สตาร์ ซานิทารีแวร์ ฯ เผยได้ลูกค้าใหม่ 4 ราย หลังร่วมงานสุขภัณฑ์โลก หรือ ISH 2009 ที่เยอรมนี ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาคาดได้ข้อสรุปตัวเลขออร์เดอร์เร็ว ๆ นี้และรับรู้รายได้ครึ่งปีหลัง เบื้องต้นรับไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท มั่นใจดันผลงานปีนี้เพิ่มอีก10-15% แม้เศรษฐกิจชะลอ เหตุตลาดหลักยังไปได้สวยออร์เดอร์มีต่อเนื่องและรายได้จากลูกค้าใหม่หนุน
ดร. สมชัย ว่องอรุณ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สตาร์ ซานิทารีแวร์ จำกัด (มหาชน) ( STAR ) เปิดเผยว่าหลังเข้าร่วมแสดงสินค้าในงานแสดงสินค้าสุขภัณฑ์โลก หรือ ISH 2009 ที่ประเทศเยอรมนี ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-14 มีนาคม 52 ว่า สินค้าของบริษัทฯ ได้รับการตอบรับจากทั้งลูกค้าทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่เป็นอย่างดี โดยการแสดงสินค้าปีนี้ บริษัทฯ ได้นำสินค้าใหม่ที่เพิ่งจะพัฒนาเข้าสู่ตลาดเมื่อปี 51 ที่ผ่านมาเข้าไปจัดแสดงในงานดังกล่าวเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะกลุ่มสินค้า two tone รวมทั้ง คอลเลคชั่น Black & White สุขภัณฑ์ที่เน้นสีขาวสลับดำ ซึ่งเป็นสีสันที่คาดว่าจะเป็นเทรนด์นิยมในตลาดสุขภัณฑ์โลกปี 2008-2009 ส่งผลให้ลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ให้ความสนใจสินค้า STARสูง
"ปีนี้ถือได้ว่า STAR ประสบความสำเร็จจากการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า ISH ที่เยอรมนีเกินกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ เพราะเราได้นำสินค้าใหม่ที่ส่งวางตลาดในไทย ไปจัดแสดงด้วย ซึ่งลูกค้าใหม่สนใจสินค้าของบริษัทอย่างมาก และบางรายตัดสินใจสั่งซื้อสินค้า ซึ่งปีนี้ STAR ได้ลูกค้าใหม่รายใหญ่จากงานดังกล่าว 4 ราย โดย 1 รายเป็นลูกค้าจากยุโรปที่บริษัทฯ ยังไม่เคยส่งสินค้าเข้าไปจัดจำหน่ายมาก่อน อีก 2 รายเป็นผู้นำเข้าจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตะวันออกกลาง และอีก 1 รายจากแอฟริกา ซึ่งทั้งตะวันออกกลาง และ แอฟริกา ถือเป็นตลาดใหม่ที่บริษัทฯ ยังไม่เคยเปิดตลาดมาก่อนเช่นเดียวกัน"
ดร.สมชัย กล่าวอีกว่า ขณะนี้ลูกค้าใหม่ทั้ง 4 ราย อยู่ระหว่างการเจรจาในรายละเอียดเรื่องตัวสินค้า คาดสรุปเรื่องคำสั่งซื้อสินค้าได้ในเร็วๆ นี้ และจะรับรู้เป็นรายได้ครึ่งปีหลัง เบื้องต้นคาดว่าจะทำรายได้ไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท จากลูกค้าทั้ง 4 ราย ซึ่งรายได้ส่วนนี้ยะงไม่ได้รวมไว้ในประมาณการปีนี้
โดยปี 52 บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตรายได้ไว้ที่ 10-15% จากปี 51 ที่มีรายได้อยู่ที่ 230 ล้านบาท ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัว เพราะตลาดส่งออกของ STAR โดยเฉพาะยุโรป ซึ่งเป็นตลาดหลักยังเติบโตในทิศทางที่ดี และมีออร์เดอร์จากลูกค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มลูกค้าเดิมและใหม่ ตลอดจนออร์เดอร์ใหม่ ๆ ที่จะมีมาเพิ่ม
" วิกฤตการเงินโลกครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อบริษัทฯ ไม่มากนัก ส่วนหนึ่งเพราะ STAR เคยผ่านวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจเมื่อปี 40 มาแล้ว จึงรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้อย่างคล่องตัว ประกอบกับถ้าเทียบกับในอดีต พบว่า STAR มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งขึ้น มีหนี้สินเพียง 0.5 เท่า มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นสะท้อนให้มูลค่าหุ้นตามบัญชี (Book Value) ณ สิ้นปี 51 อยู่ที่ระดับ 2.58 บาท และเรายังจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้เป็นครั้งแรกด้วย" ดร.สมชัย กล่าว
