหล่านี้ทำให้รัฐต้องเร่งแก้ไขใน 3 หมวด คือ การปฏิรูปในภาคประชาชน เพื่อสร้างโอกาสทางสังคมให้ทัดเทียมกัน ปฏิรูปโครงสร้างธุรกิจ โดยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของเอกชน ตลอดจนปฏิรูปบริหารและการสร้างธรรมาภิบาลให้เกิดขึ้นในภาครัฐ
โดยในภาคประชาชนจะเน้นใน 3 เรื่องหลัก คือ การเข้าถึงแหล่งทุน ที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัย ขณะที่ในภาคเอกชน รัฐจะต้องช่วยพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน โดยใช้งบประมาณจากไทยเข้มแข็ง ซึ่งช่วงท้ายของนโยบายจะเห็นความชัดเจนของการขนส่งระบบราง นอกจากนั้น ยังต้องปฏิรูประบบภาษี ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐต้องเร่งดำเนินการ
ทั้งนี้ เป้าหมายระยะยาวเราต้องการเห็นภาษีนิติบุคคล ลดลงจาก 30% เหลือ 25% เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของเอกชน ตลอดจนการพัฒนาตลาดเงินและตลาดทุน ซึ่งคงไม่สามารถดำเนินการได้ทันทีในตอนนี้