สตาร์ซานิทารีแวร์ ปลื้มผลตอบรับลูกค้างานโฮมโปร เอ็กซ์โป 2009 ดีเยี่ยม ฟุ้งเป็นช่องทางสร้างชื่อชั้นยอด พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์สินค้ามาตรฐานสากล ราคายุติธรรม ปั้นชื่อ "star" ติดตลาดสุขภัณฑ์ไทย คาดครึ่งปีหลัง ผลประกอบการโตตามการฟื้นตัวตลาดยุโรป
นายสมชัย ว่องอรุณ รองประธานกรรมการและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สตาร์ ซานิทารีแวร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STAR กล่าวว่า การออกบูทงานโฮมโปร เอ็กซ์โป เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างชื่อ Star ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้าชาวไทยมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาสินค้า Star เน้นการส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศเป็นหลัก ขณะที่ตลาดในประเทศส่วนใหญ่จะขายผ่านโครงการทำให้ไม่ได้จัดกิจกรรม ส่งเสริมการขายถึงผู้บริโภคโดยตรง ส่งผลให้สินค้าของบริษัทไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายนัก ซึ่งหลังจากนี้จะเพิ่มการรับรู้ในตลาดสุขภัณฑ์ไทยมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายมุ่งขยายตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจัง หลังจากที่พบว่าลูกค้าตอบรับกับภาพลักษณ์สินค้าระดับกลางบนค่อนข้างดี โดยใช้จุดเด่นที่สินค้าสุขภัณฑ์ Star เป็นสินค้าที่ผลิตภายใต้มาตรฐานสากล ราคายุติธรรม เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้าในประเทศ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่วางตลาดแล้วประมาณ 3-4 ชุด ส่วนในปี 2553 เตรียมที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 4-5 ชุด ในกลุ่มราคาระดับกลางบน เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ใหม่ของ Star
สำหรับตลาดต่างประเทศในขณะนี้ ยังคงเติบโตในทิศทางที่ดีและมีคำสั่งซื้อสินค้า เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ตามภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อในยุโรปที่เริ่มฟื้นตัว ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนตั้งแต่ไตรมาสที่ 3-4 ของปีนี้ และจะส่งผลให้รายได้ของบริษัทกลับมาเติบโตอีกครั้ง ส่วนผลประกอบการของบริษัทนั้นคาดว่าสามารถผลักดันให้เติบโตตามเป้าที่วางไว้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปีนี้เป็นต้นไป เนื่องจากสามารถลดต้นทุนเรื่องราคาพลังงานลงไปได้ค่อนข้างมาก ในขณะเดียวกันการผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นช่วยให้ต้นทุนลดลงระดับหนึ่ง สะท้อนให้อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin : GP) ปรับขึ้นไปอยู่ที่ 45% ได้สำเร็จ จากปี 2551 ที่ทำได้ 40%
นายสมชัย ว่องอรุณ รองประธานกรรมการและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สตาร์ ซานิทารีแวร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STAR กล่าวว่า การออกบูทงานโฮมโปร เอ็กซ์โป เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างชื่อ Star ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้าชาวไทยมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาสินค้า Star เน้นการส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศเป็นหลัก ขณะที่ตลาดในประเทศส่วนใหญ่จะขายผ่านโครงการทำให้ไม่ได้จัดกิจกรรม ส่งเสริมการขายถึงผู้บริโภคโดยตรง ส่งผลให้สินค้าของบริษัทไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายนัก ซึ่งหลังจากนี้จะเพิ่มการรับรู้ในตลาดสุขภัณฑ์ไทยมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายมุ่งขยายตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจัง หลังจากที่พบว่าลูกค้าตอบรับกับภาพลักษณ์สินค้าระดับกลางบนค่อนข้างดี โดยใช้จุดเด่นที่สินค้าสุขภัณฑ์ Star เป็นสินค้าที่ผลิตภายใต้มาตรฐานสากล ราคายุติธรรม เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้าในประเทศ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่วางตลาดแล้วประมาณ 3-4 ชุด ส่วนในปี 2553 เตรียมที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 4-5 ชุด ในกลุ่มราคาระดับกลางบน เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ใหม่ของ Star
สำหรับตลาดต่างประเทศในขณะนี้ ยังคงเติบโตในทิศทางที่ดีและมีคำสั่งซื้อสินค้า เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ตามภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อในยุโรปที่เริ่มฟื้นตัว ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนตั้งแต่ไตรมาสที่ 3-4 ของปีนี้ และจะส่งผลให้รายได้ของบริษัทกลับมาเติบโตอีกครั้ง ส่วนผลประกอบการของบริษัทนั้นคาดว่าสามารถผลักดันให้เติบโตตามเป้าที่วางไว้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปีนี้เป็นต้นไป เนื่องจากสามารถลดต้นทุนเรื่องราคาพลังงานลงไปได้ค่อนข้างมาก ในขณะเดียวกันการผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นช่วยให้ต้นทุนลดลงระดับหนึ่ง สะท้อนให้อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin : GP) ปรับขึ้นไปอยู่ที่ 45% ได้สำเร็จ จากปี 2551 ที่ทำได้ 40%