ดร. สมชัย ว่องอรุณ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สตาร์ ซานิทารีแวร์ จำกัด (มหาชน) ( STAR ) เปิดเผยว่าหลังเข้าร่วมแสดงสินค้าในงานแสดงสินค้าสุขภัณฑ์โลก หรือ ISH 2009 ที่ประเทศเยอรมนี ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-14 มีนาคม 52 ว่า สินค้าของบริษัทฯ ได้รับการตอบรับจากทั้งลูกค้าทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่เป็นอย่างดี โดยการแสดงสินค้าปีนี้ บริษัทฯ ได้นำสินค้าใหม่ที่เพิ่งจะพัฒนาเข้าสู่ตลาดเมื่อปี 51 ที่ผ่านมาเข้าไปจัดแสดงในงานดังกล่าวเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะกลุ่มสินค้า two tone รวมทั้ง คอลเลคชั่น Black & White สุขภัณฑ์ที่เน้นสีขาวสลับดำ ซึ่งเป็นสีสันที่คาดว่าจะเป็นเทรนด์นิยมในตลาดสุขภัณฑ์โลกปี 2008-2009 ส่งผลให้ลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ให้ความสนใจสินค้า STARสูง
"ปีนี้ถือได้ว่า STAR ประสบความสำเร็จจากการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า ISH ที่เยอรมนีเกินกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ เพราะเราได้นำสินค้าใหม่ที่ส่งวางตลาดในไทย ไปจัดแสดงด้วย ซึ่งลูกค้าใหม่สนใจสินค้าของบริษัทอย่างมาก และบางรายตัดสินใจสั่งซื้อสินค้า ซึ่งปีนี้ STAR ได้ลูกค้าใหม่รายใหญ่จากงานดังกล่าว 4 ราย โดย 1 รายเป็นลูกค้าจากยุโรปที่บริษัทฯ ยังไม่เคยส่งสินค้าเข้าไปจัดจำหน่ายมาก่อน อีก 2 รายเป็นผู้นำเข้าจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตะวันออกกลาง และอีก 1 รายจากแอฟริกา ซึ่งทั้งตะวันออกกลาง และ แอฟริกา ถือเป็นตลาดใหม่ที่บริษัทฯ ยังไม่เคยเปิดตลาดมาก่อนเช่นเดียวกัน"
ดร.สมชัย กล่าวอีกว่า ขณะนี้ลูกค้าใหม่ทั้ง 4 ราย อยู่ระหว่างการเจรจาในรายละเอียดเรื่องตัวสินค้า คาดสรุปเรื่องคำสั่งซื้อสินค้าได้ในเร็วๆ นี้ และจะรับรู้เป็นรายได้ครึ่งปีหลัง เบื้องต้นคาดว่าจะทำรายได้ไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท จากลูกค้าทั้ง 4 ราย ซึ่งรายได้ส่วนนี้ยะงไม่ได้รวมไว้ในประมาณการปีนี้
โดยปี 52 บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตรายได้ไว้ที่ 10-15% จากปี 51 ที่มีรายได้อยู่ที่ 230 ล้านบาท ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัว เพราะตลาดส่งออกของ STAR โดยเฉพาะยุโรป ซึ่งเป็นตลาดหลักยังเติบโตในทิศทางที่ดี และมีออร์เดอร์จากลูกค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มลูกค้าเดิมและใหม่ ตลอดจนออร์เดอร์ใหม่ ๆ ที่จะมีมาเพิ่ม
" วิกฤตการเงินโลกครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อบริษัทฯ ไม่มากนัก ส่วนหนึ่งเพราะ STAR เคยผ่านวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจเมื่อปี 40 มาแล้ว จึงรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้อย่างคล่องตัว ประกอบกับถ้าเทียบกับในอดีต พบว่า STAR มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งขึ้น มีหนี้สินเพียง 0.5 เท่า มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นสะท้อนให้มูลค่าหุ้นตามบัญชี (Book Value) ณ สิ้นปี 51 อยู่ที่ระดับ 2.58 บาท และเรายังจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้เป็นครั้งแรกด้วย" ดร.สมชัย กล่าว